ป้ายหลุมศพในสุสานโบราณ หรือกุโบร์ สุลต่าน สุลัยมาน ชาห์ ที่ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา ถูกทำลายพังยับ นักวิจัยท้องถิ่นเศร้าชี้ มรดกความทรงจำหลายร้อยปีของเมืองสงขลาได้หายไปอีกชิ้นแล้ว
เมื่อวันเสาร์ (6 ก.พ.) นายสามารถ สาเร็ม นักวิจัยท้องถิ่นด้านด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ได้โพสต์ในเฟสบุ๊กส่วนตัว facebook.com/samartsarem ระบุว่า ตนได้ไปทำธุระที่สงขลา ระหว่างทางได้เเวะที่กูโบร์สุลต่านสุไลมาน ตั้งใจจะมาเก็บภาพเพิ่มเติมภายในบริเวณสุสาน เพราะก่อนหน้านี้ได้โพสต์บทความว่าด้วยเรื่องจารึกที่ปรากฎอยู่ในชีวิวัฒน์สมัยรัชกาลที่ ๕
หลังถ่ายภาพเพิ่มเติมที่แท่นกุโบร์ของสุลต่าน ได้เดินสำรวจรอบ ๆ ก็พบว่าตาหนา (ป้ายหลุมศพ) ที่มีจารึกสำคัญเป็นข้อความสรรเสริญนบีมูฮำหมัด ซึ่งทุกครั้งที่มาจะต้องมาดูได้ถูกทุบทำลายแตกเป็นเสี่ยงๆ
ข้อความในจารึกซึ่งเคยอ่านได้ว่า “ใน (ปี)รอซูล (อัลลอฮ์) ขออัลลอฮ์โปรดประทานศอลาวาตและความศานติแด่ท่านด้วยเถิด” ข้อความเหล่านี้ได้แตกละเอียด กระจัดกระจายหายไป
ตาหนาแผ่นนี้ทำขึ้นจากหินตะกอนสีแดง มีการสลักรูปทรงอย่างประณีตมาก ข้อความจารึกก็ถูกสลักด้วยลายมือประณีต และอาจถือว่าเป็นตาหนาที่ปรากฏจารึกข้อความยาวที่สุดในบรรดาตาหนายุคโบราณในกุโบร์สุลต่านสุลัยมานแห่งนี้
ด้วยองค์ประกอบที่ประณีตทั้งรูปทรง ลายมือ และข้อความที่ยาวเป็นพิเศษ ทำให้น่าเชื่อว่าเป็นตาหนาของบุคคลสำคัญมาก และอาจมีอายุเก่าแก่ย้อนไปถึงเมืองสงขลาสมัยสุลต่านที่หัวเขาแดง จารึกที่ถูกทำลายไปนี้จึงเสมือนเป็นหน้าบันทึกประวัติศาสตร์เมืองสงขลาที่ถูกทำลายลงไปคงเหลือไว้แต่เพียงภาพถ่าย
ทั้งนี้ จากการสำรวจเพิ่มเติมยังพบอีกว่าตาหนาบริเวณใกล้เคียงอีกหลายชิ้นทั้งที่ทำจากหินตะกอนสีแดง และหล่อด้วยซีเมนต์หลายชิ้นในบริเวณรอบ ๆ นั้นก็ถูกทุบทำลายด้วยเช่นกัน
จึงได้ประสานไปยังคุณปัญญา พูลศิลป์ คุณกฤษ พิทักษ์กุมพล คุณธีรนาฎ มีนุ่น ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา และเผยแพร่ภาพจารึกที่ถูกทุบทำลายลงในเฟสบุ๊ค
ช่วงเย็นผมจึงนัดบังกฤษ พร้อมกับคุณปัญญา ช่วยกันสำรวจอีกรอบ รอบนี้พวกเราช่วยกันนำชิ้นส่วนมาจัดเรียงเทียบกับภาพเดิมที่เคยถ่ายไว้ แล้วจึงบันทึกถ่ายภาพไว้ สักพักทางเจ้าหน้าที่กรมศิลป์ก็เดินทางลงมาในพื้นที่ พร้อมกับให้ข้อมูลว่าเหตุเกิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เเละเมื่อประมาณสามเดือนก่อน มีวัยรุ่นสติไม่ดี ได้เข้ามาเผาพรมในศาลากูโบร์ของท่านสุลต่านสุไลมาน จึงคิดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกัน ทั้งนี้ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรว่าในวันพรุ่งนี้ ผอ.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลาจะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
ล่าสุด วันนี้ (7 ก.พ.) นายสามารถ อัพเดตความคืบหน้าเรื่องการทุบทำลายตาหนาที่กุโบร์สุลต่าน ระบุว่า
วันนี้ ตั้งแต่ช่วงสาย ๆ ผู้อำนวยการ ภัณฑารักษ์ และเจ้าหน้าที่จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา ร่วมกับนักโบราณคดีสำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ รวบรวมเศษชิ้นส่วนของตาหนามีจากรึกชิ้นสำคัญ จนประกอบร่างได้เกือบสมบูรณ์ตามรูปถ่ายก่อนถูกทำลาย
ในเบื้องต้นได้นำตาหนาหลักนี้ไปเก็บรักษาไว้ที่สำนักศิลปากรที่ ๑๑ เพื่อตรวจสอบและวางแผนอนุรักษ์ต่อไป
ส่วนในเรื่องการแจ้งความ และสืบหาผู้กระทำผิดจากเหตุการณ์ทุบทำลายตาหนาภายในกุโบร์กำลังอยู่ในการประสานงานภายใน
กล่าวสำหรับ สุลต่านสุลัยมาน ชาห์ เป็นสุลต่านแห่งเมืองสงขลาองค์ที่ 1 ประสูติที่เมืองสาเลห์ เกาะชวา ได้รับแต่งตั้งจากราชสำนักอยุธยาเป็นข้าหลวงผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา พ.ศ. 2163 (ต่อจากพระบิดาคือดาโต๊ะโมกอล) ต่อมาได้สถาปนาตนเป็นพระเจ้าเมืองสงขลา ครองรัฐสุลต่านซิงกอรา หลังเจ้าพระยากลาโหมทำการปราบดาภิเษกเป็น พระเจ้าปราสาททองในกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2173 พิราลัย พ.ศ. 2211 พระศพยังคงฝังอยู่ที่สุสานที่เขาแดง อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา มาจนถึงปัจจุบันนี้