รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังติดต่อกับพันธมิตรที่สำคัญของตนเพื่อชักชวนให้ บริษัทโทรคมนาคมต่างๆ ในประเทศเหล่านั้นหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์จาก “บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี” ของจีน ตามรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล
เจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯ ได้ติดต่อถึงคู่ค้าและผู้บริหารในประเทศต่างๆ รวมทั้ง เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น เกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ โดยวอลล์สตรีทเจอร์นัลระบุด้วยว่า สหรัฐฯ อาจเพิ่มความช่วยเหลือในการพัฒนาด้านการสื่อสารโทรคมนาคมในประเทศต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอุปกรณ์ของหัวเว่ย
หัวเว่ยถูกระบุว่ามีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยโดยฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะก่อตั้งโดยอดีตวิศวกรทางทหาร “เหริน เจิ้งเฟย” แม้ว่าบริษัทที่อยู่ในเซินเจิ้นได้ปฏิเสธความเชื่อมโยงใดๆ ที่ไม่ถูกต้อง
หัวเว่ยถูกระงับการส่งอุปกรณ์ไวเลสรุ่นที่ 5 ในออสเตรเลีย ต้องเผชิญกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงในอังกฤษ และพบว่าตัวเองถูกกันออกจากตลาดในสหรัฐฯ
การตรวจสอบหัวเว่ยยิ่งทวีเพิ่มขึ้นหลังโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งเพิ่มขึ้น
หัวเว่ยเป็นบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับสองของโลก และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายโทรศัพท์รายใหญ่ที่สุดในโลก
หัวเว่ยกล่าวว่าลูกค้าทั่วโลกเลือกผลิตภัณฑ์ของบริษัท เพราะเชื่อมั่นในบริษัท
“หัวเว่ยรู้สึกประหลาดใจกับพฤติกรรมของรัฐบาลสหรัฐฯ ตามที่มีรายละเอียดในบทความนี้” บริษัทกล่าวในอีเมล
เจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันกังวลเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์จากจีนในประเทศต่างๆ ที่มีฐานทัพสหรัฐฯ เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น และอิตาลี วอลล์สตรีทเจอร์นัลระบุและว่า ความกังวลนี้เกี่ยวกับความสามารถของจีนในการบังคับให้บริษัทต่างๆ ปฏิบัติตามคำขอของรัฐบาล