อนาคตใหม่ย้ำพรรคอันดับ 1 ต้องจัดตั้งรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรี เปิดทางคุณหญิงสุดารัตน์นั่งนายกรัฐมนตรีแม้ไม่ได้เป็นส.ส. ชี้พลังประชารัฐอ้างป๊อปปูล่าโหวตผิดหลักการ “ประเทศไทยปกครองโดยระบบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ไม่ใช่เลือกนายกโดยตรง” รับต่อสายเพื่อไทยแตะมือต้านคสช.
“เป็นหลักการ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ร่วมกันสร้างมาหลายปี นั่นคือต้องเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองที่ได้ลำดับที่หนึ่ง ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาาล และได้เป็นนายกรัฐมนตรี” นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวในการแถลงผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ชั้น 5 อาคารไทยซัมมิท วันนี้ (จันทร์ 25 มี.ค.) เวลา 16:30 น.
“ที่ผ่านการเลือกตั้งตั้งแต่ปี 2535 ก็เป็นมาอย่างนี้โดยตลอด ครั้งที่เฉือนกันที่สุด ถ้าจำได้ พรรคความหวังใหม่เฉือนพรรคประชาธิปัตย์ไป 2 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ก็เว้นไม่ยอมจัดตั้งรัฐบาล ให้พรรคความหวังใหม่จัดตั้งรัฐบาลก่อน พล.อ.ชวลิตก็เป็นนายกรัฐมนตรี” นายปิยบุตรกล่าว
“เช่นเดียวกันในปี 2538 พรรคชาติไทยของคุณบรรหารก็เฉือนพรรคประชาธิปัตย์ไปนิดเดียว พรรคชาติไทยก็ตั้งรัฐบาลกอ่น”
“ครั้งนี้พรรคอันดับที่หนึ่งไม่ใช่เฉือนกันหนึ่งหรือสองที่นั่ง เฉือนกันเป็นหลักสิบ ดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะให้พรรคลำดับที่สองจัดตั้งรัฐบาล”
“พรรคลำดับที่หนึ่งต้องเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล และเป็นนายกรัฐมนตรี นี่คือสิ่งที่เรายืนยัน” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ย้ำ
นายปิยบุตรกล่าวด้วยว่า “พรรคเราเสนอนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าไปอยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตอนรณรงค์หาเสียง เรายังมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ความเป็นนายกรัฐมนตรีของธนาธร ต้องมาอย่างสง่างาม สง่าผ่าเผย นั่นคือเราต้องชนะเป็นลำดับที่หนึ่ง เราถึงเป็นนายกรัฐมนตรี”
พร้อมหนุน “สุดารัตน์” นั่งนายกฯ แม้ไม่ได้เป็นส.ส.
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า อนาคตใหม่ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่ออยากได้ตำแหน่งนายกฯ หรือรัฐมนตรี แต่ตั้งขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลง ผลักดันวาระก้าวหน้าให้สังคม จึงยืนยันที่จะทำการเมืองระยะยาว
เขาตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า พรรคอนาคตใหม่พร้อมสนับสนุน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ จากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะไม่ได้เป็นส.ส. หากพรรคเพื่อไทยไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ
“พรรคอนาคตใหม่ให้น้ำหนักอันดับที่หนึ่งของการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช. นี่คือเงื่อนไขสำคัญ เราให้น้ำหนักตรงนี้” นายธนาธรกล่าว
“ถ้าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยคือคุณหญิงสุดารัตน์ ผมก็ต้องบอกว่าคุณหญิงสุดารัตน์แสดงตัวชัดเจนในการเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง คุณหญิงสุดารัตน์คือผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับที่สองของพรรคเพื่อไทย กฎกติกาแบบนี้เองที่ทำให้คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้ตำแหน่งส.ส. แต่คุณหญิงสุดารัตน์ได้แสดงความตั้งใจที่ชัดเจนที่จะลงมาอยู่ในกติกา”
“ดังนั้นเราอนาคตใหม่ ‘ยอมรับ‘ ถ้าเพื่อไทยส่งคุณหญิงสุารัตน์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หลังจากรวบรวมเสียงข้างมากได้” นายธนาธรกล่าว
ระบบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ไม่ใช่เลือกนายกโดยตรง
สำหรับการฟอร์มรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐแข่งกับพรรคเพื่อไทยนั้น ปิยบุตรถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง และผิดหลักการ
“พรรคพลังประชารัฐมีความพยายามพูดถึงเรื่องคะแนนป๊อปปูล่าโหวต ว่าเขาอาจชนะที่หนึ่ง เจ็ดล้านปลายๆ แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ ประเทศไทยปกครองโดยระบบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา การได้เป็นนายกรัฐมนตรีคือ ต้องเป็นเสียงข้างมากของผู้แทนสภาราษฏร ถ้าหากคุณคิดป๊อปปูล่าโหวตนั่นคือการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง ซึ่งประเทศไทยไม่ได้ใช้ ประเทศไทยนายกมาจากเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร นี่คือระบบรัฐสภา ไม่มีความชอบธรรมอะไรเลยที่พลังประชารัฐจะจัดตั้งรัฐบาล” นายปิยบุตรกล่าว
รับต่อสายเพื่อไทยแตะมือต้านคสช.
“เมื่อคืนที่ผ่านมามีการพูดคุยคร่าวๆ แต่ยังไม่มีการตกลงในรายละเอียดอะไรมากไปกว่าการเห็นตรงกันว่า ภารกิจอันดับหนึ่งคือ การหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช. นี่คือหนึ่งอย่างที่เราเห็นตรงกัน ส่วนรายละเอียดที่เหลือไม่มีอะไรมากไปกว่านี้” นายธนาธรตอบคำถามผู้สื่อข่าว
ชมคลิป :