RT – กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุ สหรัฐฯ ควรส่งผู้เชี่ยวชาญไปดำเนินการตรวจสอบสารเคมีที่ฐานทัพอากาศซีเรียซึ่งสหรัฐฯ โจมตี เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
สหรัฐฯ อ้างว่าฐานทัพอากาศซีเรียดังกล่าวเป็นจุดขึ้นบินเพื่อนำอาวุธเคมีไปโจมตีที่เมืองอิดลิบ จนมาซึ่งการยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กจากเรือรบ 59 ลูกเพื่อโจมตีสนามบินแห่งนี้
แต่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า วอชิงตันไม่มีหลักฐานใดๆ มาแสดงว่าสนามบินทหารชาอีรัต ในจังหวัดฮอมส์ ของซีเรียแห่งนี้มีอาวุธดังที่กล่าวอ้าง
“24 ชั่วโมงผ่านพ้นไปนับตั้งแต่เรือรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธโจมตีสนามบินชาอีรัต ทั้งกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ เกี่ยวกับการมีอยู่ของอาวุธเคมีที่ฐานทัพอากาศนี้” โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย นายพลอิกอร์ โคนาเชนกอฟ กล่าวในแถลงเมื่อวันเสาร์ (8 เม.ย.)
“มีบุคคลจำนวนมาก ทั้งตัวแทนสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ตำรวจ และทหารซีเรีย ได้เดินทางไปยังสนามบินนับแต่เกิดเหตุ โดยไม่มีใครพบเจอ “คลังเก็บ” หรือกระสุนเคมีใดๆ ตามที่ถูกกล่าวหาเลย” เขากล่าว
“ทางเดียวที่จะได้รับและสามารถนำเสนอต่อประชาคมระหว่างประเทศว่ามีหลักฐานเกี่ยวกับการมีอยู่ของสารพิษในสนามบินชาอีรัต คือต้องส่งผู้เชี่ยวชาญไปที่นั่น” แถลงการณ์กระทรวงกลาโหมกล่าว
ทุกคนที่ทำงานที่สนามบินหรือเดินทางเข้าไป “ไม่ได้สวมหน้ากากป้องกันก๊าซและรู้สึกว่าอยู่ในภาวะปรกติ” นายพลโคนาเชนกอฟ กล่าวและว่า “ผู้เชี่ยวชาญขององค์การเพื่อการห้ามอาวุธเคมี (OPCW) รู้ดีว่าร่องรอยของสารเคมีไม่สามารถซ่อนได้นานหลายเดือนและหลายปี” ถ้ามันถูกเก็บไว้ที่ไหนสักแห่ง
“ดังนั้นตรงนี้คำถามจึงเกิดขึ้นว่า : อะไร? และ โดยใครกัน? ที่นำเสนอต่อประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ เสมือนว่ามี “หลักฐาน” ของการมีอาวุธเคมีในประเทศที่ไม่เป็นที่โปรดปรานของวอชิงตัน” เจ้าหน้าที่ทางการทหารกล่าว ซึ่งเขาต้องการเตือนสติให้หวนนึกถึงตอนที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนเก่า “โคลิน พาวเวลล์” ที่ออกมาโกหกผ่านยูเอ็นและข้ออ้างนานาๆ ว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธเคมีของอิรัก