27 กันยายน 2563 เวลา 13.30 น. เยาวชนเด็กกำพร้าและครูพี่เลี้ยงจากศูนย์ดูแลเด็กกำพร้าในพื้นที่จังหวัดยะลา, ปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส จำนวน 90 คน ที่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือการพัฒนาศักยภาพเด็กกำพร้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกลุ่มงานส่งเสริมการศึกษาและเสริมสร้างโอกาสทางสังคม ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดขึ้น ได้เดินทางมาถึงโรงเรียนสอนศาสนาศาสนูปถัมภ์ คลองเคล็ด ตั้งอยู่ที่ 15/28 หมู่ที่ 1 ซอยสุภาพงษ์ 1 แขวนหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อมาทัศน ศึกษาดูงาน และการเรียนการสอนด้านสังคมและอิสลาม และการจัดการดูแลเด็กกำพร้าที่เข้ามาศึกษาในโรงเรียนแห่งนี้ พร้อมเยี่ยมชมสถานศึกษาที่เป็นสถานศึกษาที่เปิดหลักสูตรสามัญ ควบคู่กับศาสนาอิสลาม และเป็นโรงเรียนประจำที่อยู่ท่ามกลางกรุงเทพมหานคร และโรงเรียนแห่งนี้ได้ผลิตเยาวชนให้เป็นคนดี คนเก่ง โดยเฉพาะเยาวชนที่เป็นเด็กกำพร้า ให้ได้รับการดูแลเปรียบเสมือนลูกแท้ ๆ ได้กล่อมเกลาจิตใจ ให้เป็นเยาวชนที่เข้าศึกษาในสถานศึกษาแห่งนี้ ให้เป็นคนดีของประเทศต่อไปอีกด้วย
ในการนี้นายดำรงค์ อินโท ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการศึกษาและเสริมสร้างโอกาสทางสังคม ศอ.บต. มาร่วมพบปะให้กำลังแก่น้องๆเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยมีคณะผู้บริหาร ครู และนักเรียนจากโรงเรียนสอนศาสนาศาสนูปถัมภ์ คลองเคล็ด ร่วมให้การต้อนรับ
นายดำรงค์ อินโท ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการศึกษาและเสริมสร้างโอกาสทางสังคม ศอ.บต. ได้กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า เพื่อให้น้อง ๆ เด็กกำพร้าในพื้นที่ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเพื่อเป็นการเปิดช่องทางให้น้อง ๆ เด็กกำพร้าใรงนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีสถานที่เรียนหนังสือเพิ่มมากขึ้น เพราะโรงเรียนสอนศาสนาศาสนูปถัมภ์ คลองเคล็ดถือเป็นโรงเรียนที่สนับสนุนเยาวชนโดยเฉพาะเยาวชนที่เป็นเด็กกำพร้า สามารถมีที่เรียนหนังสือ พร้อมมอบทุนการศึกษาอีกด้วย อย่างไรก็ตามทาง ศอ.บต. ต้องขอขอบคุณคณะผู้บริหาร และครูโรงเรียนสอนศาสนาศาสนูปถัมภ์ คลองเคล็ด ทุกคนที่ได้ให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่ ศอ.บต. เจ้าหน้าที่จากศูนย์เด็กกำพร้า และเด็กกำพร้าในพื้นที่ พร้อมได้ดูแลน้อง ๆ เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้อีกด้วย
ทั้งนี้ โรงเรียนสอนศาสนาศาสนูปถัมภ์ คลองเคล็ด ได้มุ่งเน้นให้นักเรียนได้นำความรู้ทางด้านศาสนามาควบคู่กับด้านสามัญ ซึ่งจะทำให้เด็กมีความรู้ได้ทั้งสองสาย และสามารถนำความรู้ตรงนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ สามารถนำไปต่อยอดได้ในระดับมหาวิทยาลัย ในช่วงมัธยมต้นเป็นการเรียนการสอนขั้นพื้นฐานทั่วไป ส่วนในชั้นมัธยมปลายแบ่งออกเป็น 2 สาขาการเรียนรู้คือ สายวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์และศิลป์-ซานาวีย์ ซึ่งนักเรียนที่เรียนจบทั้งสองสาขานี้จะสามารถ ทำการสอบเพื่อไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้เหมือนกับโรงเรียนสามัญทั่วไปแต่พิเศษตรงที่นักเรียนจะได้ศาสนา และภาษาอาหรับเป็นพื้นฐานติดตัวไปด้วย นายดำรงค์ อินโท / กล่าวฯ
สำหรับกิจกรรมทัศนศึกษาดูงาน และการเรียนการสอนด้านสังคมและอิสลาม ณ โรงเรียนสอนศาสนาศาสนูปถัมภ์ คลองเคล็ด กรุงเทพมหานครในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 30 กันยายน 2563 โดยน้อง ๆ ทุกคนจะร่วมอาศัยอยู่ 2 วัน 2 คืน ที่โรงเรียนสอนศาสนาศาสนูปถัมภ์ คลองเคล็ด พร้อมกับเพื่อน ๆ นักเรียนจากโรงเรียนสอนศาสนาศาสนูปถัมภ์ คลองเคล็ด ร่วมทำกิจกรรมด้านศาสนา กิจกรรมเพื่อสังคม จากนั้น จะไปเยี่ยมชมและพักผ่อนหย่อนใจ ณ สวนหลวง ร.9 ซึ่งเป็นสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้นักเรียนไปพักผ่อน ท่ามกลางธรรมชาติ และร่วมชมความสวยงามด้วยภูมิทัศน์ของสวนหลวง ร.9