ดร.วินัย ดะห์ลัน ประธานคณะกรรมการจัดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ฮ.ศ.1438 ในนามคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ขอเชิญประชาชนชาวไทยเฝ้าฯ รับเสด็จฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10 ทรงเปิดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย (วันคล้ายวันประสูติศาสดามูฮัมหมัด) ฮ.ศ.1438
ดร.วินัย กล่าวว่า ปีนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 จะทรงเสด็จพระราชดำเนินเปิดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ฮ.ศ.1438 จึงขอเชิญประชาชนชาวไทยเฝ้าฯ รับเสด็จฯ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน
“เรารู้สึกใกล้ชิดกับในหลวงรัชกาลที่ 10 ตลอดมา และด้วยพระบารมีของพระองค์ท่าน เราจะปลอดภัย เราจะแสดงออกให้เห็นว่า เราอยู่เคียงข้างพระองค์ท่าน สังคมมุสลิมไม่ค่อยแสดงออก แต่ครั้งนี้คิดว่าเราควรแสดงออกบ้าง เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน” ดร.วินัย กล่าว
ดร.วินัยกล่าวถึงการจัดงานว่า งานเมาลิดกลางฯ ปีนี้ จะเน้นเรื่องอัลกุรอานกับเรื่องฮาลาล ตามสโลแกน “นบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) จากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่านสู่วิถีฮาลาล” โดยเป็นการนำกุรอานมาเชื่อมกับฮาลาล
“จากบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในภาพรวมของโลกที่มีความไม่เข้าใจมุสลิมมากขึ้น เช่นดูจากบรรยากาศในสหรัฐฯ ที่มีประธานาธิบดีซึ่งไม่เข้าใจมุสลิม แต่ในอดีตอัลกุรอานเคยเปิดหัวใจคน อัลกุรอาน บท (ซูเราะห์) “ฏอฮา” เคยเปิดหัวใจ ท่านอูมัร อิบนิคอตต๊อบ จากความไม่เข้าใจมุสลิม และท่านอุมัรก็มีความร้ายกาจกับมุสลิม เป็นคนก้าวร้าวที่ทำร้ายมุสลิม ท่านศาสนทูตได้ขอพร (ดุอา) จากอัลเลาะฮ์ให้เปลี่ยนหัวใจของท่านอุมัร และที่สุดอัลกุรอานซูเราะห์ฏอฮาก็ได้เปลี่ยนหัวใจท่าน” ดร.วินัย กล่าว
ดร.วินัย อธิบายต่อว่า ในโลโก้ของงานเมาลิดปีนี้มีอักษรมูฮัมหมัดอยู่ตรงกลางและล้อมรอบด้วยซูเราะห์ฏอฮา อายะห์ (โองการ) ที่ 1-5 และในบนเวทีจะเขียนซูเราะห์ฏอฮา เป็นการแสดงให้เห็นว่า เราใช้บารมีกุรอานเปลี่ยนใจคน ใช้ศักยภาพของกุรอานมาสร้างความเข้าใจต่อสังคมโลก นอกจากนี้จะมีการนำอัลกุรอานอายุ 1,000 ปี และ 500 ปี ที่เก็บอยู่ที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส มาแสดงในงานด้วย
ส่วนที่ 2 ของงานจะเป็นการนำกุรอานมาเชื่อมกับศาสนบัญญัติ (ฮาลาล-ฮารอม) ในอิสลาม “ฮาลาล เป็นเรื่องของซุนนะห์ ผจริยวัตรของศาสนทูต) ที่เป็นคุณค่าทางวิทยาศาตร์ เป็นมรดกจากท่านศาสดา ซึ่งฮาลาลนอกจากจะมีคุณค่าทางใจแล้ว ยังมีค่าทางเศรษฐกิจ มูลค่าตลาดฮาลาลในโลกประมาณ 1.29 ล้านล้านเหรียญฯ แต่หากรวมที่ไม่ใช่อาหาร 6 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งมหาศาลมาก” ดร.วินัย กล่าว
ดร.วินัย กล่าวว่า ไฮไลท์ของงานเมาลิดกลางฯ อีกอย่างหนึ่ง คือ การนำเอา SMEs จากภาคใต้ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมนำสินค้ามาจำหน่ายในงานเมาลิดกลางฯ ประมาณ 200 ราย รวมทั้งมีสตาร์อัพจากกรุงเทพฯ ด้วย
ดร.วินัย กล่าวอีกว่า ในวันเปิดงานก็จะเชิญพระสงฆ์ บาทหลวง มีซิกส์ มีพรหมณ์ มาร่วมพิธี เพื่อแสดงให้เห็นว่า อิสลามเป็นทางสายกลาง สามารถที่จะอยู่กับใครก็ได้ ในอดีตอิสลามไม่มีสุดโต่ง เพิ่งจะมามี จึงต้องทำความเข้าใจกัน
“คาดหมายว่า จะมีคนมาร่วมงาน 50,000 คน หรืออาจจะถึง 100,000 คน เฉพาะในวันเปิดงานมีคนเข้าร่วมก็เกือบ 10,000 คน จะช่วยสร้างยอดขาย สร้างรายได้ให้กับร้านค้า ผู้ประกอบการ ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และจะต่อเนื่องไปจนหลังงานด้วย” ดร.วินัย กล่าว
“อยากให้มาร่วมงานเมาลิดกลางฯกันมากๆ เพราะปีนี้ เป็นปีที่พระมหากษัตริย์เสด็จ และเป็นพระมหากษัตริย์ที่ผูกพันกับมุสลิมมาก และพระองค์ให้ความสนใจกับมุสลิมมาก” ดร.วินัย กล่าวในที่สุด
สำหรับงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ฮ.ศ.1438 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2560 นี้ ที่ศูนย์บริหารกิจการอิสลามเฉลิมพระเกียรติ คลอง 9 หนองจอก กรุงเทพฯ