ทรัมป์อนุมัติการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตันดีซี เมืองหลวงของสหรัฐฯ หลังเจ้าหน้าที่เตือนถึงภัยคุกคามก่อนที่ “โจ ไบเดน” จะเข้ารับตำแหน่ง อัลจาซีรารายงาน
โดนัลด์ ทรัมป์ ได้อนุมัติประกาศภาวะฉุกเฉินในเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกาแล้ว สำนักข่าวของทำเนียบขาวกล่าวเมื่อเย็นวันจันทร์ (11 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ เตือนถึงภัยคุกคามก่อนที่ โจ ไบเดน จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี
คำสั่งนี้อนุญาตให้ขยายความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางจนถึงวันที่ 24 มกราคม เพื่อสนับสนุนความพยายามตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินในวอชิงตันดีซี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะช่วยให้หน่วยงานจัดการเหตุฉุกเฉินของรัฐบาลกลางสามารถ “ระบุ ระดม และจัดหาอุปกรณ์และทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อบรรเทาผลกระทบจากเหตุฉุกเฉินได้ตามดุลยพินิจของตน”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากผู้ก่อการจลาจลที่สนับสนุนทรัมป์เข้ายึดอาคารรัฐสภาของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม เพื่อสนับสนุนการกล่าวอ้างเท็จของทรัมป์ว่าการเลือกตั้งสหรัฐฯ ถูกช่วงชิงไปจากตน มีห้าคนถูกฆ่าตายในความรุนแรงนี้
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ในแถลงการณ์ภายใน เตือนถึงการประท้วงด้วยอาวุธที่อาจเกิดขึ้นได้ใน 50 รัฐและในเมืองหลวงของสหรัฐฯ ในช่วงก่อนการเข้ารับตำแหน่งของไบเดน ในวันที่ 20 มกราคม
ในช่วงสุดสัปดาห์ นางมูเรียล โบว์เซอร์ นายกเทศมนตรีวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ส่งจดหมายเพื่อขอให้มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้นก่อนการเข้ารับตำแหน่ง เนื่องจาก “ความโกลาหลบาดเจ็บและเสียชีวิต” ที่ศาลากลางเมื่อวันที่ 6 มกราคม
โบว์เซอร์ ขอให้แผนกความมั่นคงแห่งมาตุภูมิขยายภาวะฉุกเฉินเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางและท้องถิ่นเตรียมความพร้อมสำหรับการรับมือได้ดีขึ้น และขอข้อมูลข่าวกรองและการบรรยายสรุปภัยคุกคามรายวันจาก เอฟบีไอ ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมถึง 24 มกราคม
