อุปทูตซาอุฯ หลุดปากพูด สถานการณ์คงไม่ลุกลาม “หากยึดโทรศัพท์มือถือเธอมาแทนการยึดพาสปอร์ต” ระหว่างพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทางการไทยที่เข้าไปชี้เแจงสถานการณ์ กรณีราฮาฟ โมฮัมหมัด อัลกูนุน หญิงสาวชาวซาอุฯ ที่ถูกทางการไทยกักตัวหลังหลบหนีครอบครัวมาจากคูเวต
“เธอเปิดบัญชีทวิตเตอร์ แล้วก็มีผู้ติดตาม 45,000 คนภายในวันเดียว ผมคิดว่า คงเป็นการดีกว่าที่พวกเขาจะยึดโทรศัพท์มือถือของเธอแทนการยึดหนังสือเดินทางของเธอ เพราะทวิตเตอร์ได้เปลี่ยนทุกสิ่งอย่าง” นายอับดุลลอฮ์ มูฮัมหมัด อัลชุอัยบี อุปทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย กล่าวกับเจ้าหน้าที่ทางการไทยซึ่งนำโดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ราฮาฟ โมฮัมหมัด อัลกูนุน หญิงสาวชาวซาอุฯ หลบหนีครอบครัวจากคูเวต มายังประเทศไทย เพื่อเดินทางต่อไปยังออสเตรเลีย ประเทศที่เธอหวังขอลี้ภัย หลังถูกตม.ไทยกักตัวและเตรียมส่งกลับคูเวต ราฮาฟขอความช่วยเหลือทางทวิตเตอร์ @rahaf84427714 จนเป็นข่าวทั่วโลกและได้พบกับเจ้าหน้าที่ UNHCR
SA charge d'affaires in Bangkok Mr. Al-Shuaibi in a meeting with Thai officials:
"She opened a Twitter account and her followers grew to 45000 within one day. It would have been better if they confiscated her cell phone instead of her passport because Twitter changed everything" pic.twitter.com/FEjPjUbteV
— Taleb Al Abdulmohsen (@DrTalebJawad) January 8, 2019
ราฮาฟเองก็ได้แชร์คลิปดังกล่าวจากผู้สื่อข่าวไทยมาทวีต พร้อมระบุว่า “นายอัลชูอัยบี อุปทูตซาอุฯ ประจำกรุงเทพ กล่าวว่า พวกเขาควรยึดโทรศัพท์มือถือของเธอ แทนที่จะยึดหนังสือเดินทางของเธอ”
“บัญชีทวิตเตอร์ได้เปลี่ยนเกมต่อสิ่งที่เขาคิดหวังกับฉัน” เธอทวีต
Saudi Arabia charge d’affaires in Bangkok Mr. Alshuaibi
said “they should have took her phone instead of her passport”Twitter account has changed the game against what he wished for me
Original video was taken from @djboych9 pic.twitter.com/LylDuuwXop
— Rahaf Mohammed رهف محمد (@rahaf84427714) January 8, 2019
ก่อนหน้านี้ราฮาฟระบุว่า หนังสือเดินทางของเธอถูกยึดโดยชายคนหนึ่งภายในสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเธอเดินทางมาถึงประเทศไทย
เธอระบุในทวิตว่า “สายการบินคูเวตร่วมมือกับสถานทูตซาอุฯ พวกเขายึดหนังสือเดินทางฉันไป”
https://twitter.com/rahaf84427714/status/1082081214742224896?s=19
ขณะที่เมื่อวันที่ 8 ม.ค. สถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณี นางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัล-กูนุน ถึงเนื้อหาที่มีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลมีเดียว่าทางสถานทูตฯ ได้ทำการยึดหนังสือเดินทางของนางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัล-กูนุน ไว้ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากตามที่ทางการไทยได้ชี้แจงว่า นางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัล-กูนุน ถูกกักตัวไว้นั้นเนื่องจากไม่สามารถแสดงเอกสารสำคัญที่สามารถตรวจสอบได้
ทั้งนี้ ทางสถานทูตขอยืนยันว่าราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ไม่ได้ร้องขอให้นำตัวนางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัล-กูนุน กลับประเทศแต่อย่างใด อีกทั้งสถานทูตฯ ขอเรียนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัวแต่สถานทูตฯ ยินดีให้ความดูแลและห่วงใยต่อเรื่องดังกล่าว