สมาคมเพื่อนชุมชนมุ่งมั่นยกระดับระยองสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศระดับ3

สมาคมเพื่อนชุมชน ก้าวสู่ปีที่ 9 มุ่งสานต่อปณิธานยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ผลักดันระยองให้เป็น“เมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรม”

นายวริทธิ์ นามวงษ์ อุปนายกสมาคมเพื่อนชุมชน เปิดเผยว่า สมาคมเพื่อนชุมชน ซึ่งก่อตั้งขึ้นบนความร่วมมือของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด มีเป้าหมายจะยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้น ด้วยการส่งเสริมด้านสุขภาพ การศึกษา สังคม และเศรษฐกิจชุมชน มุ่งเน้นการประยุกต์องค์ความรู้เทคโนโลยี นวัตกรรมและการบริหารจัดการภาคอุตสาหกรรมให้เป็นแบบอย่างที่ดีกับชุมชน มาตั้งแต่ปี 2554 เบื้องต้นดำเนินงานในพื้นที่ 6 ตำบล ได้แก่ เนินพระ ห้วยโป่ง มาบตาพุด ทับมา มาบข่าพัฒนา และบ้านฉาง หรือที่เรียกว่ามาบตาพุดคอมเพล็กซ์จนถึงปัจจุบันสมาคมเพื่อนชุมชนก้าวสู่การทำงานเป็นปีที่ 9

นายวริทธิ์ กล่าวว่า สมาคมเพื่อนชุมชน จะสานต่อปณิธาณเดิมและมุ่งเน้นการขับเคลื่อนขยายผลจังหวัดระยองสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับ 3 พร้อมกันนี้ ได้จัดให้มีการประกาศความร่วมมือและแสดงเจตนารมณ์จากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด และหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วน ในงาน“ก้าวสู่ปีที่ 9…ชวนเพื่อนก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน” โดยได้รับเกียรติจาก นายธีรวัฒน์ สุดสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธี และนายประทีป เอ่งฉ้วน ผู้ช่วยผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจาก 5 บริษัทผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมฯ ได้แก่กลุ่ม ปตท. เอสซีจี บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด กลุ่มบริษัท ดาวประเทศไทยและบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) มาร่วมแสดงเจตนารมณ์โดยพร้อมเพรียงกันและได้มีการจัดนิทรรศการเพื่อแสดงผลสำเร็จของการดำเนินงานที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้นำผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดระยองที่ผ่านการพัฒนาภายใต้โครงการ”สมาคมเพื่อนชุมชนธรรมศาสตร์โมเดล”จำนวน 13 ราย มาจัดแสดงด้วย

“ในระยะเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมา สมาคมเพื่อนชุมชนได้จัดโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ กว่า 20 โครงการตามแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ผ่านตัวชี้วัด 5 มิติ ได้แก่ มิติด้านกายภาพ มิติด้านสังคม มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านสิ่งแวดล้อม และมิติด้านการบริหารจัดการที่ดี ตามแนวทางของภาครัฐ โดยสมาคมเพื่อนชุมชนจะเป็นตัวกลางในการประสานและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ผู้ประกอบการ และชุมชน เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมในมาบตาพุดให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยความจริงใจ จริงจัง มุ่งมั่น และพร้อมแก้ปัญหาร่วมกัน ด้วยการถ่ายทอดความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ และมุ่งหวังให้อุตสาหกรรมและชุมชนอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน” นายวริทธิ์ กล่าว

สำหรับโครงการต่างๆ ดังกล่าว ประกอบด้วย โครงการด้านการศึกษา โครงการด้านสุขภาพ การยกระดับทางเศรษฐกิจ และ การสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ โครงการด้านการศึกษา มีโครงการเพื่อนชุมชนติวเตอร์ (CPA Tutor) โครงการมอบทุนปริญญาตรีต่อเนื่องเพื่อนชุมชน ปัจจุบันมีการมอบทุนการศึกษาแล้วทั้งหมด213ทุน รวมตลอด 8 ปี มอบทุนการศึกษาไปแล้วกว่า 50 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการเพื่อนชุมชนคนอาชีวะ (V-Camp) และโครงการพยาบาลทุนเพื่อนชุมชน

วริทธิ์ นามวงษ์ อุปนายกสมาคมเพื่อนชุมชน

“โครงการด้านการศึกษาเหล่านี้ สมาคมฯ มีแนวคิดว่า หากเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ มีการศึกษาที่ดีก็จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป ซึ่งเยาวชนที่ได้รับโอกาสจากโครงการนี้จะรับรู้ถึงคุณค่าและมีจิตสำนึกรักบ้านเกิดและจะนำความรู้ที่ได้รับกลับมาตอบแทนให้กับจังหวัดระยองบ้านเกิดของพวกเขา” นายวริทธิ์ กล่าว

ในส่วนของโครงการด้านสุขภาพ มีโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โครงการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ โครงการพยาบาลทุนเพื่อนชุมชนจำนวน440 ทุน โดยนักเรียนทุนพยาบาลจะเข้าประจำการในโรงพยาบาลต่างๆในจังหวัดระยองครบตามจำนวนทุนในปี 2564 โครงการยกระดับศักยภาพบุคลากร อสม. และการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์พื้นฐาน ให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเพื่อช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพให้แก่ชุมชนในพื้นที่

การยกระดับทางเศรษฐกิจเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของสมาคมเพื่อนชุมชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้คนในพื้นที่สามารถสร้างอาชีพและสามารถพึ่งตนเองได้ และยกระดับเป็นจังหวัดตัวอย่างที่มีวิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็งในอนาคตซึ่งถือได้ว่าวิสาหกิจชุมชนเป็นเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญของประเทศ และเป็น 1 ใน 12 นโยบาย “ประชารัฐ” ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้ามาพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าให้คนในพื้นที่ และแก้ไขปัญหาธุรกิจให้กับชุมชน ที่สำคัญยังได้สร้างแบรนด์เป็นของตนเอง ภายใต้โครงการ “เพื่อนชุมชน-ธรรมศาสตร์โมเดล” ซึ่งที่ผ่านมามีทั้งหมด 3 รุ่น จำนวนวิสาหกิจชุมชน 21 กลุ่ม และปีนี้เป็นรุ่นที่ 4 อยู่ในระหว่างการพัฒนา จำนวนวิสาหกิจชุมชน 8กลุ่ม

การสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมสมาคมฯ ได้ส่งเสริมและสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นสมาชิก โดยสมาคมฯมีนโยบายให้สมาชิกของสมาคมเพื่อนชุมชนจะต้องเข้าร่วมโครงการประเมินโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) โดยในปี 2562 สมาชิกสมาคมฯจะผ่านการรับรองครบ 100% โดยมีจำนวนโรงงานที่ผ่านการรับรองจำนวน 76 ทะเบียนโรงงาน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขกลุ่มโรงงานที่ผ่านการรับรองโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสูงที่สุดในประเทศไทย ในส่วนภาคประชาสังคมสมาคมฯได้ส่งเสริมการประเมินตามกรอบกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพนากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการ วัดเชิงนิเวศ (Eco Temple) และโรงเรียนเชิงนิเวศ (EcoSchool) โดยมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการคือ โรงเรียนวัดกรอกยายชา ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบ เพื่อพัฒนาสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town) และเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน (Green City)

นายวริทธิ์ กล่าวว่า สำหรับในปี 2562 สมาคมเพื่อนชุมชนมีแผนขับเคลื่อนและขยายผลจังหวัดระยองให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับที่ 3 (Resources EfficiencyLevel) หรือ การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดด้วยกลยุทธ์ SHE-WE Model หรือ ชีวี-มีสุข ซึ่งได้แก่ Social คือ สังคมมีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ Health คือ คนในสังคมมีสุขภาพดี Environment คือ บริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ Welfare คือ มุ่งให้คนในสังคมกินดีอยู่ดี และ Education คือ สร้างโอกาสทางการศึกษาเพื่อกลับมาพัฒนาบ้านเกิด และตั้งเป้า76 โรงงานในมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ เป็น Eco Factoryครบ 100% ในปีนี้ โดยมีเป้าหมายให้เศรษฐกิจชุมชนเติบโตไปพร้อมๆ กับเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมและชุมชนอยู่ร่วมกับอุตสาหกรรมอย่างมีความสุข เพื่อพัฒนาสู่ “เมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรม” ในอนาคต

“ตลอด 8 ปี ของสมาคมเพื่อนชุมชน ทำให้จังหวัดระยองเกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ สามารถสร้างความเข้มแข็งแก่คนในพื้นที่อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่มั่นคงในระยะยาว รวมถึงสร้างอาชีพให้แก่ชุมชนมีรายได้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้ประกอบอุตสาหกรรมในพื้นที่ นอกจากนี้เยาวชนในพื้นที่ได้รับโอกาสด้านการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นทุนการศึกษา การเชิญติวเตอร์ชั้นนำระดับประเทศมาให้ความรู้แก่เยาวชน รวมไปถึงการดูแลพื้นที่สีเขียว และสิ่งแวดล้อม ทำให้ จ.ระยอง มีสิ่งแวดล้อมที่ดีควบคู่กับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวระยอง” อุปนายกสมาคมเพื่อนชุมชน กล่าวทิ้งท้าย