มท.3 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโคก หนอง นา จังหวัดระยอง

24 สิงหาคม 2563 นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ณ บ้านผู้นำต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ฯ ของนายจรัล ปฏิบัติ หมู่ที่ 4 ตำบลห้วยยาง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โดยมีนายโชคชัย แก้วป่อง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และทีมงานสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดระยอง ให้การต้อนรับ

นายทรงศักดิ์ ทองศรี กล่าวว่า รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” งบประมาณ 4,787.916 ล้านบาท โคก หนอง นา เป็นการบริหารจัดการที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญ เพราะน้ำคือปัจจัยสำคัญของการดำรงชีวิตและการทำการเกษตร นอกจากนี้ในระยะยาวจะสามารแก้ปัญหาภัยภิบัติต่างๆ เช่นปัญหาอุทกภัยที่ทางพี่น้องภาคเหนือประสบอยู่ในขณะนี้ ปัญหาไฟป่า และภัยแล้งซ้ำซากที่เราเผชิญอยู่

การดำเนินการในพื้นที่ควรอยู่บนพื้นฐานของฐานข้อมูลที่ถูกต้องเพียงพอ และควรคำนึงถึงความเหมาะสมของสภาพภูมิสังคมของแต่ละพื้นที่ และควรบูรณาการความร่วมมือในระดับพื้นที่ ให้เกิดการรวมกลุ่ม ขยายผลสู่เครือข่ายที่เข้มแข็ง เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนฐานราก สู่ความมั่นคงและยั่งยืนของประเทศ ต่อไป ซึ่งที่นี่เป็น การพัฒนาพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบ โคก หนอง นา โมเดล ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับครัวเรือนและชุมชน

ในการนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมปลูกต้นทุเรียน พันธุ์ก้านยาว และเยี่ยมชมฐานเรียนรู้ต่างๆ ประกอบด้วย แปลงผักสวนครัวการเลี้ยงสัตว์ (ไก่ เป็ด กระต่าย ห่าน) การเลี้ยงหมูหลุม ชมการปลูกหญ้าแฝก ชมทุ่งปอเทือง แปลงนาสาธิต บ่อเลี่ยงปลา (ปลานิล/ปลาทับทิม) เยี่ยมชมคลองไส้ไก่ เยี่ยมชมหลุมขนมครก ชมโคกพอเพียง ชมการสาธิตการแปรรูปมะดันแช่อิ่ม ของผู้ประกอบการ OTOP ที่นำมาจัดแสดงด้วย

มท. 3 กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่น หรือ OTOP ขณะนี้ กรมการพัฒนาชุมชน หรือ พช. ได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีทักษะในการจำหน่ายสินค้าผ่านทางช่องทาง ONLINE เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทยได้หารือกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการที่จะจัดสรรพื้นที่กลางของสถาณีรถไฟกลางบางซื่อ เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ OTOPและสินค้าชุมชน อย่างไรก็ดีผลิตภัณฑ์ทางภูมิปัญญา ผลิตภัณฑ์ OTOP ที่ทรงคุณค่า ควรผลักดันให้มีการจดสิทธิบัตร เพื่อเป็นเครื่องการันตี และเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้ ขอเชิญชวยพี่น้องคนไทยอุดหนุนสินค้าไทย ใช้ของไทย เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน และเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอีกทางหนึ่งด้วย”