เพรสทีวี – ผู้นำฝ่ายค้านปากีสถาน “นายอิมราน คาน” กล่าวว่า รัฐบาลอิสลามาบัด จะต้องแยกตัวเองออกมาจากสหรัฐฯ และถอนตัวจาก “สงครามต่อต้านการก่อการร้าย” เพื่อให้บรรลุถึงความรุ่งเรืองและสงบสุข
อดีตดาวดังคริกเก็ตบอกกับเดอะการ์เดี้ยนเมื่อวันอังคาร (1 ส.ค.) ว่า เขามั่นใจว่าพรรคของเขาจะชนะการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในปีหน้าและเขาจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี
นาวาซ ชารีฟ ต้องพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากคำตัดสินของศาลฎีกาปากีสถานเมื่อวันศุกร์ (28 ก.ค.) ที่ผ่านมาในข้อหาทุจริต รัฐสภาปากีสถานได้เลือก “นายชาฮิด คาข่าน อับบาซี” ซึ่งเป็นพันธมิตรของชารีฟขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง
“ช่างน่าเศร้า! ที่ชนชั้นปกครองในประเทศของเรารับเงินดอลล่าร์จากสหรัฐฯ แล้วก็ได้เข้าร่วมสงคราม (ต่อต้านการก่อการร้าย) นี้ มันได้สร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในสังคมของเรา มันนำมาซึ่งความระส่ำระสาย” อิมราน คาน กล่าวและว่า ตนพร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของปากีสถาน
ต่อต้านการรับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ อย่างสิ้นเชิง
อิมราน คาน กล่าวว่า เขาเชื่อว่าการสนับสนุนด้านการทหารของวอชิงตันต่อปากีสถานได้ทำให้ประเทศนี้ “ตกเป็นทาส” ดังนั้นถ้าหากเขาได้ขึ้นมาบริหาร “อิสลามาบัดจะปฏิเสธความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ทั้งหมด”
“ความช่วยเหลือทำให้ประเทศหมดอำนาจ” อิมราน คานกล่าว “มันทำให้ประเทศตกเป็นทาส คุณจะถูกสั่งการจากต่างประเทศ ผมต่อต้านเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง”
นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า ถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีเขาจะเพิ่มอำนาจการปกครองของพลเรือนในประเทศนี้
ปากีสถานเผชิญการชักเย่อระหว่างทหารและรัฐบาลพลเรือนมานานหลายสิบปี ซึ่งอิมราน คานกล่าวว่าเขาจะสามารถแก้ไขได้
“ผมเชื่อมั่นว่ากองทัพไม่ควรมีบทบาทในการบริหารรัฐบาล” อิมรานกล่าว
“ผมจะลุกขึ้นทำในสิ่งที่ผมเชื่อว่าเป็นผลประโยชน์ของปากีสถาน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าผมต่อต้านผู้ใด” เขากล่าวเสริม