เขาว่ากันว่า”เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้” ด้วยความอยากรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ เลยลองไปเที่ยวเมืองไทยทุกหนทุกแห่งที่ไปได้ ด้วยหน้าที่การงานและไปเที่ยวเอง เลยได้รู้ว่า เมืองไทยน่าเที่ยวมากขนาดไหน ..ฉันเป็นคนชอบเที่ยว ยิ่งที่ซ้ำๆ ยิ่งชอบ “น่าแปลก” แต่จริงๆแล้วไม่เห็นจะแปลก เพราะ ที่ไม่ซ้ำ ฉันก็ชอบเที่ยว บอกแล้ว ฉันเป็นคนชอบเที่ยว แต่.. ในเมื่อที่เดิมๆ ความทรงจำเดิมๆ ความสุขเดิมๆ ความประทับใจเดิมๆ ยังคงอยู่กับสถานที่เดิมๆ แล้วทำไมเราจะชอบเที่ยวที่เดิมๆ ไม่ได้ล่ะ
“เมืองหน้าเขา หลังเขา อ่างเก็บน้ำ สวนยาง ขนมจีนเส้นสด”“อำเภอพิปูน” จังหวัดนครศรีธรรมราช
เป็นบ้านเกิดของเพื่อนสนิทซึ่งเป็นคู่แฝด บ้านพวกเธออยู่หน้าเขา ทั้งคู่จะคอยบอกเสมอ “เธอทั้งคู่เป็นคนหน้าเขา ไม่ใช่คนหลังเขา” (ทั้งคู่จะพูดด้วยสำเนียงทองแดง ฟังแล้วได้อารมณ์ปักษ์ใต้บ้านเรามากๆๆๆ)ครั้งแรกที่ไปเที่ยว กลับมาครั้งนั้น สร้างความประทับใจจนฉันเขียนเป็นนิราศเที่ยวนครศรีฯ 20กว่าหน้า(มาถึงวันนี้ ยังขำตัวเอง เขียนไปได้ไง)
พิปูนเป็นหมู่บ้านเล็กๆ เป็นเมืองภูเขา ลักษณะเหมือนอยู่ในแอ่งกระทะ มีภูเขาอยู่ข้างหน้า ข้างหลัง เวลาเข้าเมืองนครฯ ต้องขับรถตัดผ่านขึ้นภูเขา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฉันประทับใจมาก เส้นทางที่ผ่าน สวยงาม จนไม่รู้จะพรรณนาอย่างไร จึงจะทำให้เห็นภาพได้ พวกเรานั่งอยู่บนหลังรถกะบะ เพื่อจะได้ซึมซับกับความสวยงาม รับลมแรงๆที่พัดตีหน้าได้เต็มที่ บางช่วงผ่านวิวสวยๆ เราจะขอให้หยุดรถ เพื่อถ่ายภาพกับสถานที่สวยงามเหล่านั้น เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆในช่วงเวลาดีๆแบบนี้
อาชีพหลักของชาวพิปูนคือ สวนยาง สวนผลไม้ รับจ้าง ค้าขาย .. พิปูนมีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมายให้กับคนที่รักการถ่ายภาพ แต่ที่ฉันหลงรักและประทับใจ “อ่างเก็บน้ำกะทูน” เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มาก มีเรื่องราวมากมาย เบื้องหลังเป็นหุบเขาทอดยาวสลับซับซ้อน สุดลูกหูลูกตา สวยงาม จนฉันขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย
“เสน่ห์เมืองพิปูน” เช้าตรู่ อากาศสดชื่น จนได้กลิ่นไอน้ำค้างบนยอดหญ้า เพื่อนชวนเดินไปนัด(ตลาดนัด) ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร นัดปลูกเป็นเพิงยาวๆ บนพื้นที่กว้างๆโล่งๆ มีเทือกเขาเป็นฉากลลอยู่เบื้องหลัง “เป็นเมืองโรแมนติคแท้ๆ” ระหว่างเดินไปตามถนน ผ่านบ้านเรือนเป็นหย่อมๆ ผ่านเทือกเขาเล็กๆ มองเห็นเป็นช่วงๆ เพราะเป็นเวลาเช้าตรู่ พระอาทิตย์เพิ่งโผล่มาทักทาย ฉันจึงมีโอกาสได้เห็นสายหมอกลอยระเรี่ยระเรี่ย ปกคลุมบนยอดภู สวยงาม น่ามอง จนต้องหยุดชื่นชม
อีกกิจกรรมในเมืองพิปูน ที่ฉันไม่เคยพลาด คือ.. การตื่นแต่เช้าตรู่ แล้วขับมอเตอร์ไซค์เป็นกลุ่มๆ ฝ่าอากาศสดชื่น บรรยากาศดีๆ ไปกินขนมจีนในสวน ขนมจีนขายจานละ15บาท สำหรับชาวสวนยางที่ไปกรีดยางตั้งแต่ตี3 เป็นขนมจีนเส้นสด ทำไปขายไป ได้บรรยากาศ จนลูกค้าต้องกินมากกว่า1จาน นอกจากแนมด้วยผักพื้นบ้าน ยังมีไก่ทอด บางครั้งโชคดี ถ้าเป็นหน้าจำปาดะ(ขนุนปักษ์ใต้) เราก็จะได้กินจำปาดะเป็นของหวานด้วย
นครศรีฯ ไม่ได้มีแค่เมืองพิปูน ยังมี หมู่บ้านคีรีวงศ์
เพื่อนยังพาไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ (สำหรับฉัน แค่“พิปูน” ก็หลงรักมากมายแล้ว) หมู่บ้านคีรีวงศ์ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ คีรีวงศ์เป็นเมืองในหุบเขา เพราะการเดินทางจะต้องทะลุเข้าไปในภูเขา ผ่านสวนยาง สวนผลไม้ จนถึงใจกลางภูเขา ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านคีรีวงศ์
“คีรีวงศ์ อำเภอลานสกา เป็นอำเภอที่มีอากาศดีที่สุดในประเทศไทย”
คีรีวงศ์มีอะไรที่ฉันชอบ ฉันชอบไปเยี่ยมชม เลือกซื้อสบู่สมุนไพรของกลุ่มผลิตภัณฑ์”สบู่เปลือกมังคุด”ของพี่สนธยา ชำนะ หนุ่มผมยาวเหมือนนักร้องเพลงเพื่อชีวิต แต่แนวคิดทันสมัยขัดกับรูปลักษณ์สุดๆ ..เราไปเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กับคุณแม่ของพี่สนธยา ซึ่งพวกเราเรียกคุณยายว่า”พนักงานขายที่แก่ที่สุดในโลก“เพราะคุณยายอายุ90 กว่าขวบแล้ว ขายของเก่ง มีลูกเล่นน่ารักในการขาย
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เป็นดอยที่ถูกขนานนาม ว่า “ดอยเดียวในนครศรีฯ” ดอยเขาเหมน อำเภอช้างกลาง
บนเขาเหมน เทศบาลช้างกลาง เคยจัดให้มีกิจกรรม “วิวาห์เหาะ”ลของแท้ (การแต่งงานบนอากาศ โดยให้คู่บ่าวสาวโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์) บนเขาเหมนมีรีสอร์ท ร้านอาหารเล็กๆ ถ้ามีโอกาสไปกินข้าวบนภูเขาที่มองเห็นวิวเทือกเขาสูง สวยงาม สุดลูกหูลูกตา เราไม่เคยพลาดความสุขแบบนี้
ความประทับใจต่อพิปูน เมืองเล็กๆ ที่มีภูเขาล้อมรอบและโรแมนติคแห่งนี้…..
ความสวยงามของเทือกเขาที่ล้อมรอบ บรรยากาศที่แสนโรแมนติคของเมืองพิปูน อากาศสะอาด ที่ในกรุงเทพไม่มี บ้านเรือนที่ยังคงรักษาความเป็นไทยปักษ์ใต้ ความเรียบง่ายของชาวบ้าน ฉันไปบ้านไหน ถ้าหิวข้าว เจ้าของบ้านจะไล่เข้าครัวหาข้าวปลากินเอง เมืองเล็กๆ แห่งนี้ เพิ่งมีเซเว่น โลตัส มาตั้งเมื่อปีที่แล้ว ตลาดนัดหรือนัด ที่ชาวบ้านเรียก มีอาหารปักษ์ใต้แปลกๆ ให้ได้ชิม มีขนมใต้ให้ฉันได้เลือกชิมอย่างสนุก ชาวบ้านหน้าตายิ้มแย้ม จะหัวเราะด้วยความเอ็นดู เมื่อได้ยินฉันพูดสำเนียงใต้เหน่อๆ
การเดินทางไปเมืองพิปูน ก็เป็นสิ่งที่ฉันชอบ นั่งรถไฟไทยไปลงที่สถานีคลองจันดี รถไฟไทย “ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง” แต่บรรยากาศบนรถไฟเป็นมนต์เสน่ห์ที่ฉันหลงรักไม่เสื่อมคลาย จากวิวข้างทาง จากอาหารที่มีคนแบกมาขาย จากบรรยากาศได้นั่งกินข้าวห่อบนรถไฟ จากการได้นอนหลับบนเตียงชั้นบนที่รู้สึกเหมือนนอนเปล โยกเยกไปมา จากการเดินทางเข้าพิปูนด้วยรถสองแถวขนาดเล็ก ที่วิวสองข้างทางสวยงามด้วยต้นยาง สวนผลไม้ ท้องนา มองไม่เบื่อ จนแทบไม่อยากให้ถึงจุดหมาย
ปี 2557 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)โฆษณาให้คนไทย”หลงรักประเทศไทย” ฉันก็เลยต้องสนองนโยบายด้วยความเต็มใจ “เพราะตอนนี้ฉัน“หลงรักเมืองพิปูน” จังหวัดนครศรีธรรมราช หมดหัวใจเสียแล้ว ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกสถานที่หนึ่งที่คนรักการท่องเที่ยว ไม่ควรพลาด