ประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน โรฮานี พบปะกับชาวอิหร่านที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และชาวไทยมุสลิมชีอะห์กว่า 250 คน ร่วมพิธีสำคัญมุสลิมชีอะห์ ไว้อาลัยในวันคล้ายวันสละชีพของอิมามฮุเซน (อ.) หลานศาสดามุฮัมหมัด ที่โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพ
ในทริปเดินสายเยือนประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังเดินทางเยือนเวียดนามและมาเซีย ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี แห่งอิหร่าน ก็ได้เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 2 (ACD Summit) ระหว่างวันที่ 9-10 ตุลาคม โดยการเยือนครั้งนี้ นับเป็นการเยือนประเทศไทยระดับประธานาธิบดีครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย – อิหร่าน
นอกจากนั้น เมื่อวานนี้ (9 ต.ค.59) เวลา 19.00 น. ประธานาธิบดีสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน พร้อมคณะได้พบปะกับชาวอิหร่านที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และชาวไทยมุสลิมชีอะห์ในประเทศไทย กว่า 250 คน ที่โรงแรมเพนนินซูลา ย่านเจริญกรุง กรุงเทพ โดยมีบุคคลสำคัญของมุสลิมชีอะห์เข้าร่วมงาน เช่น ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี ผู้นำมุสลิมชีอะห์ ซัยยิดมุบาร๊อก ฮูซัยนี นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่าน อ.มนัส เกียรติธารัย ประธานมูลนิธิส่งเสริมอิสลามและการพัฒนา เป็นต้น
ในการพบปะครั้งนี้ ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี แห่งอิหร่าน ได้ขึ้นปาถกฐากับมุสลิมชีอะห์เนื่องในวาระรำลึกและพิธีไว้อาลัยแก่อิมามฮุเซน หลานของท่านศาสดามุฮัมหมัด ซึ่งถูกสังหารพร้อมครอบครัวและสหายโดยผู้ปกครองที่ชั่วช้าคนหนึ่ง อันเป็นเหตุการที่เศร้าสลดซึ่งเกิดขึ้นในประวัติศาตร์ยุคต้นของศาสนาอิลาม และมุสลิมชีอะห์จะจัดงานรำลึกเป็นประจำทุกปี เรียกว่าพิธีมุฮัรรอม คนไทยรู้จักในชื่อ “พิธีมะหะหร่ำ” หรือ “พิธีเจ้าเซ็น”
ประธานาธิดีอิหร่านได้ชี้ให้เห็นว่า อิมามฮุเซนไม่ได้เป็นของอิสลามและชาวชีอะห์เพียงเท่านั้น แต่ท่านเป็นของมวลมนุษยชาติ ท่านมิได้พลีชีวิตของตนเพื่อเป้าหมายของกลุ่มชนใดกลุ่มชนหนึ่งเป็นการเฉพาะ เป้าหมายของท่าน คือคุณค่าและความดีงามที่เป็นสากลและเป็นของมนุษยชาติทั้งมวล ท่านคือผู้พลีชีพในหนทางของเสรีภาพ และได้อุทิศชีวิตของตนเพื่อเสรีภาพของมนุษยชาติในทางของสัจธรรม ความยุติธรรมและปฏิรูปสังคม
โรฮานี กล่าวว่า อิมามฮุเซน คือผู้ที่ในชีวิตของท่านจะต้องเลือกเอาระหว่างการพลีชีพหรือกับการมีชีวิตอยู่อย่างอัปยศ ซึ่งท่านได้เลือกคมดาบและการพลีชีพ ดังนั้นคำขวัญที่ว่า “ขอให้เราห่างไกลความอัปยศ” จึงได้กลายเป็นความภาคภูมิใจของชีอะห์และมวลมนุษยชาติ
ประธานาธิดีอิหร่านได้ชี้ถึงคำขวัญอันเลื่องลือของมหาตะมะคานที ที่ว่า “ผู้นำของข้าพเจ้าในการปลดปล่อยดินแดนแห่งนี้คือท่านฮุเซน” พร้อมกับกล่าวว่า ประชาชนหลายพันล้านคนทั่วโลก เคารพให้เกียรติอิมามฮุเซน เนื่องจากท่านได้เลือกทางแห่งคุณธรรม การต่อสู้ในทางของพระผู้เป็นเจ้า และสันติภาพ
“ในวันอาชูรออิมามฮุเซนไม่ได้เริ่มต้นสงคราม แต่ศัตรูเป็นผู้เริ่มต้นสงคราม อิมามฮุเซนเป็นผู้ป้องกันตน ท่านเป็นผู้นำที่เปี่ยมไปด้วยความนอบน้อม มีคุณธรรม และแม้ในนาทีสุดท้ายก่อนสงครามจะเริ่มต้นท่านก็ยังได้เทศนาต่อศัตรูเพื่อชี้นำพวกเขา และนำทางสู่สัจธรรม” โรฮานีกล่าว
อนึ่ง สำหรับพิธีมุฮัรรอม คนไทยรู้จักในชื่อ “พิธีมะหะหร่ำ” หรือ “พิธีเจ้าเซ็น” เป็นพิธีทางศาสนาที่สำคัญของมุสลิมชีอะห์ทั่วโลก โดยจะจัดในสิบวันแรกของเดือนมุฮัรรอม เพื่อเป็นการรำลึกถึงการพลีชีพของอิมามฮุเซน หลานชายของศาสดามุฮัมมัด ซึ่งตรงกับวันที่ 10 มุฮัรรอม ฮ.ศ. 61 (พ.ศ. 1223)
สำหรับในประเทศไทยมุสลิมชีอะห์ได้จัดพิธีนี้เป็นประจำทุกปีมานับตั้งโบราณ โดยในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ได้มีหมายรับสั่งให้นำพิธีกรรมดังกล่าวไปถวายให้ทอดพระเนตรในพระบรมมหาราชวังหน้าพระที่นั่งพุทไธศวรรย์ติดต่อกันถึงสองปี (ในปี พ.ศ. 2358 และ พ.ศ. 2359) และมีพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ได้เสด็จชมพิธีดังกล่าวอยู่เสมอ
ครั้งหลังสุดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ทอดพระเนตร ณ กุฎีเจริญพาศน์ เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2496