“ทักษิณ” Good Monday ตอน 2 แนะวิธีแก้วิกฤติฝุ่น ต้องกล้าเปลี่ยนแปลง หันปลูกต้นไม้ ส่งเสริมอุตสาหกรรมทำรถไฟฟ้า สร้างเครื่องขจัดมลพิษขนาดยักษ์
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จัดรายการ Good Monday ตอนที่ 2 เรื่อง “แก้วิกฤติฝุ่น ต้องกล้าเปลี่ยนแปลง” ผ่านทาง www.thaksinofficial.com โดยระบุตอนหนึ่งว่า ที่เมืองไทย มีปัญหาที่ตกใจกันมากก็คือเรื่องของ “ฝุ่น” เรื่องของอากาศมลพิษที่มีฝุ่นขนาดเล็ก ถึง 2.5 ไมครอน ซึ่งเป็นขนาดที่อันตรายในการทะลุทะลวงเข้าไปในหลอดเลือดต่างๆ ทำให้สุขภาพเสียหาย
การมีมลภาวะที่ติดอันดับ 10 ของโลกเนี่ย มันเสียหาย 2 ส่วนแน่นอน ส่วนหนึ่ง คือสุขภาพอนามัยของคนไทย แต่ส่วนที่สอง คือ ความเสียหายทางเศรษฐกิจ ก็คือเรื่องของภาพพจน์ที่เสียหายไป การท่องเที่ยวก็จะมีผล เพราะคนก็ไม่อยากจะมาในช่วงที่ภาวะมลพิษทางอากาศสูงอย่างนี้ เหมือนหลายประเทศ หลายเมืองที่ขึ้นบัญชีว่าเป็นเมืองที่มีมลพิษสูง
ฉะนั้นก็จะเสียหายทางเศรษฐกิจ เสียหายในการทำมาหากินของคนซึ่งขายของตามถนนหรือตามกลางแจ้ง ก็จะมีความรู้สึกกลัวหรือเป็นห่วงใยต่อสุขภาพของตัวเอง ฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องแก้กัน จะแก้ยังไงนั้นผมคงไม่อยากจะไปรบกวนที่จะทำให้เกิดความไขว้เขว สำหรับผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย แต่ผมจะเล่าประสบการณ์ที่ผมไปมา ผมบอกจะเล่าเรื่องเมืองจีน ความจริงแล้วต้องการจะเล่าเรื่องอื่น แต่วันนี้ขอเล่าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก่อนนะครับ
ที่ปักกิ่ง เมืองเป็นแอ่ง เวลามีมลภาวะ สาเหตุเกิดจากรถติด รถเยอะ และเครื่องยนต์ดีเซลทั้งหลาย มีโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานถ่านหินอยู่รอบเมืองปักกิ่ง ตอนหลังก็ยกเลิก ไปใช้พลังงานอื่นที่สะอาด โรงงานอุตสาหกรรมรอบเมืองปักกิ่ง เค้าก็จับย้าย เรื่องของปัญหาด้านรถยนต์มีนโยบายเลยว่า ภายใน 5-6 ปีข้างหน้า รถที่จะวิ่งในปักกิ่งต้องเป็นรถไฟฟ้าเท่านั้น
กลับมาที่บ้านเรา ปัญหาที่เกิดจากฝุ่นจำนวนมากมายวันนี้ จนเป็นมลภาวะที่ติดอันดับ 9 ของโลกเนี่ย อันดับ 10 เป็นดูไบเกิดจาก 2 อย่าง คือเรื่องรถ โดยเฉพาะรถดีเซล กับรถที่ไม่ได้มาตรฐาน รถเก่า หมดสภาพมาวิ่ง ควันเยอะ ระยะยาวต้องแก้ปัญหาเรื่องรถติดอย่างจริงจัง อันที่สอง ก็คือการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมรถยนต์เราเปลี่ยนจากการใช้เครื่องยนต์ บริษัทรถยนต์ทั้งหลายที่ผลิตอยู่ในประเทศไทย เราต้องพยายามจูงใจให้เค้าเปลี่ยนมาผลิตรถไฟฟ้าให้ได้ เพื่อลดมลภาวะของเราเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้คนที่มีรถที่เป็นเครื่องยนต์ธรรมดาวันนี้ต้องเดือดร้อน ไม่ใช่ มันจะมีช่วงระยะเวลาในการเปลี่ยน สมมุติว่าวันนี้รถเราหมดอายุแล้วจะซื้อใหม่ ถ้าไปซื้อรถไฟฟ้าอาจจะซื้อได้ถูกกว่า หรือมีแรงจูงใจทางภาษีอะไรก็แล้วแต่
อีกตัวนึงที่เป็นมลภาวะ คือการเผาชีวมวลทั้งหลาย เราต้องรณรงค์เพื่อให้เกษตรกรทั้งหลายเข้าใจ การที่ฮ่องกงจะเปิดใช้เครื่องขจัดมลพิษขนาดยักษ์ เป็นทาวเวอร์ใหญ่ เทียบเท่า กับการขจัดมลพิษด้วยต้นไม้ 4.8แสนต้น เทคโนโลยีที่เกิดขึ้น เอามาใช้เพื่อประโยชน์ เพื่อความผาสุกของคนทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเราจะต้องให้ความสนใจเรื่องเทคโนโลยี
ดูไบที่ผมอยู่ถึงแม้จะมีฝุ่นเป็นอันดับ 10 ของโลก สิ่งที่ผมเห็นการเปลี่ยนแปลง คือ ขยันปลูกต้นไม้ครับ ต้นไม้ที่นี่มาจากเมืองไทยแทบทั้งนั้น อยากให้กรุงเทพฯรักษาต้นไม้หรือเพิ่มต้นไม้ ถ้าไม่งั้นก็ต้องไปเพิ่มทาวเวอร์ไว้เพื่อขจัดมลพิษเหมือนที่ฮ่องกงทำ เพราะฉะนั้นประเทศเราเป็นประเทศที่ปลูกต้นไม้ได้ แต่วันนี้เราปลูกตึกจนทิ้งต้นไม้หมด ถ้าจะส่งเสริมเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์