ออสเตรเลียปูด คนไทยหนุนไอซิส ใช้เฟซบุ๊กเข้าเว็บไอซิสกว่าแสนครั้ง รองผบ.ตร.รับข้อมูลตรง-บิ๊กป้อมปฏิเสธ

ตำรวจออสเตรเลียให้ข้อมูล คนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้ายกลุมรัฐอิสลาม หรือไอซิส ผ่านทางเฟซบุ๊ก ที่มีการเข้าใช้เว็บไซต์ของขบวนการก่อการร้ายไอเอสกว่า 1 แสนครั้งในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา รองผบ.ตร.รับข้อมูลสอดคล้องกับการสืบสวนของไทย

มติชนรออนไลน์รายงานว่า วานนี้ (22 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารประจำศูนย์ความร่วมมือประจำภูมิภาคกรุงเทพฯ (บีอาร์ซีที) โดยมีตำรวจออสเตรเลียและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดย รองผบ.ตร.กล่าวว่า ตำรวจประเทศออสเตรเลียให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส โดยพบว่ามีกลุ่มคนไทยบางส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องสนับสนุนเงินทุนในการเคลื่อนไหวของกลุ่มไอซิส เนื่องจากตำรวจออสเตรเลียพบว่ามีการใช้บัญชีเฟซบุ๊กจากประเทศไทยกว่า 1 แสนบัญชี เข้าใช้เว็บไซต์ของกลุ่มไอเอสนานกว่า 1 ปี

รองผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ข้อมูลเหล่านี้สอดคล้องกับการสืบสวนของไทยที่พบความเคลื่อนไหวว่า มีกลุ่มคนไทยจำนวนหนึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอซิสจริง และเดินทางไปกลับประเทศไทยและซีเรียหลายครั้ง และอยู่ระหว่างการขยายผล ส่วนใหญ่พบว่าเป็นกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค9 และ ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศชต. จึงได้สั่งการให้ตำรวจสอบสวนกลาง สันติบาล เข้าไปสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดและจะรายงานให้รัฐบาลทราบ

รองผบ.ตร.กล่าวว่า ส่วนบัญชีเฟซบุ๊กอยู่ระหว่างการคัดกรอง และแยกได้เป็น 6 กลุ่ม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่เชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องแนวคิดและสนับสนุนเรื่องการเคลื่อนไหว มติชนรออนไลน์รายงาน

อย่างไรก็ดี มติชนรออนไลน์รายงานว่า เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นการแลกเปลี่ยนกันระหว่างออสเตรเลียกับไทย ก็มีคนไทยเข้าไปตามโซเชียลมีเดีย แต่การเชื่อมโยงอย่างชัดเจนนั้นยังไม่มี ทางตนก็ทราบมาก่อนแล้ว แต่ก็ให้ทางตำรวจสันติบาล และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงศูนย์รักษาความปลอดภัยของเราด้วย คอยระมัดระวังอยู่ ยังไม่มีคนไทยเข้าไปสนับสนุน แต่อาจจะมีทางช่องทางโซเชียลมีเดียซึ่งคนอาจจะสนใจ บางคนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเพียงแต่สนใจที่จะเข้าไปดู ซึ่งก็ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะทุกประเทศก็ต้องระมัดระวังเหมือนกันหมด ในอาเซียนเราก็มีการพูดจากันอยู่แล้ว เพราะเกี่ยวข้องกันหลายประเทศ เราก็ช่วยกันดูอยู่ แต่ที่ว่าคนไทยไปสนับสนุนนั้นตนยังไม่เห็น

ขณะที่ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เป็นข้อมูลของตำรวจออสเตรเลีย ดังนั้นจึงต้องนำมาตรวจสอบ เพื่อป้องกันและจับกุมต่อไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นผลกระทบทั้งโลก ที่ทุกประเทศก็เจอปัญหา ดังนั้นจึงมอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงดำเนินการต่อไป