การ์เดี้ยน/อัลจาซีรา – ศาลฝรั่งเศสตัดสินลับหลังจำคุกเจ้าหญิงซาอุฯ พระธิดากษัตริย์ซัลมาน เป็นเวลา 10 เดือน ในข้อหาสั่งการให้บอดี้การ์ดของเธอกักตัวและทุบตีช่างประปาคนหนึ่งที่ถูกเรียกตัวมาซ่อมแซมอพาร์ทเมนต์ของราชวงศ์ซาอุฯ ในปารีส
เจ้าหญิงฮัสซา บินติ ซัลมาน อัล ซาอุด วัย 42 พระขนิษฐาในเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ถูกตั้งข้อหา สั่งการให้บอดี้การ์ดทำร้ายร่างกายผู้อื่น กักขังหน่วงเหนี่ยว และทำให้ขายหน้า
เธอออกจากประเทศฝรั่งเศสในทันทีหลังจากเหตุการณ์นี้ซึ่งเกิดในปี 2016 และแม้ว่าทางการฝรั่งเศสจะออกหมายจับระหว่างประเทศ ในเดือนธันาวคม 2017 แต่ก็ยังไม่สามารถจับตัวเธอได้ และเธอก็ไม่ได้ปรากฏตัวในการพิจารณาคดีนี้ตั้งแต่เริ่มต้นในเดือนกรกฎาคมปีนี้
ในการตัดสินลับหลังนี้ นอกจากศาลปารีสสั่งจำคุกนาน 10 เดือแล้ว ก็ยังสั่งปรับอีกเป็นจำนวนเงิน 10,000 ยูโร
การลงโทษของศาลนั้นหนักกว่าคำเรียกร้องของอัยการซึ่งได้ขอให้จำคุก 6 เดือนและปรับ 5,000 ยูโร (5,480 ดอลลาร์)
ขณะที่บอดี้การ์ดของชื่อ รานี ไซดี ถูกตัดสินจำคุก 8 เดือน และปรับอีก 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
อัยการกล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก เจ้าหญิงฮัสซาโกรธนายอัชราฟ อีด หลังจากที่เขาถูกเรียกตัวไปซ่อมอ่างล้างหน้าในอาคารอพาร์ตเมนต์หรูซึ่งเป็นของราชวงศ์ซาอุฯ ที่อยู่ใกล้กับช็องเซลีเซ (Champs Elyse) ในใจกลางกรุงปารีส
ในขณะที่ถ่ายรูปห้องน้ำซึ่งเขาบอกนักสอบสวนว่าเขาต้องทำงานของเขา ซึ่งปรากฏว่ากล้องได้ถ่ายติดรูปเธอจากภาพสะท้อน เมื่อเธอรู้ว่าเธอถูกถ่ายภาพ เธอจึงโทรหาบอดี้การ์ด ที่ได้มาชกและเตะนายอัชราฟ และสั่งให้เขาจูบเท้าของเจ้าหญิง
อัชราฟกล่าวว่า หลายชั่วโมงต่อมากว่าที่เขาได้รับอนุญาตให้ออกไป โดยหลังจากโทรศัพท์ของเขาถูกทำลายและอ้างว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งในระหว่างทำร้าย เจ้าหญิงตะโกนว่า “ ฆ่าเขา สุนัขตัวนี้ไม่สมควรมีชีวิตอยู่”
ด้านทนายความของเจ้าหญิง บอกว่า การไต่สวนคดีนี้มีพื้นฐานมาจากความเท็จ เขาจะยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำตัดสินของศาล และพิสูจน์ว่าเจ้าหญิงเป็นผู้บริสุทธิ์