ประวัติศาสตร์เยเมน
แม้จะประสบความสำเร็จในการรวมชาติกันได้ แต่ปัญหาภายในประเทศเยเมนก็ยังไม่หมดไป ด้วยความแตกต่างด้านแนวคิดความเชื่อทางการเมือง ความหลากหลายของชนเผ่าต่างๆ ความแตกต่างทางสำนักคิดความเชื่อทางศาสนา กลุ่มการเมืองกลุ่มต่างๆที่มีอิทธิพลต่อเสถียรภาพทางการเมืองการปกครองใน เยเมน เช่น กลุ่มฮูซีที่อยู่ทางตอนเหนือของเยเมน ที่มีบทบาททางการเมืองในเยเมนมายาวนาน ด้านตอนใต้สุดในเมืองเอเดนและเขตโดยรอบตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มอัลฮิ รอก (al Hirak) ขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่ต้องการแยกตัวเป็นอิสระ ส่วน ทางตะวันออกของเมืองเอเดนมีกลุ่มอัลกออิดะฮ์แห่งคาบสมุทรอาหรับหรือเอคิวเอ พี (al Qaeda in the Arabian Peninsula: AQAP) ที่ทำการปลุกระดมด้วยการก่อการร้ายและความรุนแรง รวม ทั้งยังมีปัญหาด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่ที่ไม่เท่าเทียมกัน ย่อมส่งผลต่อความเป็นเอกภาพในประเทศเยเมนภายหลังการรวมชาติสำเร็จแล้ว
และ จากทิศทางนโยบายทางการเมืองรัฐบาลเยเมน ของอดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลลอฮ์ ซอและฮ์ ( Ali Abdullah Saleh ) ประธานาธิบดีเยเมนในขณะนั้น ได้ ใช้อำนาจเข้ากดดันและปราบปรามกลุ่มฮูซีด้วยเหตุผลที่ต้องการลดอิทธิพลทางการ เมืองของกลุ่มฮูซี ซึ่งเป็นชนเผ่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 1,000 ปี และต้องการโดดเดี่ยวกลุ่มฮูซีออกจากเส้นทางทางการเมือง จากการที่ถูกกดดันและถูกปราบปรามมาโดยตลอด กลุ่มดังกล่าวนี้จึงได้จัดตั้งตัวเองขึ้นเป็นกองทหารอาสาเพื่อปฏิบัติการ ตอบโต้รัฐบาลเยเมน ภายใต้การผลักดันของเชคฮุเซน บัดรุดดีน อัล-ฮูซี
กลุ่มฮูซี(Houthis)คือใคร???
ก่อนหน้านี้กลุ่มฮูซีเป็นเพียงกลุ่มชนส่วนน้อยที่มีแนวคิดเชิงอุดมการณ์อยู่ใน เยเมน (กลุ่มฮูซีคือมุสลิมชีอะฮ์ซัยดียะฮ์ที่ยึดอยู่ในแนวทางของท่านเซด บุตรของอาลีอิบนุล ฮุเซน โดยเชื่อในอิมามอาลีว่าเป็นผู้นำต่อจากท่านศาสดาอย่างแท้จริง แต่ไม่ปฏิเสธกาหลิบทั้ง 3 ท่านแรก และเชื่อว่าผู้ที่จะเป็นอิมามต่อไปจะต้องมีคุณสมบัติสำคัญอยู่ 2 ประการคือ 1. จะต้องเป็นลูกหลานท่านศาสดาที่สืบเชื้อสายมาจากท่านหญิงฟาติมะฮ์ (บุตรีของ ท่านศาสดามูฮัมหมัด) 2. จะต้องมีคุณสมบัติเป็นนักสู้ เป็นนักรบ กล้าเผชิญหน้ากับผู้ปกครองที่อธรรม )
และเนื่องด้วยเหตุว่า แนวความคิดทางด้านศาสนาของกลุ่มฮูซีที่มีความคล้ายคลึงกันกับแนวความคิดของมุสลิมชีอะฮ์ในอิหร่านซึ่งเป็นคู่ปฏิปักษ์กับซาอุดิอาระเบียมาตลอดหลังการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน (เพราะซาอุดิอาระเบียไม่ต้องการให้อิทธิพลแนวความคิดทางศาสนาและอิทธิพล ด้านอำนาจทางการเมืองระหว่างประเทศของอิหร่านขยายตัวออกไปเป็นวงกว้างและมี อิทธิพลเข้าครอบงำภูมิภาคตะวันออกกลาง) กลุ่มฮูซีจึงถูกกดดันและปราบปรามมาโดยตลอดทั้งในประเทศจากรัฐบาลเยเมนซึ่งนำ โดยประธานาธิบดีซอและฮ์ในขณะนั้น รวมไปถึงกลุ่มอัลกออิดะฮ์ที่ปฏิบัติการอยู่ในเยเมน และถูกกดดันจากนอกประเทศคือซาอุดิอาระเบีย
มุมมองจากบริบททางภูมิศาสตร์
ตำแหน่งที่ตั้งของประเทศเยเมน เป็นประเทศในคาบสมุทรอาหรับ มีชายฝั่งจรดทะเลอาหรับ(Arabian Sea) และอ่าวเอเดน(Gulf of Aden)ทาง ทิศใต้ จรดทะเลแดง(Red Sea)ทางทิศตะวันตก มีพรมแดนทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือติดต่อกับโอมานส่วนพรมแดนด้านอื่น ๆ ติดกับซาอุดิอาระเบีย ประเทศเยเมน เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะเป็นดินแดนที่เชื่อมต่อระหว่างทะเลแดงกับมหาสมุทรอินเดีย มีเมืองท่าเอเดนที่มีบทบาทสำคัญต่อการขนส่งสินค้าและน้ำมันของโลก หลังจากที่มีการเปิดคลองสุเอซ (Suez Canal) ในอียิปต์อีกครั้งในปี 1975
หาก วิเคราะห์จากแผนที่โลกในเรื่องของเส้นทางการขนส่งสินค้าและน้ำมันในภูมิภาค ตะวันออกกลาง เส้นทางที่สำคัญมีอยู่ 2 เส้นทาง คือเส้นทางจากยุโรปจะใช้เส้นทางการเดินเรือจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน(Mediterranean Sea) ผ่านคลองสุเอซในประเทศอียิปต์ ผ่านทะเลแดงลงมาทางใต้ ผ่านช่องแคบมันเดบ(Bab-el-Mandeb) และ อ่าวเอเดนในเยเมนออกสู่ทะเลอาหรับและมหาสมุทรอินเดียผ่านไปจนถึงทวีปเอเชีย การเปิดเส้นทางนี้จะช่วยทำให้การเดินเรือสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องเดินทางอ้อมแหลมกู้ดโฮปในทวีปแอฟริกา อีกทั้งเส้นทางนี้ยังสามารถย่นระยะเวลาการเดินทางจากเป็นเดือนให้ลดลงมา เหลือไม่กี่สิบชั่วโมงได้อีกด้วย
อีกหนึ่งเส้นทาง คือ เส้นทางอ่าวเปอร์เซียที่เป็นแหล่งน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลก เส้นทางการขนส่งน้ำมันหลักจะใช้เส้นทางผ่าน ช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) มีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ระหว่างอ่าวโอมาน(Gulf of Oman) กับอ่าวเปอร์เซีย(Gulf of Persian) ฝั่งตะวันออกเป็นประเทศอิหร่าน ฝั่งตะวันตกเป็นสหรัฐอาหรับเอมิเรต ช่อง แคบฮอร์มุซเป็นทางออกทางมหาสมุทรทางเดียวของประเทศส่วนใหญ่ในอ่าวเปอร์เซีย ที่ส่งออกปิโตรเลียม น้ำมันดิบส่วนใหญ่ในโลกจะถูกส่งผ่านเส้นทางนี้ ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของเส้นทางการขนส่งน้ำมัน ซึ่งทำให้ช่องแคบฮอร์มุซเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในโลก
หากกางแผนที่แล้ววิเคราะห์ตามสภาพภูมิศาสตร์ที่ตั้งของเส้นทางการขนส่งน้ำมัน ที่สำคัญของโลกดังที่กล่าวมาแล้วนั้น จะเห็นได้ว่านอกเหนือจากช่องแคบฮอร์มุซที่มีตำแหน่งที่ตั้งใกล้กับประเทศ อิหร่าน ซึ่งเป็นคู่ปฏิปักษ์กับประเทศซาอุดิอาระเบียแล้วนั้น ทางซาอุดิอาระเบียยังเหลือเส้นทางการขนส่งสินค้าและน้ำมันทางทะเล ผ่านทางช่องแคบมันเดบและอ่าวเอเดนในประเทศเยเมนอีกหนึ่งเส้นทางที่ไม่ต้อง กังวลเรื่องสภาพทางภูมิศาสตร์และอิทธิพลของอิหร่าน
และจากการที่กลุ่มฮูซีในเยเมน (ที่มีแนวความคิดทางศาสนาบางส่วนคล้ายคลึงกับแนวความคิดของอิหร่าน) ได้ทำการยึดอำนาจการปกครองจากประธานาธิบดีฮาดี ที่มีซาอุดิอาระเบียให้การสนับสนุนอยู่นั้น เป็นการส่งสัญญานเตือนในเรื่องของเสถียรภาพทางอำนาจและความมั่นคงของ ซาอุดิอาระเบียในภูมิภาคตะวันออกกลาง จนทำให้ซาอุดิอาระเบียเกิดความวิตกกังวลทั้งด้านของการเผยแพร่และการขยาย ตัวของแนวความคิดทางศาสนา และความวิตกกังวลในเรื่องของเส้นทางยุทธศาสตร์หลักในการขนส่งน้ำมันใน ภูมิภาคตะวันออกกลาง ไปพร้อมๆกัน
เนื่องจากความสำคัญทางด้านภูมิศาสตร์ที่ตั้งของเยเมนนี่เอง ทำให้ประเทศที่ได้ชื่อว่ายากจนที่สุดในตะวันออกกลางถึงได้รับความสนใจจาก ซาอุดิอาระเบีย ด้วยเหตุที่ซาอุดิอาระเบียต้องการเข้าไปมีบทบาทและมีส่วนในการจัดสรรอำนาจ เพื่อความสะดวกในการแสวงหาผลประโยชน์ หาใช่มีความต้องการในการสร้างเสรีภาพให้กับประชาชนในประเทศหรือปกป้องระบอบ ประชาธิปไตยมิให้ถูกทำลายตามที่ได้กล่าวอ้าง สิ่งที่ซาอุดิอาระเบียและชาติพันธมิตรได้กล่าวอ้างถึงว่าต้องการคืนอำนาจ ให้กับประธานาธิบดีมันซูร ฮาดีและต้องการคืนอำนาจให้กับรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฏหมายนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงฉากหน้าที่ใช้เป็นข้ออ้างในการปกป้องผลประโยชน์ของตน หาใช่ผลประโยชน์ของประชาชนชาวเยเมนไม่….
ด้านสถานการณ์การสงครามในปัจจุบันจากมุมมองของผู้นำในประเทศต่างๆ มีการลงความเห็นกันไปในทิศทางตรงกันว่าซาอุดิอาระเบียเดินเกมผิดพลาด และจะประสบกับความพ่ายแพ้ในที่สุด เช่น ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ชี้ถึง ” ความล้มเหลวของฝ่ายต่างๆ ในต่างประเทศที่จะทำให้ อับดุล ร็อบบิฮ์ มันซูร ฮาดีประธานาธิบดีของเยเมนที่ลาออกกลับคืนมาสู่อำนาจนั้น แสดงให้เห็นถึง ความล้มเหลวของการแทรกแซงทางทหารของซาอุดิอาระเบียต่อประเทศนี้ ”
ท่านอายะตุลลอฮ์คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน กล่าวว่า “เรา เคยพูดอยู่เสมอมาว่าซาอุดิอาระเบียมีความสุขุมและสงบเสงี่ยมในนโยบายต่าง ประเทศของตน แต่มาตอนนี้พวกเขาได้สูญเสียความสุขุมและสงบเสงี่ยมนี้ไปหมดแล้ว เด็กหนุ่มที่ไร้ประสบการณ์ไม่กี่คนได้เข้ามาควบคุมกิจการต่างๆ ของประเทศนั้น กำลังทำให้ด้านแห่งความป่าเถื่อน (ของซาอุฯ) พิชิตเหนือด้านแห่งความสงบเสงี่ยมและการรักษาภาพลักษณ์ สิ่งนี้จะเป็นภัยต่อตัวพวกเขาเอง ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นก็คือ พวกเขาควรจะยุติอาชญากรรมและความหายนะเหล่านี้โดยเร็วที่สุด ประเทศเยเมนเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ เป็นประเทศที่เก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปี ชนชาตินี้มีศักยภาพ มีความสามารถที่จะกำหนดภารกิจของรัฐบาลของตนเองได้ ซาอุดิอาระเบียกำลังต่อสู้อยู่กับประชาชนชาวเยเมนหลายสิบล้านคน ชัยชนะของรัฐบาลซาอุฯ มีโอกาสเป็นไปได้แค่ศูนย์ และขณะนี้มีโอกาสเป็นไปได้ต่ำกว่าศูนย์ “
ด้านประธานาธิบดีอียิปต์ อับดุลฟัตตาฮ์อัลซีซี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เราจะไม่เข้าร่วมในการทำสงครามภาคพื้นดินกับเยเมน ด้าน ตุรกีและปากีสถานก็ปฏิเสธการส่งกองกำลังทหารในการเข้าร่วมสงครามในเยเมน และเห็นด้วยกับวิธีการทางการเมืองในการแก้ไขวิกฤตการณ์มากกว่า (ในขณะที่ก่อนหน้านี้ อียิปต์ ตุรกี และปากีสถานได้ประกาศยืนเคียงข้างซาอุดิอาระเบีย) ยิ่งเป็นการโดดเดี่ยวซาอุดิอาระเบียจากสถานการณ์ในเยเมนยิ่งมากขึ้น
กล่าว โดยสรุปเบื้องต้นได้ว่า เมื่อเยเมนมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างดุลอำนาจในตะวันออกกลางรวม ไปถึงเป็นยังอีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถควบคุมทิศทางด้านพลังงานของโลก ให้เป็นไปตามความต้องการได้ คงต้องติดตามคอยดูสถานการณ์กันต่อไปว่า จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเยเมน จะสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับโลกได้มากแค่ไหนและจะสามารถเปลี่ยนแปลง ดุลอำนาจของซาอุดิอาระเบียและชาติพันธมิตรไปในทิศทางใด โปรดติดตาม