RT – เตหะรานได้ออกมาเตือนสหรัฐฯ ไม่ให้ใช้เหตุระเบิดร้ายแรงในเบรุตมาเป็นประเด็นโจมตีทางการเมือง ทั้งระบุว่า วอชิงตันควรยกเลิกการคว่ำบาตรเลบานอนหากมีความจริงจังในการช่วยให้ประเทศนี้ฟื้นตัวจากภัยพิบัติ
“ หากอเมริกามีความจริงใจเกี่ยวกับข้อเสนอให้ความช่วยเหลือแก่เลบานอน พวกเขาควรยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร [ต่อประเทศนี้]” โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน อับบาส มูซาวี กล่าวเมื่อวันจันทร์ (10 ส.ค.) ในระหว่างการแถลงข่าว
ในการตอบคำถามเกี่ยวกับการเยือนเบรุตของประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง โฆษกฯ กล่าวว่า “มีบางประเทศพยายามทำให้การระเบิดครั้งนี้เป็นประเด็นโจมตีทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง” มาครง ต้องเผชิญกับคำวิจารณ์ที่ใช้การเยือนเลบานอนของเขาแสดงความเห็นใจผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล นอกจากนี้เขายังอ้างว่าอนาคตของประเทศ “กำลังอยู่ที่การตัดสินใจในขณะนี้”
วอชิงตันประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าได้เริ่มส่งมอบความช่วยเหลือไปยังเลบานอนหลังเหตุระเบิด อย่างไรก็ตามการบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมนั้นขัดแย้งกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯที่บังคับใช้กับฮิซบุลเลาะห์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลเลบานอน ด้วยเหตุนี้เพนตากอนจึงอ้างว่าจำเป็นต้องระมัดระวังมากขึ้นเมื่อให้ความช่วยเหลือแก่เลบานอนและแสดง “ความกังวลว่าจะให้ความช่วยเหลือแก่ใครบ้าง”
เบรุตมีการเดินขบวนประท้วงหลังการระเบิดในวันอังคาร (4 ส.ค.) ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 200 คนและทำให้พื้นที่ขนาดใหญ่ของเมืองกลายเป็นซากปรักหักพัง เมื่อวันเสาร์สถานทูตสหรัฐฯในเบรุตแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลพร้อมกับเรียกร้องให้ทุกฝ่าย “ละเว้นจากความรุนแรง”
การประท้วงดังกล่าวนำไปสู่การลาออกของรัฐมนตรีหลายคน ล่าสุดคือ มารี โคลด นัจม์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
