สหรัฐฯ ระงับขายอาวุธให้ซาอุฯ อ้างวิตกชาวเยเมนจำนวนมากตายจากสงคราม

แฟ้มภาพ

อินดีเพนเดนท์/รอยเตอร์ – สหรัฐอเมริกาประกาศลดการสนับสนุนทางทหารแก่ซาอุดิอาระเบียที่เข้าไปปฏิบัติภารกิจในประเทศเยเมน เนื่องจากวิตกต่อการเสียชีวิตของพลเรือนชาวเยเมนจำนวนมาก โดยจะยุติการขายอาวุธให้กับซาอุฯ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุ

นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังจะปรับเปลี่ยนการซ้อมรบร่วมกับกองทัพอากาศซาอุฯ โดยจะมุ่งไปที่การฝึกเพื่อพัฒนาศักยภาพในการโจมตีเป้าหมาย แหล่งข่าวบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์

การตัดสินใจของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ สะท้อนความวิตกกังวลของรัฐบาลสหรัฐฯต่อปฏิบัติการของซาอุฯ ในสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 20 เดือนในประเทศเยเมน ซึ่งมีพลเรือนเสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000 คน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนชาวเยเมนจำนวนมากที่ตกอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหาร กลายเป็นประเทศยากจนที่สุดในตะวันออกกลาง

การตัดสินใจครั้งนี้ อาจสร้างแรงกดดันต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับซาอุฯ อีกครั้ง ในช่วงปลายสมัยของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 20 ม.ค.ที่จะถึงนี้

ซาอุได้นำทหารเข้าแทรกแซงในสงครามกลางเมืองของเยเมนเมื่อเดือนมีนาคม 2015 และได้เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มฮูซี พันธมิตรของอิหร่าน

กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า การโจมตีทั้งต่อโรงพยาบาล โรงเรียน, ตลาดและโรงงาน อาจเป็นอาชญากรรมสงคราม ซาอุฯ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งการโจมตีหรือการปรากฏตัวของนักรบในพื้นที่เป้าหมาย และกล่าวว่าตนได้พยายามที่จะลดการสูญเสียของพลเรือนแล้ว

เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของโอบามาที่ให้ข้อมูลซึ่งไม่เปิดเผยตน กล่าวว่า ระบบที่มีปัญหาซ้ำซากในการกำหนดเป้าหมายของซาอุฯ คือแรงผลักในการตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่จะหยุดการขายอาวุธในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับอาวุธที่ต้องอาศัยความแม่นยำ