เดือนแห่งการ “ถือศีลอด” สำหรับชาวมุสลิมที่เรียกว่า “รอมฎอน” กำลังจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ แต่สำหรับคนที่ไม่ใช่มุสลิม ในขณะที่เพื่อนๆ หรือคนรู้จักซึ่งเป็นมุสลิมของคุณกำลังกระตือรือร้นและเตรียมตัวสำหรับการถือศีลอดนี้ คุณอาจกำลังประสบช่วงเวลาที่ยากลำบากในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเดือนรอมฎอนนี้
ความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไรเลย และนี่คือรายละเอียดบางส่วนของเดือนแห่งการถือศีลอดของชาวมุสลิม ที่จะทำให้คุณเข้าใจมันมากขึ้น
1. มุสลิมสามารถบริโภคอาหารได้ ยกเว้นเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น
ในช่วงเดือนรอมฎอน ชาวมุสลิมจะต้องถือศีลอดตั้งแต่ช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นขอบฟ้า ไปจนถึงเวลาที่ดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องถือศีลอดทั้งวันทั้งคืนตลอด 30 วัน
อาหารและเครื่องดื่มจะถูกบริโภคในช่วงที่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น และเมื่อดวงอาทิตย์ตกชาวมุสลิมส่วนใหญ่ก็ฉลองการถือศีอดประจำวันด้วยการร่วมรับประทานอาหารกับครอบครัวหรือคนที่ตนรัก โดยมื้ออาหารเย็นนี้เรียกว่า “อิฟตาร์” (Iftar) นั่นเอง
2. น้ำก็ดื่มไม่ได้
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ชาวมุสลิมจะไม่สามารถบริโภคอะไรได้เลยแม้แต่ดื่มน้ำก็ตาม คนที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมบางส่วนอาจเข้าใจว่าการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนนั้นคล้ายขั้นตอนทางการแพทย์ที่ต้องอดอาหารก่อนพบแพทย์เพียงไม่กี่ชั่วโมงและคุณสามารถดื่มน้ำได้ แต่การถือศีลอดในศาสนาอิสลามนั้นจะต้องงดการบริโภคทุกอย่าง
และไม่ใช่แค่อาหารเท่านั้นที่มุสลิมต้องละเว้น เพราะการถือศีลอดคือการฝึกฝนตัวเองให้มีวินัยมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ชาวมุสลิมต้องหลีกเลี่ยงการด่าทอ นินทา สูบบุหรี่ ต่อสู้ ถกเถียง หรือแม้กระทั่งการแสดงความไม่พอใจ
ปรัชญาก็คือ ถ้าคุณสามารถควบคุมตัวเองได้เมื่อไม่มีอาหารหรือเครื่องดื่ม คุณก็จะรู้ว่าตัวคุณมีศักยภาพและสามารถละทิ้งพฤติกรรมเชิงลบเหล่านี้ในช่วงเวลาอื่นๆ
3. รอมฎอนไม่ได้เกี่ยวกับการหิว / กระหาย เพียงอย่างเดียว
สำหรับชาวมุสลิม รอมฎอนเป็นช่วงเวลาที่จะตรวจสอบว่าเขาอยู่ในระดับใดและปรับปรุงตนเอง
การพัฒนาทางจิตวิญญาณเป็นแนวคิดหลักสำหรับเดือนการถือศีลอดนี้ มันคือเวลาแห่งการสร้างลักษณะนิสัย จิตวิญญาณ และระเบียบวินัย เป็นการชำระล้างทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ
หากในเดือนนี้ ชาวมุสลิมทำได้เพียงอดอาหารและเครื่องดื่ม แต่ปราศจากการใคร่ครวญและพัฒนาทางจิตวิญญาณ การอดอาหารของพวกเขาจะกลายเป็นความขาดทุนและเสียเวลา
รอมฎอนเป็นเสมือนการตรวจสอบประจำปี หรือการทำความสะอาดร่างกายและจิตวิญญาณ ชาวมุสลิมต้องกำจัดนิสัยที่ไม่ดีของพวกเขา จัดระเบียบใหม่ และเริ่มต้นใหม่ด้วยกระดานที่ใสสะอาด
4. การถือศีลอดไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ
หลายคนที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมอาจคิดว่า การใช้เวลาถึง 30 วันในการอดอาหารทั้งวันนั้นอาจนำมาซึ่งโรคหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ความคิดทำนองนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจในสังคมที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอาหาร
แต่ในความเป็นจริงนักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องกันว่า การถือศีลอดไม่เพียงแต่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใหญ่ที่แข็งแรง ทว่ายังเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
ตามรายงานของเว็บไซต์ Live Science “รูปแบบการรับประทานอาหารที่พบมากที่สุดในสังคมยุคใหม่ที่รับประทานอาหาร 3 มื้อต่อวัน บวกอาหารว่าง เป็นเรื่องที่ผิดปกติจากมุมมองของวิวัฒนาการมนุษย์” และนักวิทยาศาสตร์พบว่า “การอดอาหารที่ไม่ต่อเนื่อง ช่วยให้ร่างกายสามารถชุบตัวและซ่อมแซมตัวเอง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม” (คลิ๊กเพื่ออ่านอ้างอิง)
5. ไม่ใช่ทุกคนต้องถือศีลอด
คำถามนี้เป็นคำถามใหญ่สำหรับคนที่ไม่ใช่มุสลิม: คนป่วยหรือแม้แต่เด็กก็ต้องอดอาหารด้วยหรือ?
คำตอบคือ ไม่ใช่
ผู้ใหญ่มุสลิมที่มีสุขภาพแข็งแรงเท่านั้นที่ต้องถือศีลอด เด็กและผู้สูงอายุไม่จำเป็นต้องถือศีลอดเพราะอาจเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตหรือสุขภาพของพวกเขา
มารดาที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรมีทางเลือกที่จะไม่ต้องถือศีลอด เนื่องจากร่างกายของพวกเขากำลังสูญเสียพลังงานซึ่งเป็นการทดแทนอยู่แล้ว
ผู้หญิงที่มีประจำเดือนก็ไม่ต้องถือศีลอด เพราะร่างกายของพวกนางก็ต้องเผชิญกับกระบวนการตามธรรมชาติอยู่แล้ว
คนที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรังที่การอดอาหารจะทำให้อาการกำเริบขึ้นก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ถือศีลอด
คนที่จู่ๆ ประสบความเจ็บป่วยรุนแรงในช่วงเดือนนี้ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ถือศีลอด
และคนที่อยู่ในระหว่างการเดินทาง มีทางเลือกว่าจะถือศีลอดหรือไม่ถือศีลอดก็ได้
วัตถุประสงค์ของการถือศีลอดนั้นวางอยู่บนพื้นฐานว่าจะต้องไม่ทำอันตรายต่อตัวเอง และหากมีความเป็นไปได้ว่าการถือศีลอดจะทำอันตรายอย่างร้ายแรงมุสลิมก็จะได้รับการยกเว้น แต่อย่าได้แสดงความยินดีกับชาวมุสลิมที่ไม่สามารถถือศีลอดได้ เพราะหลายคนรู้สึกเศร้าเสียใจอย่างมากที่ไม่สามารถเข้าร่วมการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนนี้
6. ในแต่ละปีเดือนรอมฎอนจะไม่ตรงกัน
เดือนรอมฎอนในแต่ละปีจะเลื่อนไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 วัน เพราะปฏิทินอิสลามนับตามจันทรคติ รอมฎอนเป็นเดือนที่เก้าในปฏิทินอิสลาม ในทุกปีรอมฎอนเริ่มต้นเมื่อมีการเห็นดวงจันทร์ใหม่ ในแต่ละเดือนมีระยะเวลา 29-30 วันขึ้นอยู่กับรอบดวงจันทร์ ซึ่งหมายความว่าในแต่ละปีเดือนรอมฎอนจะเลื่อนขึ้นมา 10 วันเมื่อเทียบกับปฏิทินเกรกอเรียน หรือการนับแบบสุริยคติ
สำหรับชาวมุสลิมแล้ว รอมฎอนเป็นช่วงเวลาแห่งการเชื่อมต่อกับความเชื่อความศรัทธาและชุมชน เป็นช่วงเวลาแห่งการพัฒนาตนเองที่สำคัญ การถือศีลอดอาจเป็นเรื่องยากประการหนึ่งทีเดียว แต่ในโลกนี้ก็ไม่มีอะไรที่ง่ายดายเลยเช่นกัน หากคุณต้องการสนับสนุนเพื่อนร่วมงาน เพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัวของคุณที่เป็นมุสลิมก็ให้แสดงความยินดีกับพวกเขาในเดือนรอมฎอนนี้ แต่สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยมากกว่านั้น คุณอาจจะลองถือศีลอดไปพร้อมกับพวกเขาเพื่อดูว่ามันเป็นอย่างไร ไม่แน่ คุณอาจได้รับบางสิ่งบางอย่างจากการลองถือศีลอดนี้ก็ได้!!
….
อ้างอิง http://aboutislam.net