สปุตนิก – สงครามน้ำลายระหว่างประธานาธิบดีตุรกี เรเยบ ตอยยิบ แอร์โดกัน และนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ปะทะเรื่อยมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2018 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการปะทะกันอย่างรุนแรงในฉนวนกาซาหลังจากการย้ายสถานทูตของสหรัฐอเมริกาไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
การพูดในการรณรงค์เลือกตั้งเมื่อวันพุธ (13 มี.ค.) วานนี้ เป็นอีกครั้งที่แอร์โดกันโยนระเบิดใส่เนทันยาฮู ผู้เผชิญข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตในประเทศ ว่าอยู่ในฐานะ“ โจรที่เป็นผู้นำอิสราเอล”
ประธานาธิบดีตุรกียังได้ตราหน้าเนทันยาฮูว่า เป็น “ทรราชที่สังหารเด็กชาวปาเลสไตน์อายุ 7 ปี”
คำพูดที่รุนแรงของแอร์โดกันไม่ได้ถูกปล่อยข้ามผ่าน นายกรัฐมนตรีอิสราเอลมีปฏิกิริยาตอบโต้ในวันต่อมาโดยกล่าวหาประธานาธิบดีตุรกีว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวเคิร์ด
“แอร์โดกัน เผด็จการที่ส่งฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองหลายหมื่นคนไปยังเรือนจำ กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวเคิร์ด และยึดครองไซปรัสตอนเหนือ สั่งสอนผม อิสราเอล และกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลเกี่ยวกับประชาธิปไตยและจริยธรรมของสงคราม ช่างตลก!” นายกรัฐมนตรีอิสราเอลทวีต
นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นการดีที่สุดที่ประธานาธิบดีตุรกี “อย่าเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องเยรูซาเล็ม”
เนทันยาฮูและผู้นำตุรกีได้ทำสงครามน้ำลายต่อกันหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนทันยาฮูมักจะวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของตุรกีที่มีต่อชาวเคิร์ด รวมถึงปฏิบัติการทางทหารในชื่อ “กิ่งมะกอก” ที่นำโดยอังการาในปี 2018 ในเมืองอัฟริน ทางตอนเหนือของซีเรีย ซึ่งเป็นเขตที่มีชาวเคิร์ดเป็นคนส่วนใหญ่
โดยที่แอร์โดกันก็กล่าวหาว่าอิสราเอลเป็น “ผู้ร้าย ความรุนแรง และรัฐก่อการร้าย” ท่ามกลางการปะทะกันอย่างดุเดือดในฉนวนกาซาหลังชาวปาเลสไตน์ออกมาประท้วงตามแนวพรมแดน
ประธานาธิบดีตุรกีระบุว่า เหมือนๆ กันระหว่างการกระทำของอิสราเอลและการกดขี่ข่มเหงชาวยิวของนาซี โดยไล่เนทันยาฮูออกจากตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐแบ่งแยกสีผิว” ซึ่งมี “เลือดของชาวปาเลสไตน์ในมือ”
“ทัศนะของผู้บริหารอิสราเอลในการระบุดินแดนโบราณเหล่านั้นว่าเป็นของชาวยิวเพียงอย่างเดียว ไม่แตกต่างจากความหลงใหลของฮิตเลอร์ต่อเผ่าพันธุ์อารยัน วิญญาณของฮิตเลอร์ซึ่งลากโลกไปสู่หายนะครั้งใหญ่ได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้งในหมู่เจ้าหน้าที่อิสราเอลบางคน” แอร์โดกันกล่าวในเดือนกรกฎาคม 2018 ซึ่งอ้างถึงกฎหมายใหม่ของอิสราเอลที่กำหนดให้อิสราเอลเป็นรัฐของชาวยิว
นายกรัฐมนตรีอิสราเอลโต้กลับโดยคำกล่าวซ้ำๆ ว่า “ชายผู้ส่งทหารตุรกีหลายพันนายไปยึดครองทางตอนเหนือของไซปรัสและบุกรุกซีเรีย ไม่มีสิทธิมาสั่งสอนเรา”
“ความจริงที่ว่า แอร์โดกัน ‘นักประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่’ กำลังโจมตีกฎหมายรัฐชาตินี้ ถือเป็นคำชมที่ดีที่สุดสำหรับกฎหมายนี้ ตุรกีภายใต้การปกครองของแอร์โดกันกำลังกลายเป็นเผด็จการมืด” เนทันยาฮูกล่าวตอบโต้ต่อข้อกล่าวหา