Mintpressnews/ Reuters – ทหารอิสราเอลยิงชาวปาเลสไตน์ 2 คน ซึ่งเป็นหญิงตั้งครรภ์และน้องชายเสียชีวิต โดยปล่อยให้นอนเลือดไหลบนพื้นดิน ทั้งกันไม่ให้หน่วยแพทย์ปาเลสไตน์เข้าช่วยเหลือพวกเขา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธ (27) ที่ผ่านมา โดยทหารอิสราเอลยิงและสังหารหญิงชาวปาเลสไตน์ที่ตั้งท้อง 5 เดือน พร้อมกับน้องชายของเธอที่ด่านกาลันดียา (Qalandia) ทางตอนเหนือของเขตยึดครองกรุงเยรูซาเล็ม
ทหารยิงใส่เป้าหมายที่เป็นผู้หญิงคนดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 15 นัด และห้ามไม่ให้หน่วยแพทย์ปาเลสไตน์เข้าช่วยเหลือทั้งสอง
กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์กล่าวว่า ผู้หญิงที่ถูกฆ่าชื่อ มาราม ซาเลห์ อาบูอิสมาเอล อายุ 24 ปี จากหมู่บ้านเบตซูริก ทางตอนเหนือของกรุงเยรูซาเล็มเขตยึดครอง เธอกำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน และมีลูกสาวอีกสองคน ชื่อซาร่าห์ และ ริมาส
น้องชายของเธอ อิบราฮิม ตาฮา อายุ 16 ปี ก็ถูกทหารฆ่าตายพร้อมกับเธอ
พยานกล่าวว่า ทหารอิสราเอลเปิดฉากยิงเข้าใส่ชาวปาเลสไตน์ 2 คนนี้ และปล่อยให้นอนเลือดไหลบนพื้นดิน ทั้งกันไม่ให้หน่วยแพทย์ปาเลสไตน์เข้าช่วยเหลือพวกเขา หลังจากประกาศปิดพื้นที่
เขาเสริมว่าทหารยิงอย่างน้อยยี่สิบครั้งไปที่ 2 ชาวปาเลสไตน์จากระยะไกล
ตำรวจอิสราเอลกล่าวว่า เจ้าหน้าที่หน่วยชายแดน ได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ผู้หญิงปาเลสไตน์ เนื่องจากเธอ “เดินไปยังด่านบนถนนพร้อมถือมีดในมือ”
ข้อกล่าวหาของอิสราเอลถูกหักล้างโดยพยานชาวปาเลสไตน์หลายคนที่กล่าวว่า ทั้งสองไม่เข้าใจภาษาฮิบรู และกำลังพยายามที่จะไปยังด่านที่ตั้งบนถนนหลังจากผู้หญิงเพิ่งได้รับใบอนุญาตให้เข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มเป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ
ต่อมาทหารก็เริ่มยิงระเบิดแก๊สและระเบิดเสียงเข้าใส้ชาวปาเลสไตน์หลายสิบคนที่อยู่ในบริเวณนนั้นเพื่อบังคับให้พวกเขาออกไป
นอกจากนั้นทหารก็ยังยิงแก๊สน้ำตาจำนวนมากเข้าใส่นักข่าวชาวปาเลสไตน์
สื่ออิสราเอลรายงานว่า กองทัพได้รับการแจ้งเตือนระดับสูงหลังจากได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีที่จะเกิดขึ้นโดย “ชาวปาเลสไตน์กับเข็มขัดระเบิด”
Haaretz สื่อรายวันชื่อดังของอิสราเอล รายงานว่า ชาวปาเลสไตน์ทั้งสอง “ถูกสั่งให้หยุด แต่พวกเขาก็ยังคงเดินเข้าไปใกล้ทหารในช่องทางสำหรับขับรถผ่าน ไม่ใช่สำหรับคนเดินเท้า”
ทหารได้ตะโกนบอกหญิงตั้งครรภ์และน้องชายของเธอด้วยภาษาฮิบรู ซึ่งไม่ใช่ภาษาที่พวกเขาพูดหรือเข้าใจ