BBC/Sputnik – ชาวเคิร์ดในซีเรียกล่าวว่า รัฐบาลซีเรียได้ตกลงที่จะส่งกองทัพไปยังชายแดนภาคเหนือในความพยายามหยุดยั้งการรุกรานของตุรกีต่อพวกเขา
สื่อของรัฐบาลซีเรียรายงานก่อนหน้านี้ว่ากองกำลังของรัฐบาลซีเรียได้เคลื่อนพลไปทางเหนือของประเทศ
อัลมายาดีนรายงานในวันจันทร์ (14 ต.ค.) ว่า กองทัพซีเรียได้เข้าเมือง Tabqah ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกควบคุมโดยกองทหารของเคิร์ดในจังหวัดรักกา และเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือ
รัฐบาลซีเรียยังไม่ได้แถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้
ฝ่ายบริหารของชาวเคิร์ดในภาคเหนือของซีเรียประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ที่ผ่านมาว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลซีเรีย โดยกองทัพซีเรียจะส่งกองทหารไปยังแนวชายแดนที่ติดกับตุรกีเพื่อช่วยชาวเคิร์ดขับไล่ผู้รุกราน
ตุรกีเปิดปฏิบัติการโจมตีเข้าไปในดินแดนทางภาคเหนือของซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อบีบให้กองกำลังของเคิร์ดออกจากบริเวณชายแดนแถบนั้น
พื้นที่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ซึ่งมีเคิร์ดเป็นกองกำลังหลัก และเป็นพันธมิตรแนบชิดของสหรัฐฯในซีเรียถูกโจมตีอย่างหนักในช่วงสุดสัปดาห์โดยตุรกี
ฝ่ายบริหารของเคิร์ดในภาคเหนือของซีเรียกล่าวว่า กองทัพซีเรียจะเคลื่อนพลเข้าประจำการตลอดแนวชายแดนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง
การส่งกองทหารรัฐบาลซีเรียเข้าไปนี้จะช่วย SDF ในการตอบโต้ “การรุกราน และการปลดปล่อยพื้นที่ซึ่งกองทัพตุรกีและทหารรับจ้างได้เข้ามา” แถลงการณ์ของฝ่ายบริหารเคิร์ดระบุ
การเคลื่อนไหวดังกล่าวยังเป็นการ “ปูทางไปสู่การปลดปล่อยเมืองที่เหลือของซีเรียที่ถูกกองทัพตุรกียึดครองไว้ เช่น เมืองอาฟริน” แถลงการณ์ระบุเพิ่มเติม
กองกำลังตุรกีและกลุ่มกบฏซีเรียหนุนตุรกี โจมตีผลักดันให้นักรบชาวเคิร์ดต้องออกจากเมืองอาฟรินในปี 2018 หลังจากปฏิบัติการสองเดือน
การทำข้อตกลงของชาวเคิร์ดกับรัฐบาลซีเรีย แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการเป็นพันธมิตรสำหรับชาวเคิร์ด หลังจากสูญเสียการคุ้มครองทางทหารจากพันธมิตรเช่น “สหรัฐ” ที่ถอนกำลังออกไปและปล่อยลอยแพเคิร์ด
ยังไม่ชัดเจนว่า อะไรคือคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลซีเรียได้ให้กับชาวเคิร์ด
อย่างไรก็ตาม ในบทความที่เขียนให้สำหรับนิตยสาร Foreign Policy หัวหน้า SDF นายมัซลูม อับดี (Mazloum Abdi) ยอมรับว่า “มีการประนีประนอมอย่างเจ็บปวด” กับรัฐบาลอัสซาดและพันธมิตรของซีเรียอย่างรัสเซีย
“เราไม่เชื่อในคำสัญญาของพวกเขา พูดตามตรง มันยากที่จะรู้ว่าใครจะไว้ใจได้” เขาเขียน
“ แต่ถ้าเราต้องเลือก ระหว่างการประนีประนอม กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อประชากรของเรา เราจะเลือกชีวิตประชาชนของเราอย่างแน่นอน” เขาระบุ
อนึ่งท่ามกลางความกังวลว่าไอซิสจะฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งจากการโจมตีนี้ของตุรกี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ของเคิร์ดกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ว่า สมาชิกของไอซิสที่เป็นชาวต่างชาติเกือบ 800 คนได้หลบหนีออกจากค่าย Ain Issa ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือหลังการโจมตีของตุรกี