ปธน.อิหร่านซัด ‘อิสราเอล’ บงการปลิดชีพนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ชั้นนำ

ฮัสซัน รูฮานี
[File: AFP]

อัลจาซีรา – ประธานาธิบดี ฮัสซัน รูฮานี แห่งอิหร่าน ออกมากล่าวหาว่า รัฐบาลอิสราเอลคือผู้บงการลอบสังหารนักฟิสิกส์นิวเคลียร์ระดับสูงของอิหร่าน ที่ถูกสงสัยมานานจากตะวันตกว่าจะเป็นผู้ควบคุมโครงการระเบิดนิวเคลียร์แบบลับๆ

“นี่เป็นอีกครั้ง ที่มืออันชั่วร้ายแห่งความยโสโอหังระดับโลก (Global Arrogance) และพวกทหารรับจ้างไซออนิสต์เปื้อนเลือด” ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวในแถลงการณ์ตามรายงานของทีวีของรัฐเมื่อวันเสาร์ (28 พ.ย.)

“ การลอบสังหาร โมะห์เซน ฟาครีซาเดะห์ แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังของศัตรูและความเกลียดชังที่ลึกล้ำ…การพลีชีพของเขาจะไม่ทำให้ความสำเร็จของเราช้าลง” รูฮานีกล่าว

ผู้นำทางศาสนาและการทหารของอิหร่านต่างได้ออกมาขู่ว่าจะแก้แค้นให้กับการตายของฟาครีซาเดะห์นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ในวันศุกร์ (27 พ.ย.) ซึ่งสื่อของอิหร่านระบุว่า เขาเสียชีวิตในโรงพยาบาลหลังจากผู้โจมตียิงใส่รถของเขาในเขตอับ-ซาร์ด ชานเมืองทางตะวันออกของกรุงเตหะราน

อายะตุลเลาะห์ อะลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านได้ให้คำมั่นว่า จะตอบโต้การลอบสังหารฟาครีซาเดะห์ และกล่าวว่างานนิวเคลียร์ของเขาจะดำเนินต่อไป

เขาเรียกร้องให้มีการลงโทษผู้กระทำผิด และในแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของเขา คาเมเนอีกล่าวว่านักวิทยาศาสตร์คนนี้ “พลีชีพโดยอาชญากรและทหารรับจ้างที่โหดร้าย”

ในแง่ของการลอบสังหารคาเมเนอีกล่าวว่า ทางการอิหร่านต้องพิจารณาและติดตามสองประเด็นอย่างจริงจัง

“ อันดับแรกคือการติดตามอาชญากรรมนี้และลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด และอีกด้านหนึ่ง ติดตามความพยายามทางวิทยาศาสตร์และเทคนิคในทุกภาคส่วนที่เขากำลังดำเนินการ” เขากล่าว

ฟาครีซาเดะห์ วัย 63 ปี เคยเป็นสมาชิกหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตขีปนาวุธ เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าองค์กรนวัตกรรมการป้องกันและการวิจัยของกระทรวงกลาโหมในช่วงเวลาที่เขาเสียชีวิต

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้กล่าวถึงฟาครีซาเดะห์โดยเฉพาะในการนำเสนอเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านในปี 2018 “ จำชื่อนี้ไว้” เขาพูด

จาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกล่าวว่า มีหลักฐานชี้ไปที่การมีส่วนร่วมของอิสราเอลในการลอบสังหาร แต่ยังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ดำเนินการโจมตี

การสังหารนักวิทยาศาสตร์อิหร่านเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลใหม่เกี่ยวกับปริมาณยูเรเนียมเสริมสมรรถนะที่อิหร่านกำลังผลิต ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะเป็นองค์ประกอบหลักสำหรับการผลิตพลังงานนิวเคลียร์และอาวุธนิวเคลียร์

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ทรัมป์ได้ไถ่ถามผู้ช่วยใกล้ชิดของเขาว่า “มีทางเลือกใดบ้าง” ที่จะดำเนินการกับแหล่งนิวเคลียร์ที่สำคัญของอิหร่านในเมืองนาทานซ์ ซึ่งเตหะรานก็กร้าวกลับว่าจะ “ตอบโต้อย่างรุนแรง”

ในเดือนพฤษภาคม 2018 ทรัมป์ถอนตัวเพียงฝ่ายเดียวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านปี 2015 กับมหาอำนาจโลก และกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รุนแรงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ในปีที่ผ่านมาหน่วยงานและบุคคลของอิหร่านถูกคว่ำบาตรระลอกใหม่จากสหรัฐฯ โดยใช้ข้ออ้างว่าเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย อันเป็นความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ที่ทำให้ยากขึ้นสำหรับรัฐบาลใหม่ของไบเดนในการกลับมาใช้ข้อตกลงนิวเคลียร์

ก่อนหน้านี้อิหร่านเรียกกลยุทธ์ “กดดันสูงสุด” ของรัฐบาลทรัมป์ว่าเป็นตัวอย่างของ “การก่อการร้ายทางเศรษฐกิจและการแพทย์”