ผู้หญิงยาซิดี ถูกไอซิสจับกุมเป็นทาสทางเพศ “ถูกข่มขืนทุกวัน” ตลอด 7 เดือน

เหยื่อบอกว่า "เธออยากจะตายเสียดีกว่าอยู่กับคนดังกล่าว"

เหยื่อบอกว่าคนที่จับเธอไป "เหมือนไม่ใช่มนุษย์" (Sky News)

อินดีเพ็นเดนต์ – ผู้หญิงยาซิดีเหยื่อทาสทางเพศซึ่งถูกกลุ่มก่อการร้ายไอซิสจับกุมไว้เจ็ดเดือน เธอบอกว่า คนที่จับเธอไป “เหมือนไม่ใช่มนุษย์”

หญิงสาววัย 25 ปี มีลูก 4 คน ถูกจับโดยนักรบญิฮาดิสต์ในซีเรีย เธอบอกว่า เธอถูกข่มขืนทุกวันโดยคนที่จับกุมเธอ

“ฉันไม่สามารถบอกคุณได้ว่าคนเหล่านี้น่าสยองขวัญยังไง พวกเขาเหมือนไม่ใช่มนุษย์ คุณไม่อาจจินตนาการมันได้” หญิงชาวยาซิดี (Yazidi) บอกกับสำนักข่าวสกายนิวส์

เธอบอกว่าลูกๆ ของเธอถูกตี เพื่อที่ให้แน่ใจว่าเธอจะทำตามที่พวกเขาสั่งเธอ “ฉันกลัวว่าเขา (คนที่จับกุมเธอ ชื่อโอมาร์) จะพรากลูกๆ ไปจากฉัน”

“พวกเขาใช้ความรุนแรงและตะคอกทุกวัน พ่อและพี่ชายของฉันถูกนำตัวไป และถึงตอนนี้เราไม่ได้ข่าวของพวกเขาเลย”

“ส่วนใหญ่พวกเขาจะถูกฆ่า แต่มันก็ดีกว่า จะดีกว่าหากพวกเขาตายไปแล้วและไม่ได้อยู่ในการจองจำของคนเหล่านี้ แม้กระทั่งเรา เราก็ต้องการที่จะตายมากกว่าจะต้องอยู่กับคนเยี่ยงพวกนี้”

ในเดือนธันวาคม นาเดีย มูราด บาซี ตาฮา อธิบายเหตุการณ์น่าสยองขวัญที่เธอถูกกักขังโดยนักรบไอซิสแก่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อที่จะกระตุ้นให้พวกเขานำตัวผู้กระทำผิดด้วยการใช้ความรุนแรงดังกล่าวมาลงโทษ

“เรา ผู้หญิงและเด็กถูกนำตัวโดยรถบัสไปยังพื้นที่อื่น” เธอกล่าว “ตลอดทางพวกเขาสร้างความอัปยศอดสูแก่พวกเรา พวกเขาสัมผัสเรา และละเมิดเรา”

“พวกเขาพาเราพร้อมกับชาวยาซิดีมากกว่า 150 ครอบครัวไปเมืองยังโมซูล มีครอบครัวชาวยาซิดีและเด็กหลายพันที่ถูกแลกเปลี่ยนเป็นของขวัญ

“หนึ่งในคนเหล่านี้เข้ามาหาฉัน เขาอยากจะนำตัวฉันไป ฉันยืนนิ่งแข็ง เขาบังคับฉันให้อยู่ในหน่วยทหารของเขา

“เขาดูหมิ่นลดเกียรติฉันทุกวัน บังคับให้ฉันสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่อาจปกปิดร่างกายของฉัน ฉันถูกทรมาน”

“ฉันพยายามที่จะหลบหนี แต่พวกยามจับไว้ได้ คืนนั้นเขาทำร้ายฉัน

“เขาสั่งให้ฉันถอดเสื้อผ้าออก แล้วก็ปล่อยฉันอยู่ในห้องนั้นกับพวกยาม  จากนั้นพวกเขาก็ดำเนินการชั่วของพวกเขาจนกระทั่งฉันสลบไป”

ผู้ก่อการร้ายไอซิสข่มขืนผู้หญิงยาซิดี เพราะพวกเขาอ้างว่าศาสนาอิสลามอนุญาตให้พวกเขามีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม

โรทนา เบกัม (Rothna Begum) สตรีนักวิจัยสิทธิมนุษยชนจากฮิวแมนไรต์วอตช์ กล่าวว่า “กองกำลังไอซิสได้ลักพาตัวชาวยาซิดีหลายพันคน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2014 และข่มขืน บังคับทางเพศ และก่ออาชญากรรมที่น่ากลัวอื่น ๆ ต่อสตรีและเด็กสาวชาวยาซิดีจำนวนมาก

“เหล่านี้ล้วนเป็นอาชญากรรมสงคราม และอาจเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (crime against humanity)”

“เราพูดคุยกับผู้หญิงและเด็กสาวที่หนีออกมา พวกเขาบอกเราว่า ถูกบังคับให้แต่งงาน ซื้อและขายใน “ตลาดทาส” หรือให้เป็น “ของขวัญ”

“ไอซิสยอมรับถึงก่ออาชญากรรมดังกล่าว และพยายามที่จะแสดงเหตุผล โดยพวกเขาจัดให้ผู้หญิงและเด็กสาวยาซิดี เป็น”ทรัพย์ที่ชิงมาได้จากสงคราม” (spoils of war) สำหรับนักรบของตน และอ้างว่าศาสนาอิสลามอนุญาตให้มีเซ็กซ์กับที่ผู้ไม่ใช่มุสลิมที่เป็น “ทาส”