Aljazeera/RT – เกิดเหตุระเบิดลูกใหญ่บริเวณท่าเรือในกรุงเบรุต เมืองหลวงประเทศเลบานอน เมื่อคืนวันอังคาร (4 ส.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 78 ราย บาดเจ็บกว่า 4 พันราย อิสราเอล-ฮิซบุลเลาะห์ออกโรงปฏิเสธไม่มีเอี่ยว
เจ้าหน้าที่ของเลบานอนกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 78 คน และบาดเจ็บอีก 4,000 คน
การระเบิดที่รุนแรงนี้ส่งคลื่นกระแทกไปทั่วเมืองทำให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวางแม้ในเขตชานเมืองเบรุต
สาเหตุของการระเบิดยังไม่ชัดเจนในตอนนี้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เชื่อมโยงการระเบิดนี้กับแอมโมเนียมไนเตรทที่ยึดมาได้ 2,700 ตันซึ่งถูกเก็บไว้ในคลังสินค้าที่ท่าเรือเป็นเวลาหกปีแล้ว
เจ้าหน้าที่คาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก หน่วยงานฉุกเฉินกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยชีวิตผู้คนและเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตออกมาจากซากปรักหักพัง
ประธานาธิบดีมิเชล อาอูน แห่งเลบานอน เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินในวันพุธ (5 ส.ค.) และกล่าวว่าควรประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสองสัปดาห์
ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า การระเบิดครั้งใหญ่ที่เขย่าเบรุตดูเหมือนจะเป็นการโจมตีที่รุนแรง
“ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชนเลบานอน และเราจะอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเหลือ มันดูเหมือนการโจมตีที่เลวร้าย” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว
ขณะที่ทั้งกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) และขบวนการฮิซบุลเลาะห์ต่างก็ได้ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบโดยทันทีหลังการระเบิดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้
Some pictures from inside Beirut's mangled port today. pic.twitter.com/ccf3drv3QX
— Timour Azhari (@timourazhari) August 4, 2020