อัลจาซีรา – กองกำลังอิสราเอลกระทำการล่วงละเมิดผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาชญากรรมสงคราม รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 มี.ค.) ของสหประชาชาติระบุ
คณะกรรมาธิการสอบสวนอิสระแห่งสหประชาชาติพบว่า ทหารอิสราเอลใช้กระสุนจริงต่อผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 189 คนในระหว่างการประท้วงใกล้กับรั้วกั้นระหว่างอิสราเอลและฉนวนกาซาเมื่อปีที่แล้ว
ชาวปาเลสไตน์กว่า 6,000 คนได้รับบาดเจ็บจากห่ากระสุนจริงของอิสราเอลในช่วงระหว่างวันที่ 30 มีนาคม 2561 จนถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2561
“กองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลกระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและกฎหมายด้านมนุษยธรรม” นางคารี เบ็ตตี้ มุรุงกิ (Kaari Betty Murungi) กรรมาธิการของสหประชาชาติกล่าว “การละเมิดบางอย่างอาจเป็นอาชญากรรมสงคราม หรืออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และอิสราเอลจะต้องทำการสอบสวนเรื่องนี้โดยทันที”
รายงาน 252 หน้า พิจารณาสอบสอนแนวทางของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล กรณีการใช้กำลังพลซุ่มยิงต่อผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอตามแนวรั้วกั้น
“คณะกรรมาธิการพบว่าไม่มีเหตุผลใดๆ ที่กองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลจะต้องฆ่าและทำร้ายผู้ที่ไม่ได้เป็นภัยคุกคามจวนตัวในระดับที่จะทำให้เสียชีวิตหรือการบาดเจ็บสาหัสต่อคนรอบข้างของพวกเขา รวมถึงนักข่าว ผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพ และเด็กๆ” ซานติเอโก แคนตัน (Santiago Canton) ประธานคณะกรรมาธิการกล่าว
แคนตันกล่าวว่า คณะกรรมาธิการซึ่งนำเสนอรายงานต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนในเจนีวา มีเหตุผลอันสมควรที่จะเชื่อว่า ในระหว่างการประท้วง Great March of Return ทหารอิสราเอลสังหารและทำอันตรายอย่างรุนแรงต่อพลเรือน ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรงในการสู้รบ หรือไม่ได้ก่อภัยคุกคามต่อกองกำลังความมั่นคงของอิสราเอล หรือประชาชนพลเรือนในอิสราเอล
“เมื่อตรวจสอบการใช้กระสุนจริงของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลกับผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ คณะกรรมาธิการพบว่า การใช้กำลังรุนแรงส่วนใหญ่เป็นกรณีการได้รับอนุญาตอย่างผิดกฎหมาย สิ่งนี้นำไปสู่การลิดรอนชีวิตโดยพลการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” แคนตันกล่าว
แคนตันเรียกร้องให้อิสราเอลตรวจสอบให้แน่ใจโดยทันทีว่า กฎการสู้รบของกองกำลังรักษาความปลอดภัยของพวกเขาได้รับการแก้ไข เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวาระครบรอบหนึ่งปีของการประท้วง
“เราได้ยินว่าฝูงชนกำลังจะมีขนาดใหญ่ที่บริเวณพื้นที่การประท้วงอย่างเป็นทางการ การใช้กำลังที่ล้นหลามมากเกินไปซึ่งเคยเกิดขึ้นในวันที่ 30 มีนาคม 14 พฤษภาคม และ 12 ตุลาคม 2018 จะต้องไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก” แคนตันกล่าว
กองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลยิงและทำร้ายผู้ประท้วง 6,016 คน ด้วยกระสุนจริงในช่วงการประท้วง โดยที่ 189 คนเสียชีวิตในสถานที่ชุมนุมประท้วง 183 คนจากพวกเขาเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยกระสุนจริง ทั้งยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่เสียชีวิตคล้อยหลังในวันและสัปดาห์ต่อมาหลังจากที่พวกเขาได้รับบาดเจ็บ ผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์จำนวน 73 คนเสียชีวิตจากการบาดเจ็บจากกระสุนปืนเฉพาะในวันที่ 14 พฤษภาคม 2018
กระสุนความเร็วสูงและปืนไรเฟิล
การสืบสวนพบว่าพลซุ่มยิงอิสราเอลใช้กระสุนความเร็วสูงและปืนไรเฟิลซุ่มยิงระยะไกลซึ่งติดตั้งอุปกรณ์เล็งที่มีความซับซ้อน “พวกเขาเห็นเป้าหมายที่ขยายออกมาในสายตาของพวกเขา และพวกเขารู้ถึงผลของการยิง แต่ยังคงเหนี่ยวไก ไม่ใช่หนึ่งหรือสองครั้ง แต่มากกว่า 6,000 ครั้ง” ซาร่า ฮุสเซน หนึ่งในคณะกรรมาธิการ กล่าว
“พลแม่นปืนสังหารเด็ก 32 คน มีแพทย์สามคนที่มีสัญลักษณ์อย่างชัดเจน และนักข่าวสองคนที่มีสัญลักษณ์อย่างชัดเจน พวกเขายิงผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธ เด็กและคนพิการ และที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และนักข่าวที่ปฏิบัติหน้าที่ โดยรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร” เธอกล่าว