อุปทูตซาอุฯ หลุดปาก! คงดีกว่าถ้ายึดโทรศัพท์มือถือของ “ราฮาฟ” แทนที่จะยึดพาสปอร์ต (มีคลิป)

ราฮาฟ โมฮัมหมัด อัลกูนูน สาวซาอุฯ วัย 18 ที่กล่าวว่าเธอกำลังหนีออกจากประเทศและครอบครัวของเธอในห้องหนึ่งในกรุงเทพ ในภาพนี้ถ่ายจากวิดีโอที่ได้จากโซเชียลมีเดีย [@rahaf84427714 via Reuters]

อุปทูตซาอุฯ หลุดปากพูด สถานการณ์คงไม่ลุกลาม “หากยึดโทรศัพท์มือถือเธอมาแทนการยึดพาสปอร์ต” ระหว่างพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทางการไทยที่เข้าไปชี้เแจงสถานการณ์ กรณีราฮาฟ โมฮัมหมัด อัลกูนุน หญิงสาวชาวซาอุฯ ที่ถูกทางการไทยกักตัวหลังหลบหนีครอบครัวมาจากคูเวต

“เธอเปิดบัญชีทวิตเตอร์ แล้วก็มีผู้ติดตาม 45,000 คนภายในวันเดียว ผมคิดว่า คงเป็นการดีกว่าที่พวกเขาจะยึดโทรศัพท์มือถือของเธอแทนการยึดหนังสือเดินทางของเธอ เพราะทวิตเตอร์ได้เปลี่ยนทุกสิ่งอย่าง”  นายอับดุลลอฮ์ มูฮัมหมัด อัลชุอัยบี อุปทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย กล่าวกับเจ้าหน้าที่ทางการไทยซึ่งนำโดย  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ราฮาฟ โมฮัมหมัด อัลกูนุน หญิงสาวชาวซาอุฯ หลบหนีครอบครัวจากคูเวต มายังประเทศไทย เพื่อเดินทางต่อไปยังออสเตรเลีย ประเทศที่เธอหวังขอลี้ภัย หลังถูกตม.ไทยกักตัวและเตรียมส่งกลับคูเวต ราฮาฟขอความช่วยเหลือทางทวิตเตอร์ @rahaf84427714 จนเป็นข่าวทั่วโลกและได้พบกับเจ้าหน้าที่ UNHCR

ราฮาฟเองก็ได้แชร์คลิปดังกล่าวจากผู้สื่อข่าวไทยมาทวีต พร้อมระบุว่า “นายอัลชูอัยบี อุปทูตซาอุฯ ประจำกรุงเทพ กล่าวว่า พวกเขาควรยึดโทรศัพท์มือถือของเธอ แทนที่จะยึดหนังสือเดินทางของเธอ”

“บัญชีทวิตเตอร์ได้เปลี่ยนเกมต่อสิ่งที่เขาคิดหวังกับฉัน” เธอทวีต

ก่อนหน้านี้ราฮาฟระบุว่า หนังสือเดินทางของเธอถูกยึดโดยชายคนหนึ่งภายในสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเธอเดินทางมาถึงประเทศไทย

เธอระบุในทวิตว่า “สายการบินคูเวตร่วมมือกับสถานทูตซาอุฯ พวกเขายึดหนังสือเดินทางฉันไป”

https://twitter.com/rahaf84427714/status/1082081214742224896?s=19

ขณะที่เมื่อวันที่ 8 ม.ค. สถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณี นางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัล-กูนุน ถึงเนื้อหาที่มีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลมีเดียว่าทางสถานทูตฯ ได้ทำการยึดหนังสือเดินทางของนางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัล-กูนุน ไว้ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากตามที่ทางการไทยได้ชี้แจงว่า นางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัล-กูนุน ถูกกักตัวไว้นั้นเนื่องจากไม่สามารถแสดงเอกสารสำคัญที่สามารถตรวจสอบได้

ทั้งนี้ ทางสถานทูตขอยืนยันว่าราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ไม่ได้ร้องขอให้นำตัวนางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัล-กูนุน กลับประเทศแต่อย่างใด อีกทั้งสถานทูตฯ ขอเรียนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัวแต่สถานทูตฯ ยินดีให้ความดูแลและห่วงใยต่อเรื่องดังกล่าว