วันนี้ ในโอกาสพิธีศพของซัยยิดหะซัน นัสรุลเลาะห์ อดีตผู้นำขบวนการฮิซบุลเลาะห์แห่งเลบานอน เราจะย้อนรอยถึงมรดกแห่งการต่อต้านของเขาต่อจักรวรรดิอเมริกัน-อิสราเอลในภูมิภาค ตั้งแต่การรอดพ้นจากความพยายามลอบสังหารหลายครั้งไปจนถึงการสนับสนุนปฏิบัติการ “พายุอัลอักซอ” ของชาวปาเลสไตน์ นัสรุลเลาะห์ได้ยืนหยัดต่อต้านอำนาจสหรัฐมาโดยตลอด
จากวัยเด็กสู่เส้นทางการเมือง
ซัยยิดหะซัน นัสรุลเลาะห์ เติบโตขึ้นในย่านบูรจ์ ฮัมมูด ทางตะวันออกของกรุงเบรุต ซึ่งเป็นชุมชนที่ยากจนและหลากหลายทางเชื้อชาติ มีทั้งชาวปาเลสไตน์และชาวเลบานอนจากทุกศาสนา ไม่ว่าจะเป็นสุหนี่ ชีอะห์ คริสเตียน อาร์มีเนียน และเคิร์ด ประสบการณ์ชีวิตท่ามกลางความทุกข์ยากของชาวปาเลสไตน์ที่ถูกขับไล่ออกจากบ้านเกิดเมืองนอน ทำให้เขาซึมซับแนวคิดเกี่ยวกับความยุติธรรมและการต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้ถูกกดขี่
สงครามกลางเมืองเลบานอนปะทุขึ้นในปี 1975 ส่งผลให้ครอบครัวของเขาต้องลี้ภัยไปยังภาคใต้ของประเทศ ขณะนั้น นัสรุลเลาะห์อายุ 15 ปี และได้เข้าร่วมขบวนการอามัล เส้นทางการเมืองของเขาเชื่อมโยงอย่างแนบแน่นกับการศึกษาในศาสนาอิสลาม โดยในปี 1976 เขาเดินทางไปอิรักเพื่อศึกษาในสำนักศาสนาของซัยยิดอับบาส อัล-มูซาวี และเมื่อกลับสู่เลบานอนในปี 1979 เขาก็ได้เป็นผู้บัญชาการกองกำลังของอามัลในหุบเขาเบกาอ์
กำเนิดฮิซบุลเลาะห์และเส้นทางการนำ
ปี 1982 อิสราเอลบุกเลบานอน การรุกรานครั้งนี้นำไปสู่ความขัดแย้งทางยุทธศาสตร์ในกลุ่มอามัล ซัยยิดนัสรุลเลาะห์แยกตัวออกมาและร่วมก่อตั้ง “ฮิซบุลเลาะห์” องค์กรต่อต้านอิสราเอลและการแทรกแซงของสหรัฐในภูมิภาค เขาเติบโตขึ้นในบทบาทผู้นำทางทหารและได้รับความเชื่อมั่นจากเพื่อนร่วมอุดมการณ์
ในปี 1992 หลังจากการลอบสังหารอับบาส อัล-มูซาวี ซัยยิดนัสรุลเลาะห์ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการฮิซบุลเลาะห์ เขาสร้างความแตกต่างให้กับองค์กรด้วยความสามารถในการพูด การสร้างสายสัมพันธ์กับประชาชน และบุคลิกที่ผสมผสานระหว่างความเคร่งขรึม อารมณ์ขัน และความอ่อนน้อมถ่อมตน
ชัยชนะทางทหารและการต่อต้านจักรวรรดิอิสราเอล-อเมริกัน
นัสรุลเลาะห์ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำระดับภูมิภาคที่เน้นย้ำถึงศักดิ์ศรีและเกียรติยศของอาหรับในการเผชิญหน้ากับอิสราเอลและสหรัฐ ภายใต้การนำของเขา ฮิซบุลเลาะห์ขยายฐานสนับสนุนทางสังคมและการเมือง ควบคู่ไปกับความสำเร็จในการรบแบบกองโจรต่ออิสราเอล
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในสงครามเลบานอนปี 2006 ขณะที่อิสราเอลพยายามสังหารเขา นัสรุลเลาะห์ปรากฏตัวทางโทรทัศน์ประกาศว่า “ดูเรือรบอิสราเอลที่อยู่ในน่านน้ำเลบานอนให้ดี” เพียงไม่นานหลังจากนั้น กองกำลังฮิซบุลเลาะห์ได้โจมตีเรือรบนั้นจนระเบิดกลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ของสงครามครั้งนั้น การเผชิญหน้าดังกล่าวจบลงด้วยการปล่อยตัวเชลยศึกชาวเลบานอนจากคุกอิสราเอล ถือเป็นชัยชนะทางยุทธศาสตร์ของฮิซบุลเลาะห์
บทบาทในปฏิบัติการพายุอัลอักซอ และการลอบสังหาร
หลังจากที่ปฏิบัติการ “พายุอัลอักซอ” ของขบวนการต่อสู้แห่งปาเลสไตน์เริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม 2023 นัสรุลเลาะห์ได้ประกาศเปิดแนวรบจากเลบานอนเพื่อสนับสนุนการต่อต้านของปาเลสไตน์ การโจมตีของอิสราเอลที่ตามมาได้คร่าชีวิตประชาชนในปาเลสไตน์และเลบานอนไปกว่า 3,960 รายระหว่างเดือนตุลาคม 2023 ถึงพฤศจิกายน 2024
วันที่ 27 กันยายน 2024 อิสราเอลใช้ระเบิดหนัก 2,000 ปอนด์ที่ผลิตโดยสหรัฐ ทิ้งใส่ย่านดาฮิยะห์ ทางตอนใต้ของเบรุต อาคารหลายแห่งถูกทำลายเพื่อสังหารนัสรุลเลาะห์ วันต่อมา ฮิซบุลเลาะห์ยืนยันว่าเขาได้สละชีพแล้ว
มรดกแห่งการต่อสู้และแรงบันดาลใจ
ภาพถ่ายและคำพูดของซัยยิดหะซัน นัสรุลเลาะห์ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านอิสราเอลและจักรวรรดิอเมริกัน ไม่เพียงแต่ในเลบานอน แต่รวมถึงทั่วทั้งภูมิภาค ปัจจุบัน ภาพลักษณ์ของเขายังคงปรากฏอยู่ท่ามกลางนักสู้ที่ต่อต้านการรุกรานและการยึดครองของอิสราเอล พร้อมยืนยันว่า การต่อต้านจะยังคงดำเนินต่อไปแม้หลังจากการสละชีพของเขาแล้วก็ตาม