สำหรับนายกรัฐมนตรีคนแรกของชาวใต้ นายชวน หลีกภัย ในฐานะผู้นำรัฐบาลและเป็น ส.ส. หลายสมัย ย่อมได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นพิเศษและได้ชี้แจงต่อสื่อว่า
“การลอบวางเพลิงโรงเรียน 30 กว่าโรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ดังกล่าวนั้น ตนทราบว่า ไม่มีใครรู้เรื่องมาก่อน การลอบวางเพลิงโรงเรียน ทำเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะไม่มีคนเฝ้าอยู่ตลอดเวลา ที่น่าวิตกก็คือทำในจุดที่ใกล้เคียงกัน ไม่ห่างจากบ้านชาวบ้านเท่าไหร่ การกระทำอย่างนี้ต้องเป็นองค์กร ตนได้ถาม พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทราบว่าจะรายงานต่อคณะรัฐมนตรีในวันพุธที่ 4 สิงหาคม 2536 นี้ แต่ตนยืนยันได้ว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองระหว่างพรรค ทราบแต่ว่ามีกลุ่มคน แต่ไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มใหนเป็นผู้กระทำ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสุดวิสัยป้องกันไม่ได้ ต้องขอเวลาสักนิดในการสืบสวนหาข้อเท็จจริง”
ผู้สื่อข่าวยังถามอีกว่า “ที่นายสัมพันธ์ ทองสมัคร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของพรรคประชาธิปัตย์เองกล่าวว่า เผาแต่โรงเรียน ทำไมไม่เผากองทัพบ้าง หมายความว่ายังไง” นายชวนฯตอบ “อย่าพูดต่อกันไปอีกเลย ส่วนที่จะพูดว่าโจรผู้ร้ายหมดไปคงพูดไม่ได้ อย่าไปเชื่อว่าเป็นกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดจะหมดไป เพียงแต่เงียบไปสักระยะหนึ่งเท่านั้น” นายชวนฯ คาดการณ์และกล่าวถึงงานข่าวกรองของรัฐว่า “ตนไม่อยาก….ไม่กล้าพูด ไม่รู้คนทำเก็บข่าวเก่งหรือคนของเราทำงานไม่สมบูรณ์ เราสนับสนุนทุกหน่วยงานในการทำงานประสานในเรื่องหาข่าวเต็มที่แล้ว “
สำหรับผู้อำนวยการศูนย์บริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) นายนิพนธ์ บุญญภัทโร กล่าวสัมภาษณ์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. เมื่อค่ำวันที่ 3 สิงหาคม 2536 เกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบวางเพลิงโรงเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย ผู้สื่อข่าวได้ตั้งคำถามถึงกลุ่มหรือขบวนการที่ลงมือปฏิบัติการเป็น ขจก. ใช่หรือไม่ นายนิพนธ์ตอบว่า ไม่ใช่ แต่อาจเป็นกลุ่มหรือขบวนการที่ลอกเลียนแบบจาก ขจก. ในอดีต มักใช้ความรุนแรงเผาทำลายสถานที่ราชการหรือโรงเรียน จัดว่ากลุ่มที่ลงมือก่อความไม่สงบขึ้นมานี้เป็นกลุ่มที่ไม่ประสงค์ดี
นายนิพนธ์ฯ ได้ตอบข้อซักถามถึงวัตถุประสงค์ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบว่า อาจมีเป้าหมายแอบแฝง ซึ่งตนก็มีความเชื่อเช่นนั้นและชาวบ้านมีปฏิกริยากันมากเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้ดีว่าเป็นฝ่ายใหน โดยเฉพาะชาวมุสลิมกำลังมีปฏิกริยาไม่พอใจขึ้นมาแล้ว ส่วนคำถามที่ว่า เหตุการณ์เผาโรงเรียนมาจากคนไม่พอใจต่อกฎหมายอิสลามนั้น นายนิพนธ์ฯกล่าวชี้แจงว่า ฟังดูแล้วยังไม่ชัดเจน ขอให้อดใจรออีกหน่อย ชาวบ้านจะเป็นผู้ออกมา บอกถึงเบื้องหลังหรือสาเหตุของการกระทำว่าเป็นฝีมือของใคร มีวัตถุประสงค์อะไร
ทางด้านกองทัพ พล.อ. วิมล วงศ์วานิช ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่มีการลอบวางเพลิงโรงเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า “ตนได้รับรายงาน แต่รายละเอียดยังไม่รู้แน่ชัดว่าใครดำเนินการ แต่ตนอยากขอร้องสื่อมวลชนให้เรียนกับประชาชน ให้เข้าใจว่า การที่ผู้ก่อการร้ายเผาโรงเรียน เราก็เสียหายมากพอแล้ว เป็นการกระทำที่เลวร้าย เพราะเป็นการทำร้ายอนาคตของเด็ก ทำลายความเจริญของท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เด็กๆร้องไห้ เพราะไม่มีที่เรียน การสูญเสียครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำลายจิตใจของคนไทยทั่วประเทศ ซึ่งตนไม่อยากให้ข้าราชการคนไทยแตกแยกกันอีก มีครูบางคนพูดว่า เขาไม่ได้รับการดูแล ตนอยากให้ทุกคนหันมาจับมือกัน ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด มาช่วยกัน”
ฝ่ายตำรวจ พล.ต.อ. สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมตำรวจขณะนั้น เปิดเผยว่า “การสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ มีความคืบหน้าเพิ่มขึ้นทุกวัน จนขณะนี้มีแนวทางที่จะทราบตัวคนร้าย 2-3 จุดแล้ว ยังขาดพยานที่จะยืนยัน กำลังเจรจาขอความร่วมมืออยู่ สำหรับสาเหตุในเรื่องที่เกิดขึ้น รัฐมนตรีที่รับผิดชอบหรือ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) จะเป็นผู้ชี้แจง ในส่วนของกรมตำรวจเน้นการสืบสวนหาผู้กระทำความผิดในเบื้องต้น เพื่อจะได้ทราบสาเหตุที่ชัดเจน และยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด ถึงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของกลุ่มใด ควรมองไปที่คนกระทำความผิดก่อน ดังนั้นจึงมอบหมายให้ พล.ต.อ. สนั่น ตู้จินดา ที่ปรึกษากฎหมายของกรมตำรวจ ลงไปช่วยให้คำปรึกษา และวางแผนรูปแบบการสอบสวน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ไปก่อเหตุหลายแห่ง การสืบสวนสอบสวนจึงต้องเป็นเอกภาพและอาศัยการวินิจฉัยและจะมีทีมลงไปวิเคราะห์ผลการสอบสวนในแต่ละวันว่ามีความรัดกุมเพียงใด เพื่อหาหลักฐานมัดผู้กระทำผิด ส่วนจะกำหนดในวันที่จะจับคนร้ายยังบอกไม่ได้
ด้านแม่ทัพกองทัพภาคที่ 4 พล.ท. กิตติ รัตนฉายา ได้เปิดแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนที่ห้องประชุมกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 5 สิงหาคม 2536 เรื่องที่มีกลุ่มคนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียนหลายแห่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ จึงยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าสาเหตุการเผาโรงเรียนเกิดจากอะไร แต่น่าจะมีประเด็นที่เป็นไปได้ 2 ประเด็น ประเด็นแรก คือขบวนการโจรก่อการร้ายหรือ ขจก. ได้ดำเนินการเผา เพราะมันมีข่าวและข้อมูลน่าเป็นไปได้ว่า พูโลใหม่ ซึ่งมีความขัดแย้งกับพูโลเก่า และขัดขวางที่สมาชิกบางกลุ่มจะเข้ามามอบตัวกับทางการมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และจะกำหนดยุทธวิธีใหม่ แทนที่จะทำในเขตพื้นที่เคลื่อนไหว กลับมาทำในเขตพื้นที่ในเมืองหรือใกล้ๆ พื้นที่ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวมาก่อน ประเด็นที่สอง อาจไม่ใช่ขบวนการโจรก่อการร้าย แต่เป็นกลุ่มอื่นที่ทำเพื่อก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ในเรื่องการโยกย้าย การแสวงหาผลประโยชน์ของกลุ่มผู้กระทำเอง อันนี้ก็ไม่ชี้ชัดว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายอิสลามของกระทรวงมหาดไทย แม้มีกลุ่มที่ไม่พอใจอยู่บ้าง หรือเป็นเรื่องความ ขัดแย้งทางการเมือง หรือผลประโยชน์ด้านอื่นๆ เรื่องต่างๆเหล่านี้ก็ไม่ควรสลัดทิ้งไป ดังตัวอย่างกรณีการเผาโรงเรียน 11 แห่ง ในจังหวัดสกลนคร ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ เราก็ไม่ทิ้งประเด็นนี้
พล.ท. กิตติฯยังกล่าวอีกว่า โดยสรุปทั้งสองประเด็นนี้จะกระจ่างขึ้นต่อเมื่อทางตำรวจ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ ได้จับตัวคนร้ายได้แล้ว คาดว่าจะจับกุมคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้ ทางทหารก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามช่วยเหลือเต็มความสามารถอยู่แล้ว ทั้งในเรื่องการสืบเสาะหาข่าวและสืบหาคนร้าย
ทางด้านสมาพันธ์ครู 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ออกแถลงการณ์สรุปได้ว่า “ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของขบวนการโจรก่อการร้าย เพราะหากเป็นจริงพวกเขาจะรู้ล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง และตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เนื่องจากไม่พอใจที่ต้องสูญเสียอำนาจตำแหน่งและงบประมาณ ซึ่งก่อให้เกิดการแตกแยกในวงราชการอย่างใหญ่หลวง เพื่อขจัดปัญหาดังกล่าว สมาพันธ์ฯขอเรียกร้องให้รัฐบาลกำกับกลไกอำนาจรัฐที่เกี่ยวข้องแถลงข้อเท็จจริงภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2536 และให้จับกุมผู้กระทำผิดด้วย และให้ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานการข่าวทั้งระบบหากไม่มีการดำเนินการใดๆ ทางสมาพันธ์ฯจะร่วมกับประชาชนในพื้นที่ กำหนดมาตรการกดดันในระดับที่เข้มข้นต่อไป
จะสังเกตเห็นได้ว่า การให้สัมภาษณ์ของบุคคลคนระดับต่างๆ หน่วยงานต่างๆ ที่รับ ผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ ทั้งฝ่ายการเมือง ทหาร ตำรวจ ทางฝ่ายปกครอง และการเคลื่อนไหวของบุคคลากรครูผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ผ่านทางสมาพันธ์ครู 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ล้วนแต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า กลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุการณ์รุนแรงสร้างความเสทือนขวัญให้กับคนทั้งประเทศนั้นเป็นกลุ่มใดและมีวัตถุประสงค์อะไร แต่คล้อยหลังจากวันเกิดเหตุการณ์มาได้ 11 วัน ทางตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้จับกุมคนร้ายที่เผาโรงเรียนบ้านกูยิ ต.ตะปอเยาะ อ. ยี่งอ จ. นราธิวาส หนึ่งในโรงเรียน 30 กว่าโรงที่ถูกลอบวางเพลิง คือ นายโต๊ะกูเฮ็ง หรือ กูมะนาเส กอตอนีลอ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2536 และได้จับกุมผู้ต้องหาอีก 3 คน ได้แก่ นายดอฮะ เจ๊ะหามะ นายสะมะแอ เจ๊ะสะนิ และ นายหมัดรูดิง เจ๊ะโว๊ะ มาดำเนินคดีที่ศาลกรุงเทพฯ
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับตัวนายโต๊ะกูเฮง กอตอนีลอ แล้ว ญาติๆ ของนายโต๊ะกูเฮงฯ ได้แสดงปฏิกริยาประท้วงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.อ.ยี่งอ จ. นราธิวาส ไม่พอใจและคัดค้านที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวนายโต๊ะกูเฮงฯ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.อ. ยี่งอ แจ้งว่า นายโต๊ะกูเฮงฯถูกนำตัวไปยังกรุงเทพฯแล้ว ญาติๆ นายโต๊ะกูเฮงฯ จึงยุติการประท้วง และได้ติดต่อกับนายวิเชียร อัสมาแอ (สจ.เปาะติ)สมาชิกสภาจังหวัดนราธิวาส เขตอำเภอยี่งอ เพื่อจะร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายอารีเพ็ญฯ ในฐานะ ส.ส. ในพื้นที่และผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต่อไป
เนื่องจากนายโต๊ะกูเฮงฯเป็นบุคคลอยู่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสและเป็นเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่นายอารีเพ็ญฯเป็น ส.ส. ท่านรัฐมนตรีเด่นฯได้สั่งการและมอบหมายให้นายอารีเพ็ญฯลงไปในพื้นที่เพื่อสอบหาข้อเท็จจริงจากญาติๆ นายโต๊ะกูเฮงฯผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และเพื่อนบ้านในพื้นที่ เพื่อจะได้ข้อมูลและข้อเท็จจริงอีกทางหนึ่ง นอกจากข้อมูลและข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและสร้างความเข้าใจอันดีกับกระแสของสังคมที่ยังกังขากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้
อดีต รมช.กระทรวงศึกษาธิการ, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัยของจังหวัดนราธิวาส, ปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ และปริญญาโทสาขาบริหารรัฐกิจ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์