เดลี่ซาบะห์ – บทความวิจัยที่เขียนโดยซีไอเอ (CIA) ในปี 1981 เปิดเผยข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ “ที่ราบสูงโกลัน” (Golan Heights) และนโยบายการยึดครองและการตั้งถิ่นฐานที่ผิดกฎหมายของอิสราเอลในภูมิภาคนี้ ซึ่งแตกต่างจากการตัดสินใจล่าสุดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ให้การยอมรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนอิสราเอล
หลังจากอารัมภบทสั้นๆ เกี่ยวกับการยึดครองของอิสราเอลในภูมิภาค รายงานนี้ก็ขุดลึกเข้าไปในรากเหง้าประวัติศาสตร์ของที่ราบสูงโกลัน “ ในทางประวัติศาสตร์ ที่ราบสูงโกลัน ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐยิว และภูมิภาคนี้ไม่มีประชากรชาวยิวอย่างมีนัยสำคัญมาเป็นเวลา 3,000 ปี” รายงานกล่าว
จากนั้นรายงานนี้ได้อธิบายว่าอิสราเอลได้เปลี่ยนแปลงประชากรศาสตร์ของภูมิภาคนี้ด้วยการตั้งนิคมอย่างไร “ชาวอาหรับซีเรียมากกว่า 100,000 คน หนีหรือถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ระหว่างและหลังการสู้รบในปี 1967” รายงานกล่าว
อิสราเอลไม่อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยกว่า 100,000 คนที่หลบหนีหรือถูกขับไล่ในระหว่างและหลังสงครามกลับคืนถิ่น อิสราเอลเริ่มสร้างชุมชนเกษตรกรรมในโกลัน ในปี 1968 โดยยึดครองพื้นที่
รายงานพบว่า ภูมิภาคที่ราบสูงโกลัน เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดอัลกูนัยตีระห์ (Al Qunaytirah) ของซีเรียจนถึงปี 1967 จากข้อมูลสถิติในปี 1965 จังหวัดอัลกูนัยตีระห์มีประชากร 142,600 คน ซึ่งประกอบด้วยชาวอาหรับมุสลิม, ดรูซ, อะลาวี, คริสเตียนอาหรับ, มุสลิมซุนนีเชื้อสายเซอร์คัสเซียน (Circassians) และผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ 13,000 คน
“ตั้งแต่ปี 1967 ชาวอิสราเอลได้รื้อถอนอย่างน้อย 80 จาก 190 หมู่บ้านในอดีต และได้ทำลายสินทรัพย์ส่วนตัวอื่นๆ ของชาวซีเรีย เพื่อเปิดทางสำหรับการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอล ฟาร์ม ป้อมปราการ และพื้นที่ฝึกทหาร” รายงานกล่าว
ที่ราบสูงโกลันถูกยึดครองโดยอิสราเอลจากซีเรียในช่วงสงครามหกวัน ในปี 1967 การตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลในโกลันเริ่มขึ้นไม่นานหลังจากสงคราม สิบสี่ปีต่อมารัฐสภาอิสราเอลประกาศอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตามคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประกาศว่า การเคลื่อนไหวนั้น “เป็นโมฆะและไม่มีผลทางกฎหมายระหว่างประเทศ”
อิสราเอลยึดครองพื้นที่ประมาณสองในสามของดินแดนที่ราบสูงโกลานอันเป็นผลมาจากความขัดแย้งนี้ เพื่อผนวกดินแดนแห่งนี้เป็นของตน อิสราเอลได้โน้มน้าวให้สหรัฐฯ รับรองถึงการอ้างสิทธิเหนือโกลัน แต่รัฐบาลสหรัฐที่ผ่านมาทั้งหมดไม่เคยยอมรับการเคลื่อนไหวดังกล่าว อิสราเอลพยายามหาทางรักษาที่ราบสูงโกลันไว้เป็นของตนเนื่องจากความสำคัญทางภูมิศาสตร์ เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำและที่ตั้งทางกายภาพของดินแดนนี้
เมื่อวันจันทร์ 25 มี.ค. 62 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่าการยอมรับการผนวกที่ราบสูงโกลันของอิสราเอลซึ่งยึดครองมาจากซีเรีย ซึ่งเท่ากับทรัมป์ได้ปฏิเสธนโยบายของสหรัฐฯ ที่มีมานายหลายทศวรรษ
การตัดสินใจดังกล่าวก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกในหลายๆ ประเทศรวมถึงรัฐในยุโรป ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลที่ตามมาจากการยอมรับการผนวกที่ผิดกฎหมาย
สหรัฐฯ ยืนอยู่คนเดียวในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันพุธ 27 มี.ค. เพราะรับรองอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลเหนือที่ราบสูงโกลันของซีเรียที่ถูกยึดครอง โดยสมาชิกทั้งหมดของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ยกเว้นวอชิงตันประณามการกระทำดังกล่าวที่เป็นการเคลื่อนไหวฝ่ายเดียว ว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก่อนหน้านี้