บรูไนกลับลำ ระงับโทษประหารเกย์ หลังถูกวิจารณ์กว้างขวาง

บรูไนได้ประกาศว่าจะไม่บังคับใช้โทษประหารชีวิตเกย์ ซึ่งเป็นการกลับลำทางนโยบายที่สำคัญ หลังต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ดิอินดีเพนเดนท์ สื่ออังกฤษรายงานอ้างอิงรอยเตอร์

สุลต่าน ฮัสซานัล โบลเกียห์ ของประเทศบรูไนได้ขยายการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายนี้เพื่อบรรเทาผลกระทบระหว่างประเทศ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 เมษายน บรูไนกระตุ้นให้เกิดความโกลาหลหลังมีการตีความกฎหมายอิสลามหรือชารีอะห์ (Sharia) ที่จะลงโทษการสังวาสที่ผิดธรรมชาติ การผิดประเวณี การล่วงประเวณี และการข่มขืน ด้วยการประหารชีวิต รวมถึงการขว้างด้วยหิน

รัฐเล็กๆ ที่อุดมไปด้วยน้ำมัน ได้ปกป้องสิทธิของตนในการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง องค์ประกอบของกฎหมายชารีอะห์ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 2014 และมีการบังคับใช้เป็นระยะตั้งแต่นั้นมา

อาชญากรรมบางอย่างมีโทษประหารชีวิตในบรูไน รวมถึงการฆาตกรรมโดยไตร่ตรอง และการค้ายาเสพติด แต่ไม่มีการประหารชีวิตมาตั้งแต่ปี 1990

“ข้าพเจ้าทราบดีว่ามีคำถามและความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับการดำเนินงานของ SPCO (ประมวลกฎหมายอาญาแห่งชารีอะห์ – Syariah Penal Code Order) อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าเมื่อสิ่งเหล่านี้ถูกทำให้กระจ่างแล้ว คุณความดีของกฎหมายจะปรากฏให้เห็นชัดเจน” สุลต่านกล่าวในคำปราศรัยก่อนการเริ่มต้นเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของอิสลาม

“ตามที่เห็นได้ชัดมานานกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการผ่อนปรนโดยพฤตินัยเกี่ยวกับการประหารชีวิตในกรณีที่เป็นไปตามกฎหมายทั่วไป สิ่งนี้จะถูกนำไปใช้กับกรณีภายใต้ SPCO ซึ่งให้ขอบเขตที่กว้างขึ้นสำหรับการให้อภัย”

“ ทั้งกฎหมายทั่วไปและกฎหมายชารีอะห์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความสงบสุขและความสามัคคีของประเทศนี้” เขากล่าว “พวกมันยังมีความสำคัญในการปกป้องคุณธรรมและความเหมาะสมของประเทศนี้ รวมถึงความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล”

การประกาศดำเนินการตามกฎหมายชารีอะห์นี้ทำให้องค์การสหประชาชาติประณาม รวมทั้งได้จุดประกายให้คนดังและองค์กรด้านสิทธิเรียกร้องการคว่ำบาตรต่อโรงแรมของสุลต่านที่มีอยู่ในลอนดอนและโรงแรมในลอสแองเจลิส

บริษัทข้ามชาติหลายแห่งได้สั่งห้ามพนักงานใช้โรงแรมของสุลต่าน และบริษัทท่องเที่ยวบางแห่งหยุดส่งเสริมให้บรูไนเป็นแหล่งท่องเที่ยว