ในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยการเริ่มเฉลิมฉลองในเทศกาลแห่งความสุข เพราะเดือนธันวาคม เป็นเดือนสุดท้ายของปี ก่อนจะได้หยุดพักผ่อนในเทศกาลปีใหม่หลายวัน กองบรรณาธิการเดอะพับลิกโพสต์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวส่งท้ายปี 60 ต้อนรับปี 61 ไว้เป็นตัวเลือกในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่
ในช่วงเดือนธันวาคม ยังอยู่ในช่วงฤดูหนาว บรรยากาศแบบนี้ พาไปขึ้นเหนือรับลมหนาว เฝ้าดูพระอาทิตย์ตกก็โรแมนติก ไปชมทะเลหน้าหนาวก็สวยงามน่าค้นหา ชวนเดินป่าขึ้นภูก็ไม่เหนื่อย หรือจะไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกที่ริมโขงก็น่าสนใจ จะไปเดินเล่นเนิบๆ แนวสโลไลฟ์ในเมืองเก่า ที่มีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมที่เผลอให้หลงรักก็ได้
1. ดอยช้าง จิบกาแฟชมดอกดอกซากุระ โรแมนติกสไตล์ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
อยากมีบรรยากาศโรแมนติก ชมดอกซากุระพร้อมดื่มกาแฟรสชาติดีๆ ในบรรยากาศเย็นสบาย ต้องไปเที่ยว “ดอยช้าง” ดอยช้างเป็นสถานีเกษตร เพื่อส่งเสริมการปลูกพันธุ์ไม้เมืองหนาว ลดการทำไร่เลื่อนลอย ดอยช้างเป็นยอดดอยสูงอยู่ในเทือกดอยวาวี เป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าต่างๆ ต่อมาเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน เป็นศูนย์บริการวิชาการด้าน พืชและปัจจัยการผลิต
บ้านดอยช้าง” ตั้งขึ้นตามลักษณะของภูเขาที่มีรูปร่างเหมือนช้างแม่ลูกสองเชือก หันหน้าไปทาง ทิศเหนือ (ตัวจังหวัดเชียงราย) สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่บริเวณโรงเรียนบ้านดอยช้าง มี ผาหัวช้าง สูง 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ดอยช้างมีมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก เห็นครั้งแรกๆ จะประทับใจจนไม่รู้จะบรรยายเป็นคำพูดได้อย่างไร อากาศก็เย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย 18 องศาเซลเซียส ดอยช้าง มีชื่อเสียงในเรื่องเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ช่วงเดือนธันวาคม เป็นช่วงที่น่าเที่ยวที่สุด นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวดอยช้าง นอกจากได้ชมทัศนียภาพ ที่ยิ่งมองไกลๆ ก็ยิ่งเห็นความสวยงามและได้ชมวิว ทิวทัศน์ที่งดงามเหมือนภาพวาดแล้ว ยังจะได้ชมสวนกาแฟที่สุกอร่ามเต็มดอย ได้ชิมกาแฟดอยช้าง พร้อมกับชมดอกซากุระหรือนางพญาเสือโคร่ง ที่กำลังบาน อวดสีสันสดใส สีชมพูหวานๆ ยั่วล้อให้เราหลงใหล ชวนให้หลงรัก ทำให้รู้สึกคุ้มค่ากับการเดินทางมาเที่ยว ที่ค่อนข้างลำบาก และยังได้เพลิดเพลิน กับศิลปะวิถีชาวเขาจากเผ่าต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในใกล้ๆ ดอยช้าง
2. อุทัยธานี วิถีแห่งการเดินเล่นเนิบๆ แบบสโลไลฟ์สตรีท
จังหวัดอุทัยธานี เมืองเล็กๆ อยู่ทางภาคเหนือตอนล่างของไทย มีประชากรแค่สามแสนกว่าคน เป็นเมืองทางผ่านของนักท่องเที่ยว เพราะคิดว่าเมืองเล็กๆ คงไม่น่าสนใจแน่ แต่ คิดผิด? อุทัยธานี เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีสถานที่สำคัญ และสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามและน่าสนใจมากมาย เป็นเมืองที่ช้าๆ เนิบๆ ไม่เร่งไม่รีบ ออกแนวสโลไลฟ์แบบที่ชาวฮิปสเตอร์น่าจะชื่นชอบ เป็นเมืองที่ต้องห้ามพลาดอีกหนึ่งเมือง
เที่ยวเมืองอุทัยที่ห้ามพลาด อาทิเช่น!!
– ตรอกโรงยา เดิมที่นี่เป็นที่ตั้งของโรงฝิ่นเก่า แต่ฟื้นฟูมาทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว ถนนคนเดิน เพลิดเพลินกับสินค้าเก๋ๆ บ้านเรือนไม้ ห้องแถวเก่าๆ ของกินอร่อยๆ ของฝากแนวแฮนด์เมด การแสดงดนตรีจากเด็กนักเรียน เดินตรอกโรงยา รู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง เหมือนญาติผู้ใหญ่ เพราะทักทายกันได้หมด ไม่รู้จักก็ทักได้ ชาวอุทัยใจดี
– มุดแผนที่โลก หมุดโลก หรือ หมุดแผนที่โลก บนยอดเขาสะแกกรัง อำเภอ จังหวัดอุทัยธานี อีก1สถานที่ที่น่าสนใจเมื่อมาเยือนจังหวัดอุทัย ตั้งอยู่บนยอดเขาสะแกกรัง ทางเดินขึ้นไม่ชันมากสองข้างทางเป็นป่าไผ่และต้นไม้สลับกัน หน้าฝนจะเขียวชอุ่มมาก ด้านบนมีจุดชมวิวงดงาม สามารถรอชมพระอาทิตย์ตกดินได้ชัดเจน
– แม่น้ำสะแกกรัง สวยงาม สงบนิ่ง แม่น้ำสะแกกรังต้นกำเนิดอยู่ในเขตเทือกเขาโมโกจู ในเขต จ.กำแพงเพชร แล้วจึงไหลไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่บ้านท่าซุง จ. อุทัยธานี มีความยาวประมาณ 225 กิโลเมตร ช่วงตั้งแต่ปากคลองขุมทรัพย์ หรือคลองอีเติ่ง ที่บ้านจักษา อ.เมือง หรือตรงปลายแม่น้ำตากแดด ณ จุดที่แม่น้ำตากแดดไหลมาบรรจบกับคลองขุมทรัพย์ ซึ่งน้ำจะเป็นสองสี แล้วไหลผ่านตัวเมืองอุทัยธานี แล้วไหลไปบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยาที่ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท มีความยาวจากต้นน้ำถึงจุดที่บรรจบแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 108 กิโลเมตร
3. อำเภอกัลยาณิวัฒนา ชมธรรมชาติป่าสน บนเทือกเขา เย็นสบายตลอดปี
อำเภอกัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ เป็นอำเภอที่ 878 ของไทย เดิมเป็นส่วนหนึ่งของ อ.แม่แจ่ม มี 3 ตำบล ได้แก่ บ้านจันทร์ แม่แดดและแจ่มหลวง มีตำบลละ 7 หมู่บ้าน รวม 21 หมู่บ้าน
– ด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม เขียวชอุ่มและอากาศหนาวเย็นตลอดปี กัลยาณิวัฒนา จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย เราจะพบเห็นป่าสนที่ปลูกเรียงรายไปตลอดเส้นทางที่เราผ่าน ในพื้นที่กว้างใหญ่ จนได้รับการขนานนามว่า “เป็นดินแดนแห่งป่าสนผืนใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ป่าสน จะผลัดใบเปลี่ยนสี จนทั้งเทือกเขาถูกปกคลุมด้วยสีสันหลากหลายสีสัน งดงาม ชวนฝัน โรแมนติก โดดเด่นจนกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของอ.กัลยาณิวัฒนาไปด้วย
ที่เที่ยวน่าสนใจหลักๆ ของอำเภอกัลยาณิวัฒนา ได้แก่
โครงการหลวงป่าสนวัดจันทร์ วัดจันทร์ จุดชมวิวพระธาตุ บ้านห้วยฮ่อม อ่างเก็บน้ำห้วยอ้อ ศูนย์ศิลปาชีพบ้านวัดจันทร์
– อากาศบริสุทธิ์ ความเขียวชอุ่มของผืนป่าสน ความสวยงามของสถานที่ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แม้จะต้องดั้นด้นเดินทางยากลำบากแค่ไหน อ.กัลยาณิวัฒนา ก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักเดินทางใฝ่ฝันจะได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมสักครั้ง
4. เพชรบูรณ์ สัมผัสธรรมชาติสวยๆ ทุกฤดู ชมสายหมอก ดอกไม้และภูเขา
จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับของนักท่องเที่ยวชาวไทย
– ไปเที่ยวไหน? ไปเที่ยวเพชรบูรณ์ เหตุผลเพราะ… ไม่ไกลกรุงเทพ มีเวลาน้อยก็เที่ยวได้ และยังได้สัมผัสกับความหนาวเย็นชุ่มฉ่ำแน่นอน มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามตื่นตาตื่นใจมากมายหลายๆ แบบให้เลือกเที่ยวชม
และยังสามารถเที่ยวได้ตลอดปี เรียกว่าเที่ยวได้ทุกฤดู ได้สัมผัสธรรมชาติที่งดงามและสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบูรณ์ สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้เสมอ
สถานที่ท่องเที่ยว อาทิเช่น
– จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา ที่สวยที่สุดบนเขาค้อ ถ้านักท่องเที่ยวอยากชมความสวยงามของเขาค้อต้องที่เขาตะเคียนโง๊ะแห่งนี้ เท่านั้น นอกจากได้สัมผัสกับไอหมอกที่เย็นสบายแล้ว ยังได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น ทอแสงสีส้มแจ่มๆ ได้ชัดเจนด้วย
– พระตำหนักเขาค้อ เป็นพระตำหนักที่งดงามมาก เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระราชินีนาถช่วงเวลาที่แปรพระราชฐาน นอกจากบรรยากาศที่สวยงามแล้ว ยังมีจุดชมวิว ทิวทัศน์ บริเวณพระตำหนักอีกด้วย
– ทุ่งกังหันลม’ เป็นจุดที่ผลิตพลังงานสะอาดที่ใหญ่ที่สุด เพราะมีกังหันลมจำนวน 24 ต้น มีความสูงกว่า 100 เมตร ตั้งเด่นตระหง่านบนยอดเขา ความสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,050 เมตร จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกลสุดสายตา
ไฮไลท์
นั่งรถรางชมวิวสวยๆ ชมความอลังการของกังหันลมแล้ว ยังมีสวนดอกไม้และไร่สตรอเบอร์รี่ของไร่บีจี ซึ่งมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนาน เช่น รถฟอร์มูล่าม้งและชิงช้าชาวเขา แถมด้วยการช้อปปิ้ง ตลาดจำหน่ายของที่ระลึกร้านของชาวม้ง ซึ่งมีสินค้าน่าซื้อมากมาย !
5. ระนอง “เมืองฝนแปดแดดสี่ แต่เที่ยวได้ทุกเดือน ต้องไปเที่ยวให้ได้สักครั้ง
จังหวัดระนอง เป็นเมืองเล็กๆ ติดทะเลอันดามัน ฉายา “เมืองฝนแปดแดดสี่” ความหมายคือ เป็นเมืองที่ฝนตกมากกว่าแดดออก แล้วแบบนี้จะน่าเที่ยวเหรอ?
ระนองเมืองสงบ ถ้าเปรียบเป็นคนก็จะมีบุคลิก เงียบๆ ขรึมๆ นิ่งๆ แต่มีดีซ่อนไว้หลายอย่าง อาหารก็อร่อย และยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเทียวทางธรรมชาติหลากหลายน่าสนใจ ระนองในวันนี้เป็นเมืองที่เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น กลายเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของใครหลายๆ คน ถ้ามีโอกาสสักครั้ง ควรหาโอกาสมาเที่ยวระนอง แล้วจะรู้ว่าระนองก็มีของดี
ที่เที่ยวน่าสนใจและเด่นๆของจังหวัดระนอง อาทิเช่น
– มาระนองต้องมาแช่น้ำร้อน บ่อน้ำร้อนที่ระนองได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นแหล่งเดียวในไทย
ที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปน จึงทำให้ไม่มีกลิ่นของกำมะถันและมีความบริสุทธิ์
ระนองมีบ่อน้ำร้อนให้นอนแช่เท้าและแช่ตัวเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า อยู่ 2 แห่ง คือ
– บ่อน้ำร้อนสวนสาธารณะรักษะวาริน ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
– บ่อน้ำพุร้อนพรรั้ง อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว
ซึ่งทั้ง 2 แห่งมีการปรับภูมิทัศน์ให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ช่วงเวลาที่เหมาะสมและไม่รู้สึกว่าร้อนจนเกินไปสำหรับการมาแช่น้ำร้อน แนะนำให้มาในช่วงเช้าก่อนเที่ยง
– ระนองแคนยอน สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามแปลกตา คือ.. เป็นสระน้ำสีเขียวมรกตขนาดย่อม ที่โอบล้อมด้วยหุบเขา ..ที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองแร่เก่ามาก่อน เป็นเหมืองแบบฉีด โดยฉีดน้ำให้กัดเซาะดินปนแร่จากตัวภูเขาให้ลงมาสะสมในแอ่งน้ำด้านล่าง หลังจากนั้นก็จะสูบน้ำในแอ่งขึ้นตามท่อเพื่อนำมาผ่านกระบวนการทางกายภาพ เพื่อทำการแยกแร่ออกจากทรายที่ไม่มีค่า ทำให้สภาพภูเขาเกิดลักษณะเว้าแหว่งสวยงามแปลก เมื่อมองจากเนินเขาข้างบนลงมาจะเห็นน้ำในบึงใสแจ๋วสะท้อนสีของฟ้าและต้นไม้เป็นสีเขียวอมฟ้าดุจดังมรกต
– เกาะพยาม เกาะสวยงามแห่งนี้ ถ้าสักครั้งหนึ่งในชีวิตของคนชอบเที่ยวทะเล ไม่ควรพลาดเกาะนี้ แม้ความใสของน้ำทะเลจะสู้อื่นเกาะอื่นไม่ได้ ..แต่เราจะได้สัมผัสกับความประทับใจในในรูปแบบอื่นๆ ความร่มรื่นของสวนและต้นไม้ภายในเกาะ วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวบ้าน บรรยากาศความสงบ เงียบของทะเล เมื่อได้มาพักผ่อน เหมือนได้พบกับความสุขสงบในดินแดนที่มีแต่ความสวยงาม และความ มหัศจรรย์ทางธรรมชาติของซุ้มประตูหินที่อ่าวเขาควาย และชมความงดงาม ชวนฝัน และโรแมนติกของพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งขึ้นชื่อว่า…“พระอาทิตย์ตกดิน สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ในท้องทะเลไทย”
ทั้ง 5 สถานที่ท่องเที่ยว ที่กองบรรณาการพับลิกโพสต์นำมาแนะนำนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าเที่ยวที่สุดในประเทศไทย ที่เราคัดเลือกมาอย่างดี ว่าสามารถอวดสายตาชาวโลกหรือนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศได้อย่างภาคภูมิใจ วันหยุดเทศกาลปีใหม่นี้ หรือไม่ใช่หน้าเทศกาล แต่ถ้าหาเวลาว่างได้ ก็ลองไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจเหล่านี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เที่ยวเมืองไทย ต้องไปให้ได้ จะได้รู้ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม น่าเที่ยว น่าประทับมากมายให้เราได้ไปเยือน
…….
ขอบคุณภาพจาก ททท. thai.tourismthailand.org