สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน หรือดินแดนเปอร์เซียเดิม นับเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นดินแดนแห่งอารยธรรมอันเก่าแก่ที่สุดในโลก ประเทศนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสุดงดงามมากมายที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกอยู่หลายแห่ง
แม้ภาพของอิหร่านในสายตาชาวโลกส่วนใหญ่จะเป็นด้านลบ แต่สำหรับคนที่เคยไปเยือนอิหร่านมาแล้วย่อมรู้ว่า ภาพจริงของอิหร่านไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกวาดให้น่ากลัว น้ำใจของคนอิหร่านยิ่งใหญ่และมีเหลือเฟือสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกับชาวไทยที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศดำเนินมายาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
และสำหรับคนที่ต้องการเปิดมุมมองใหม่ๆ หรือมีความสนใจที่จะไปท่องเที่ยวอิหร่าน เช่นนั้นแล้ว คุณควรจะไปเยี่ยมชมอะไรบ้าง ถ้าคุณได้ไปอิหร่าน?
ซึ่งต้องกล่าวว่า คุณจะพลาดอะไรไปบ้างถ้าไม่ไปอิหร่าน?
ชาวอิหร่านมีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ 5,000 ปีของพวกเขา โดยมองว่าตัวเองอยู่ในระดับเดียวกับกรีซและโรม ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าสถานที่ซึ่งเรารวบรวมมาเพียง 15 แห่งนี้เป็นเพียงส่วนน้อยนิดจากสถานที่อันงดงงามและน่าหลงใหลซึ่งมีอยู่มากมายในดินแดนเปอร์เซียแห่งนี้
เตหะราน
เตหะรานเป็นหัวใจทางกลางเมืองและทางปัญญาของอิหร่าน มันไม่ใช่เมืองที่สวยที่สุดในอิหร่าน เมืองสวยๆ นั้นคือสถานที่อย่างเช่นอิสฟาฮาน, คาชาน, ยัซด์, ชิราซ และอื่นๆ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นเมืองที่สำคัญที่สุด มีชีวิตชีวา และน่าเร้าใจที่สุด คุณต้องเริ่มต้นการเดินทางที่นี่เพื่อจับจังหวะของการตัดผ่านกันของศาสนา การเมือง ความทันสมัย และความขัดแย้งทางชนชั้น
ท่องเที่ยวเมืองนี้จากทางเหนือไปทางใต้เพื่อสัมผัสถึงความตึงเครียดทางชนชั้น เมื่อเข้าใกล้ภูเขามากขึ้น ท้องถนนกว้างขวางขึ้น บ้านเรือนก็หรูหราราคาแพงขึ้นไปด้วย ตอนเหนือของเตหะรานให้ความรู้สึกสวยงามที่ทันสมัยมาก มีอาณาบริเวณในรูปแบบต่างๆ มากมาย
1) อนุสาวรีย์เสรีภาพ (ชาห์ยัด/อาซาดี)
อนุสาวรีย์แห่งความคิดสมัยใหม่ของอิหร่าน เดิมถูกออกแบบมาเพื่อระลึกถึงอดีตชาห์แห่งอิหร่าน ปัจจุบันถูกตั้งชื่อใหม่ว่าเป็นอนุสาวรีย์แห่งเสรีภาพ ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ชุมนุมทางการเมืองในอิหร่านที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดหลายครั้ง โดยฉพาะเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ 1979 ตอนที่อิมามโคมัยนี ผู้นำการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน เดินทางกลับมาจากปารีสหลังจากถูกเนรเทศเป็นเวลาหลายสิบปี ประชาชนอิหร่านนับล้านได้ออกมาต้อนรับท่านอิมามโคมัยนี (รฎ) กลับคืนสู่มาตุภูมิ และอนุสาวรีย์แห่งนี้ก็กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการปฏิวัติอิสลามและเสรีภาพของชาวอิหร่านตลอดมา
2) เทือกเขาทางเหนือของเตหะราน/ดัรบันด์
เราอาจหลงเข้าไปในประวัติศาสตร์อันมั่งคั่ง ความรุ่งเรืองในสมัยกลาง และความตื่นเต้นทางการเมืองสมัยใหม่ของอิหร่านได้อย่างง่ายดาย แต่ความสวยงามทางธรรมชาติของอิหร่านก็ไม่ควรจะถูกข้ามไป คุณสามารถเดินทางจากเทือกเขาสูงตระหง่าน (อัลบอร์ซ) ไปยังที่ราบดัชเต คาวิร ซึ่งชวนให้นึกถึงอาริโซน่าและนิวเม็กซิโกไปจนถึงผืนป่าเขียวชอุ่มทางเหนือของอิหร่าน แม้ว่าการเดินทางของคุณจะนำคุณมาสู่นครหลวงที่มีผู้คนหนาแน่นในเตหะราน ก็ขอให้หาเวลาไปสำรวจเสน่ห์ของเทือกเขาดัรบันด์ทางตอนเหนือ ที่พร้อมพรั่งไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และพื้นที่ปีนเขาที่เย้ายวนใจ
อิสฟาฮาน
เราจะเริ่มต้นจากที่ไหนในอิสฟาฮาน ไม่มีอะไรมากไปกว่าการจะบอกว่ามันเป็นหนึ่งในเมืองที่สง่างามอย่างแท้จริงในโลกนี้ ประชาชนในเมืองนี้ได้กล่าวอ้างถึงเมืองอันเพริดแพร้วของพวกเขาว่า “อิสฟาฮาน เนสเฟ จาฮาน” (อิสฟาฮานเป็นครึ่งหนึ่งของโลก) และนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ได้มายังเมืองที่น่าหลงใหลแห่งนี้ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ซาฟาวิดต่างก็เห็นด้วย คุณต้องออกจากเตหะรานเพื่อชมความมั่งคั่งของวัฒนธรรมเปอร์เซียโบราณ ก็ไม่มีที่ใดจะดีไปกว่าอิสฟาฮาน
คุณอาจใช้เวลาหนึ่งเดือนได้ในอิสฟาฮาน และไม่เหน็ดเหนื่อยกับการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ แต่นี่คือบางแห่งที่ต้องไป :
3) นักเช จาฮาน
ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นหนึ่งในจัสตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก และปัจจุบันมันเป็นที่ตั้งของมัสยิดชาห์/อิหม่าม มัสยิดเชคลุตฟุลลอฮ์ และพระราชวังอาลี คาปู มันยังเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการเริ่มต้นสำรวจงานศิลปหัตถกรรมเปอร์เซียโบราณ และเที่ยวเตร่ในตลาด
4) มัสยิดชาห์/อิหม่าม
เรียกได้ทั้งมัสยิเด ชาห์ และมัสยิเด เอมาม (หลักฐานอีกชิ้นหนึ่งของชื่อเปลี่ยนไปหลังจากการปฏิวัติปี 1978-1979 มันเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของซาฟาวิด
5) มัสยิดเชคลุตฟุลลอฮ์
โดมของมัสยิดที่สวยงามโอ่อ่านี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมอิสลามชิ้นเอกที่ยิ่งใหญ่ในโลก โดมของมัสยิดเชคลุตฟุลลอฮ์
6) อาลี คาปู
พระราชวังของราชวงศ์ซาฟาวิด ขณะที่สถาปัตยกรรมอิสลามของอิหร่านรักษาไว้ซึ่งลักษณะพิเศษของมัสยิดเป็นส่วนใหญ่ แต่นี่คือพระราชวังหนึ่งเดียวในอิสฟาฮานที่มีลักษณะพิเศษมากมายมานำเสนอ
ที่ควรจะกล่าวถึงเป็นพิเศษก็คือความงดงามประณีตของโดมและห้องดนตรี
7) วิหารแวงก์ (โบสถ์อาร์เมเนียน)
เนื่องจากความโดดเด่นของอิสลาม ทำให้ง่ายที่จะมองข้ามความจริงที่ว่าอิหร่านก็มีมรดกของชาวคริสเตียน ยิว โซโรแอสเตอร์ บาฮาย และพุทธอยู่มากมายด้วยเช่นกัน มรดกของชาวคริสเตียนในอิหร่านมองเห็นได้ดีที่สุดผ่านประชากรชาวอาร์เมเนีย เช่นวิหารแวงก์จากศตวรรษที่ 17 ในอิสฟาฮาน
และขณะที่เราสามารถจัดทำรายชื่อสถานที่ทั้งหมดได้จากอิสฟาฮาน นี่คือสถานที่เพิ่มเติมอีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ พระราชวัง/สวน เชเฮล โซตูน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมแบบอิสลามชั้นเลิศแห่งหนึ่ง ชื่อเชเฮล โซตูน หมายถึง “สี่สิบเสา” แต่ที่มองเห็นมีเพียงยี่สิบเสาเท่านั้น “อีก” ยี่สิบสิบคือเงาสะท้อนของเสาในน้ำ จึงทำให้มีทั้งหมดสี่สิบเสา มันเป็นเครื่องเตือนให้รำลึกว่าในหลักความงามของอิสลามนั้น ความสวยงามทางโลกมักจะเป็นเครื่องเตือนให้รำลึกถึงความสวยงามของพระผู้เป็นเจ้า
ที่อื่นก็น่าชวนใจเช่นกัน ลองเที่ยวออกไปจากอิสฟาฮานเพื่อดูความสวยงามที่อื่นๆ ในอิหร่านกัน จุดหมายที่ดีที่สุดลำดับถัดไปก็คือ ชีราซ เมืองที่ถูกยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นเมืองแห่ง “กวีและนักบุญ”
8) สุสานของซาดี นักจริยศาสตร์แห่งชีราซ
นี่คือระดับหนึ่งของการให้ความสำคัญกับวรรณกรรมของชาวเปอร์เซีย เด็กๆ ชาวอิหร่านได้เรียนรู้ผลงานชิ้นเอกจากศตวรรษที่ 13 ของพวกเขาในโรงเรียนประถม มันคล้ายกับการสอนนักเรียนประถมปีที่สามของอเมริกาให้รู้จักชอเซอร์ (Chaucer) สวนกุหลาบของซาดี (โกเลสตัน) ถือว่าเป็นอัญมณีทางด้านจริยธรรม และความน่าพิศวงของมนุษย์ การใช้ถ้อยคำของซาดีได้สร้างแรงบันดาลใจทางจริยธรรมขั้นสูงสุดให้แก่ชาวอิหร่านในการยอมรับศักดิ์ศรีภายในของมวลมนุษยชาติ
9) สุสานของฮาฟิซ บรมครูแห่งโคลงรัก
ในปูชนียสถานของชาวเปอร์เซียจะไม่ขาดนักกวีผู้ยิ่งใหญ่ และฮาฟิซเป็นบรมครูแต่เพียงผู้เดียวในด้านกาซาล (โคลงรักสั้นๆ) ฟิรเดาซีเป็นบรมครูแห่งกาพย์แนวชาตินิยม ซาดีเป็นบรมครูแห่งร้อยแก้ว แต่ถ้ารสนิยมของคุณคือโคลงรักที่ลึกลับและให้ความรู้สึก ฮาฟิซคือนักกวีของคุณ
มีกี่แห่งบนโลกนี้ที่จะมีสุสานของนักกวีเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์? ที่นี่คุณจะได้เห็น
10) สุสานของไซรัสมหาราช
ไซรัสถูกกล่าวถึงในคัมภีร์ไบเบิลว่าเป็นเมสไซอาห์ เนื่องจากมีรายงานเรื่องการปลดปล่อยชาวยิวจากที่กักขังของบาบิโลน ชาวอิหร่านมองกลับไปยังราชวงศ์อาคีมินิดว่าเป็นช่วงหนึ่งที่โดดเด่นในความรุ่งเรืองของเปอร์เซียในยุคก่อนอิสลาม
11) เปอร์ซิโปลิส
มหาราชวังแห่งอาณาจักรเปอร์เซียในยุคก่อนอิสลาม เป็นหนึ่งในเมืองหลวงของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของโลก ตั้งอยู่นอกเมืองชีราซ ทรงคุณค่าในการเยี่ยมชม
มันคงน่าละอายที่จะทิ้งสถานที่พิเศษอีกแห่งหนึ่งไป นั่นก็คือ นักเช รุสตัม สถานที่แห่งนี้มีอายุประมาณ 3,000 ปี และแสดงตัวอย่างของกฎการลงโทษจากพระผู้เป็นเจ้าในประวัติศาสตร์อิหร่าน
มัชฮัด
12) สุสานของอิหม่ามรีซา (ริฎอ)
อิหร่านไม่ใช่ประเทศที่คนส่วนใหญ่เป็นชีอะฮ์ตลอดมา ความแตกต่างนั้นเกิดขึ้นหลังจากการสถาปนาราชวงศ์ซาฟาวิด นิกายชีอะฮ์มีหลากหลายสาขา แต่ที่โดดเด่นมากที่สุดคือสายอิหม่ามสิบสอง เรียกกันตามบรรดาลูกหลานทั้งสิบสองคนของศาสดามุฮัมมัด ผ่านท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ บุตรสาวของท่านและอิหม่ามอาลี สามีของนาง อิหม่ามรีซา คืออิหม่ามคนที่แปดจากบรรดาอิหม่ามเหล่านี้ ท่านถูกสังหารและฝังที่เมืองมัชฮัดนี้ ซึ่งความหมายของชื่อเมืองก็คือ “สถานที่แห่งการพลีชีพ” การมาเยือนเมืองแห่งสุสานสถานแห่งนี้เป็นหัวใจสำคัญในการทำความเข้าใจศูนย์รวมของการแสวงบุญทางศาสนาในอิหร่าน
13) สุสานของฟิรโดซี
ฟิรโดซีคือนักกวีแห่งชาติ(และเป็นนักชาตินิยม) ของอิหร่าน ผลงานเรื่อง “ชาห์-นาเมห์” (คัมภีร์แห่งราชา) ได้รับการนับถืออย่างกว้างขวางว่าเป็นบทกวีแห่งเทพนิยายในจิตสำนึกกลางใจของชาวอิหร่าน มันเป็นมากกว่าหนังสือเกี่ยวกับพระราชา มันมีเนื้อหาที่ทำให้เกิดความเข้าใจต่อชาวอิหร่านที่มีความหลงใหลในวีรบุรุษและความกล้าหาญ และการดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดกำลังระหว่างความดีและความชั่ว ในสมัยของชาห์และบิดาของเขา (รีซาชาห์) ฟิรโดซีได้รับการสนับสนุนให้ทำการฟื้นฟูจิตสำนึกรักชาติของชาวอิหร่านขึ้นมาใหม่ เหมือนเช่นในสมัยรุ่งเรืองก่อนอิสลาม
คาชาน
14) มัสยิดและมัดรอซะห์แห่งอากา โบโซร์ก
นี่คือตัวเอกของสถาปัตยกรรมอิสลามในยุคหลัง
15) สวนฟิน
นักศึกษาชาวอิหร่านกลุ่มหนึ่งในเพนซิลวาเนียได้รวมตัวกันจัดทำวิดีโอยูทูปที่แสดงการท่องเที่ยวอิหร่านอย่างแท้จริงขึ้นมา ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยแผนที่ GPS และดนตรีท้องถิ่นที่เข้ากันกับแต่ละภาค
นอกจากนี้แล้วอิหร่านยังมีสถานที่น่าท่องเที่ยวไม่ว่าจากยัซด์, ตับริซ, ทะเลแคสเปียน และภาคอื่นๆ ซึ่งเป็นดินแดนที่สวยงาม เรากล่าวได้เพียงว่า สถานที่เหล่านี้นี้เป็นเพียงการเชิญชวนสำหรับการเริ่มต้นการสำรวจเท่านั้น และหวังอย่างยิ่งว่ามันจะส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจและความใกล้ชิดร่วมกัน
ด้วยความสวยงามอันดึงดูดใจทั้งหมดเหล่านี้ ถึงตอนนี้มีใครกระตือรือร้นและพร้อมจะไปอิหร่านกันบ้างแล้ว?