อัลจาซีรา – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันอังคาร (20 พ.ย.) ว่า สหรัฐฯ มีความตั้งใจที่จะยังคงเป็น “พันธมิตรที่มั่นคง” ของซาอุดีอาระเบีย ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ว่า เจ้าชายมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน จะรับรู้เกี่ยวกับแผนสังหาร “จามาล คาช็อกจี”
“เราอาจไม่มีวันได้รับรู้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับการฆาตกรรมจามาล คาช็อกจี แต่อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของเราอยู่กับราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย” ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ที่ออกโดยทำเนียบขาว
ในการต่อต้านแรงกดดันจากสมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐฯ ที่ต้องการให้มีการลงโทษต่อประเทศซาอุดีอาระเบียที่รุนแรงยิ่งขึ้น ทรัมป์พูดเป็นนัยว่าเขาไม่มีความประสงค์จะยกเลิกสัญญาทางทหารต่างๆ กับริยาด
“ถ้าเราโง่ยกเลิกสัญญาเหล่านี้ รัสเซียและจีนจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์มหาศาล” ทรัมป์กล่าว
ความเห็นนี้ของทรัมป์เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังสื่อสหรัฐรายงานว่า ซีไอเอได้สรุปว่าบินซัลมานเป็นผู้ออกคำสั่งให้มีการฆาตกรรมของคาช็อกจี ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวว่าในวันอังคาร (20 พ.ย.) ว่า การประเมินของซีไอเอไม่ได้เป็น “ข้อสรุปสุดท้าย”
คาช็อกจี ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวให้กับวอชิงตันโพสต์ ถูกสังหารที่สถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในอิสตันบูลเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม หลังเขาไปที่นั่นเพื่อรับเอกสารที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการแต่งงานของเขา
ในแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร ทรัมป์กล่าวว่า เขาทราบว่าสมาชิกรัฐสภาบางคน “อยากไปในทิศทางที่แตกต่างจากนี้” และพวกเขาก็ “มีอิสระที่จะทำเช่นนั้น”
“ผมจะพิจารณาแนวคิดใดก็ตามที่ถูกนำเสนอมาให้ผม แต่มันต้องมีความสอดคล้องกับความมั่นคงและความปลอดภัยของอเมริกา” เขากล่าว
“พวกเขา (ซาอุดีอาระเบีย) เป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ในการสู้รบที่สำคัญยิ่งของเรากับอิหร่านสหรัฐอเมริกาหมายมั่นที่จะยังคงเป็นพันธมิตรที่มั่นคงของซาอุดิอาระเบีย เพื่อรับประกันผลประโยชน์ของประเทศเรา อิสราเอล และคู่ภาคีอื่นๆ ของเราในภูมิภาคนี้”
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ ปอมเปโอ กล่าวถึงแถลงการณ์ของทรัมป์ว่า “นี่เป็นข้อผูกมัดของประธานาธิบดีและหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่จะต้องรับรองว่าเราจะยอมรับนโยบายที่จะนำมาสู่ความมั่นคงของประเทศอเมริกาต่อไป”
ก่อนหน้านี้ในวันอังคารที่เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศบอกสำนักข่าวเอบีซีว่า “ชัดยิ่งกว่าชัด” ว่าเจ้าชายมงกุฎราชกุมารสั่งให้ฆ่าจามาล คาช็อกจี ซึ่งเรื่องนี้ปอมเปโอกล่าวว่าเขาไม่สามารถแสดงความคิดเห็นในเรื่องของหน่วยข่าวกรอง
“คิมเบอร์ลี ฮัลเกตต์” ผู้สื่อข่าวอัลจาซีรารายงานจากภายนอกทำเนียบขาวกล่าวว่า ความคิดเห็นของทรัมป์สร้างความโกรธแค้นต่อสมาชิกสภาจากทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรอง