สหภาพนักวิชาการมุสลิมฯ ประณามดีลยูเออี-อิสราเอล “ทรยศอย่างรุนแรง”

แฟ้มภาพ

อะนาโดลู – ข้อตกลงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอลให้เป็นปกตินั้นเท่ากับเป็นการ “ทรยศอย่างรุนแรง” องค์กรนักวิชาการมุสลิมชั้นนำกล่าวเมื่อวันศุกร์ (14 ส.ค.)

ในแถลงการณ์ของสหภาพนักวิชาการมุสลิมนานาชาติ (International Union for Muslim Scholars – IUMS) ได้เรียกร้องให้โลกมุสลิม “แสดงจุดยืนที่เด็ดขาดในการต่อต้านข้อตกลงดังกล่าว … และพยายามที่จะรักษาสิทธิอย่างเต็มที่ของชาวปาเลสไตน์”

สหภาพนักวิชาการมุสลิมฯ ยังปฏิเสธข้ออ้างของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะหยุดอิสราเอลจากการการยึดผนวกดินแดนปาเลสไตน์เพิ่มเติม

ข้อตกลงในการปรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – อิสราเอลให้เป็นปกติได้รับการประกาศโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ขัดขวางแผนการของอิสราเอลที่จะผนวกพื้นที่ขนาดใหญ่ของเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง

แถลงการณ์ร่วมจากสหรัฐฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิสราเอล กล่าวว่ามันเป็น “ความก้าวหน้า” ที่จะส่งเสริม “สันติภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง และเป็นข้อพิสูจน์ถึงการทูตและวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญของผู้นำทั้งสาม” ซึ่งอ้างถึงทรัมป์, มกุฎราชกุมารอาบูดาบี บินซาเยด และเนทันยาฮู

พัฒนาการดังกล่าวทำให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นชาติอาหรับที่สามที่เปิดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลอย่างเต็มรูปแบบและทำให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นรัฐอ่าวอาหรับแห่งแรกที่ทำเช่นนั้น ชาติอาหรับอื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลคืออียิปต์และจอร์แดน

กลุ่มต่างๆ ของชาวปาเลสไตน์ประณามข้อตกลงใหม่นี้ โดยกล่าวว่าไม่มีอะไรที่จะตอบสนองความต้องการของชาวปาเลสไตน์และเพิกเฉยต่อสิทธิของชาวปาเลสไตน์

ฮามาสกล่าวในแถลงการณ์ว่า ข้อตกลงสันติภาพของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับอิสราเอล ถือเป็นการ “ทรยศแทงข้างหลังต่อชาวปาเลสไตน์”