เพรสทีวี – ประธานาธิบดีตุรกี เรเยบ ตอยยิบ แอร์โดกัน กล่าวว่า กองกำลังทหารของประเทศตนไม่มีธุระกงการใดอีกในเมืองมันบิจทางตอนเหนือของซีเรีย เมื่อกองทหารชาวเคิร์ดจากหน่วยพิทักษ์ประชาชน (YPG) ที่สหรัฐฯ สนับสนุนถอนกำลังออกไป
“พื้นที่เหล่านี้เป็นของซีเรีย เราต่อต้านการแบ่งซีเรีย เป้าหมายของเราคือกำจัดองค์กรก่อการร้ายทั้งหมดออกจากที่นั่น เมื่อองค์กรก่อการร้ายออกจากพื้นที่ไปแล้ว เราก็ไม่มีอะไรเหลือให้ทำอีกแล้ว” แอร์โดกันกล่าวกับผู้สื่อข่าวในเมืองอิสตันบูลของตุรกีหลังละหมาดวันศุกร์ (28 ธ.ค.)
เขากล่าวเสริมว่าเป้าหมายของอังการาคือการสอนบทเรียนให้กับกลุ่มผู้ก่อการร้าย YPG และมุ่งมั่นที่จะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น
คำพูดดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกองทัพของซีเรียประกาศว่าได้เข้าควบคุมเมืองมันบิจแล้ว
โฆษกเครมลิน ดมิตทรี เปสกอฟ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า มอสโกยินดีที่ได้รับรายงานว่ากองกำลังรัฐบาลซีเรียได้เข้าควบคุมเมืองนี้ซึ่งตั้งอยู่ 30 กิโลเมตรทางตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส
กองกำลังชาวเคิร์ดซึ่งถูกตัดหางปล่อยวัดโดยทรัมป์ที่ประกาศถอนทหารอเมริกันออกจากซีเรีย ได้ขอให้กองกำลังรัฐบาลซีเรียเข้าช่วยเหลือท่ามกลางข้อบ่งชี้ว่าตุรกีกำลังพิจารณาโจมตีทางทหารต่อพวกเขา
สำนักข่าวอะนาโดลูของทางการตุรกีรายงานว่า กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการหนุนหลังจากตุรกีซึ่งเรียกว่าฟรีซีเรียอาร์มี (Free Syria Army – FSA) กำลังส่งทหารใหม่ไปเสริมยังแนวหน้าในเมืองมันบิจ ประเทศซีเรีย
เมืองมันบิจเป็นจุดสำคัญของความขัดแย้งระหว่างตุรกีและสหรัฐอเมริกา
อังการาตัดพ้อต่อว่าเรื่องการทำข้อตกลงกับวอชิงตันในเดือนมิถุนายนซึ่งจะทำให้ YPG ถูกขับออกจากเมืองและย้ายกลับไปที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทหารตุรกีได้ส่งกำลังเสริมไปยังพื้นที่แนวหน้ากับกลุ่มก่อการร้าย YPG ในภาคเหนือของซีเรีย
ทหารตุรกีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังพันธมิตรฟรีซีเรียอาร์มี หรือ SFA ได้เปิดปฏิบัติการข้ามพรมแดนสองครั้งในภาคเหนือของซีเรียเพื่อจัดการกับ YPG และไอซิส
ตุรกีถือว่า YPG เป็นองค์กรก่อการร้าย และเป็นส่วนสาขาของพรรคเคอร์ดิสถานกรรมกร (PKK) ที่อยู่นอกกฎหมายซึ่งต่อสู้เพื่อแยกดินแดนเป็นอิสระในตุรกีตั้งแต่ปี 2527
