“ปชป.” โวยแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่เอื้อพรรคพลังประชารัฐ ทำลายฐานเสียงปชป. ข้องใจมีผู้มีอำนาจแทรกแซง จี้กกต.ทำหน้าที่เข้มแข็ง อิสระ ยึดหลักความถูกต้อง เตือนระวังซ้ำรอยอดีต กกต. ปฏิบัติหน้าที่มิชอบจนติดคุก
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคกลาง กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว ว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งที่ออกมาครั้งนี้ได้เอื้อให้กับพรรคการเมืองบางพรรค แต่เป็นโทษให้กับพรรคการเมืองอีกพรรค อาทิ การแบ่งพื้นที่ในบางเขตได้ทำลายฐานของว่าที่ผู้สมัครส.ส.บางคนของพรรคประชาธิปัตย์ และทำให้ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ส่วนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐได้รับประโยชน์
ซึ่งมีหลักฐานชัดว่าเหตุผลของการแบ่งฐานในบางพื้นที่นั้น แทนที่จะทำให้มีจำนวนประชากรในแต่ละเขตมีความใกล้เคียงกันมากที่สุด แต่ปรากฏว่ายิ่งทำให้มีจำนวนประชากรแตกต่างกันมาก ขัดกับหลักรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน จึงมีข้อสงสัยว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งครั้งนี้มีใครใช้อำนาจใดเข้าไปแทรกแซงหรือไม่
นายสาธิต กล่าวต่อว่า ตนขอฝากถึงกกต.ว่า ขอให้ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง มีความเป็นอิสระ และยึดหลักความถูกต้อง ก็จะเป็นสิ่งที่ปกป้องตัวของกกต.ให้ยังมีความน่าเชื่อถือต่อไป แต่ถ้าปล่อยให้ผู้มีอำนาจรัฐมาครอบงำหรือแทรกแซงกกต.เพื่อประโยชน์แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็อาจจะซ้ำรอยกับกรณีของอดีตกรรมการกกต.บางคน ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริตจนต้องได้รับโทษในที่สุด
นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ถือว่าเป็นมือกฎหมายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมารับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเอง กรณีที่ให้สัมภาษณ์ว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต. ถือว่าสิ้นสุด แต่ถ้ามีผู้ไม่ยอมรับก็สามารถร้องศาลปกครองได้ ทั้ง ๆ ที่น่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 16/61 ซึ่งใช้อำนาจตามมาตรา 44 คุ้มครองอยู่ อย่างไรก็ตาม แม้จะฟ้องศาลปกครองไม่ได้ ก็ต้องฟ้องประชาชนว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งที่ไม่ยึดหลักกฎหมาย ถือเป็นการเริ่มต้นที่จะทำให้เกิดปัญหาในการเลือกตั้งว่าส่อไปในทางไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม