อะลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศเมื่อวันพุธ (20 พ.ค.) ว่า ประเทศของเขาจะ “สนับสนุนและช่วยเหลือประเทศหรือกลุ่มใดก็ได้” ในการต่อสู้กับอิสราเอล
ความคิดเห็นนี้ของเขาเกิดขึ้นตามมาหลังมะหมูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงใดๆที่เคยมีกับอิสราเอล หลังอิสราเอลจ่อฮุบเวสต์แบงก์
“ระบอบไซออนิสต์ได้พิสูจน์แล้วว่ามันจะไม่ปฏิบัติตามสนธิสัญญาใดๆ และไม่เข้าใจตรรกะยกเว้นการใช้กำลัง” คาเมเนอี เขียนในแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่โพสต์บนทวิตเตอร์เป็นชุดทวีต “ธรรมชาติของระบอบไซออนนิสต์ขัดแย้งกับสันติภาพ เพราะไซออนนิสต์พยายามที่จะขยายอาณาเขตของพวกเขา และแน่นอนว่าจะไม่ จำกัดเฉพาะสิ่งที่พวกเขาครอบครองอยู่แล้ว”
The Zionist regime has proven it won’t abide by any treaty & understands no logic except force. The nature of the Zionist regime is incompatible with peace, because the Zionists seek to expand their territories & will certainly not be limited to what they have already occupied.
— Khamenei.ir (@khamenei_ir) May 20, 2020
“การกำจัดระบอบการปกครองแบบไซออนนิสต์ไม่ได้หมายถึงการกำจัดชาวยิว เราไม่ได้ต่อต้านชาวยิว มันหมายถึงการยกเลิกระบอบการปกครองที่กำหนด และมุสลิม คริสเตียนและชาวยิวชาวปาเลสไตน์ได้เลือกรัฐบาลของพวกเขาเองและตะเพิดพวกอันธพาลเช่นเนทันยาฮูออกไป นี่คือ “กำจัดอิสราเอล” และมันจะเกิดขึ้น” ผู้นำสูงสุดของอิหร่านอธิบาย
Eliminating the Zionist regime doesn’t mean eliminating Jews. We aren’t against Jews. It means abolishing the imposed regime & Muslim, Christian & Jewish Palestinians choose their own govt & expel thugs like Netanyahu. This is “Eliminating Israel” & it will happen.#FlyTheFlag
— Khamenei.ir (@khamenei_ir) May 20, 2020
ผู้นำสูงสุดของอิหร่านปฏิญาณที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือประเทศหรือกลุ่มใดๆ ที่ต่อต้านและต่อสู้อิสราเอล “ เราจะสนับสนุนและช่วยเหลือประเทศหรือกลุ่มใดก็ตามที่ต่อต้านและต่อสู้กับระบอบการปกครองของไซออนนิสต์ และเราไม่ลังเลที่จะพูดเรื่องนี้”
We will support and assist any nation or any group anywhere who opposes and fights the Zionist regime, and we do not hesitate to say this.#FlyTheFlag
— Khamenei.ir (@khamenei_ir) May 20, 2020
เขาเน้นว่า “การต่อสู้ที่ครอบคลุมของประชาชาติปาเลสไตน์ – ทั้งการเมือง การทหาร และวัฒนธรรมพึงดำเนินต่อไป”