เที่ยวกรุงเทพฯ ยังไงให้เหมือนอยู่ญี่ปุ่น ชามาลิสต์ 5 กิจกรรมสนุกๆ ในกรุงเทพฯ ทำแล้วเหมือนได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น

2 เมษายน 2564 – เดือนเมษายนของทุกปีจะเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกพากันเดินทางไปชมเทศกาลซากุระผลิบานที่ญี่ปุ่น สำหรับปีนี้ อาจจะต้องรอกันอีกหลายเดือนกว่าจะเดินทางท่องเที่ยวกันได้ตามใจชอบกันอีกครั้ง โชคดีที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่หนาแน่น โดยเฉพาะในย่านสุขุมวิทและพร้อมพงษ์ เป็นที่ทราบกันดีว่าชุมชนชาวญี่ปุ่นเป็นชุมชนที่มีความเหนียวแน่น ใครมีโอกาสได้ไปเดินเล่นในย่านนี้ล้วนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศความเป็นญี่ปุ้นญี่ปุ่น ตั้งแต่ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และร้านรวงต่างๆ วันนี้ ชามาได้รวบรวม 5 กิจกรรมสนุกๆ ในย่านสุขุมวิทและพร้อมพงษ์ ทำแล้วเหมือนได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น เอาใจเจแปนเลิฟเวอร์ที่กำลังคิดถึงแดนอาทิตย์อุทัยเน้นๆ

1. ตระเวนชิมของอร่อยและขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น
จะมีใครบ้างไม่ชอบทานอาหารญี่ปุ่น? ไม่ว่าจะเสิร์ฟมาแบบสด สุก ทอด อบ ต้ม ย่าง อาหารญี่ปุ่นมักจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ใครที่ได้ลองชิมต้องกลับมากินรอบสอง สาม สี่ ห้า เสมอ ถ้าคิดไม่ออกว่าไปไหนดี ลองแวะไปที่ นิฮอนมาชิ มอลล์ ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท 26 เต็มไปด้วยร้านอาหารและบาร์บรรยากาศสบายๆ หรือที่เรียกว่า‘อิซะกายะ’ ใครอยากสัมผัสประสบการณ์แบบอิซะกายะแท้ๆ ต้องเลือกนั่งบนพื้นแล้วสั่งเมนูหม้อไฟและปิ้งย่างร้อนๆ มาลองชิม คนที่คิดถึงขนมปังสไตล์ญี่ปุ่น แนะนำให้แวะไป โทราย่า เบเกอรี่ ปากซอยทองหล่อ 13 ที่มีขนมปังอบสดใหม่ และเมนูของหวาน อาทิ ไดฟุกุ โดรายากิ และขนมปังไส้สัปปะรด สำหรับผู้ที่ชอบขนมหวานและชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่น ต้องแวะไปชิมของอร่อยที่ คัสตาร์ด นาคามูระ บนถนนสุขุมวิท 13 เค้าว่าชีสเค้กที่นี้เนื้อแน่น หอมชีส โดยไม่หวานจนเกินไป

เลือกช็อปอาหารทะเลสด ๆ และวัตถุดิบจากญี่ปุ่น ที่ดอง ดอง ดองกิ

2. เดินเล่นซื้อของอร่อยและวัตถุดิบสำหรับทำอาหารจากซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่น
ยังจำอาหารทะเลสดสะอาด ผลไม้เนื้อแน่น ชุ่มฉ่ำ ซูชิราคาไม่แพง และเนื้อวากิวแสนอร่อย ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตในญี่ปุ่นได้มั้ย? จะเป็นอย่างไร ถ้าคุณสามารถซื้อของเหล่านี้ได้แล้วในกรุงเทพฯ! ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถซื้อข้าวของเครื่องใช้ ของกินเล่น อาหารแช่แข็ง และอื่นๆ เริ่มจาก นิฮอน อิชิบะ ปากซอยทองหล่อ 13 ซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับตลาดปลาในญี่ปุ่น ในขนาดกระทัดรัด รับประกันความสดของอาหารทะเลเพราะมีการส่งวัตถุดิบมาจากญี่ปุ่นรายวัน นอกจากนี้ยังมีเนื้อวากิว ผัก และผลไม้ วางจำหน่ายอีกด้วย ดอง ดอง ดองกิ สาขาสุขุมวิท 63 นับเป็นอีกหนึ่งซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาวัตถุดิบ อาหารสด และอาหารแห้ง อาทิ ซอสทำอาหาร เครื่องปรุงรส และขนมจุกจิก ใครคิดถึงคิทแคทกลิ่นซากุระ และมันฝรั่งทอดรสวาซาบิห้ามพลาด! สำหรับซุปเปอร์มาร์เก็ตที่คนญี่ปุ่นชอบไปมากที่สุด คงจะหนีไม่พ้น ยูเอฟเอ็ม ฟูจิ ซูเปอร์ สาขาสุขุมวิท 33 ใครได้มาเป็นต้องปลาบปลื้มกับตัวเลือกที่มีความหลากหลาย บางคนถึงกับบอกว่าเหมือนไปช้อปปิ้งในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว

สำหรับผู้ที่อยากนั่งทานซูชิและซาชิมิเซ็ตเมนูโปรดท่ามกลางบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น ลองเลือกซื้อเมนูในดวงใจจากซุปเปอร์มาร์เก็ตที่แนะนำไว้ข้างต้น แล้วเช็คอินพักผ่อนในห้องรับแขกที่ตกแต่งด้วยเสื่อทาทามิของโรงแรมชามา เลควิว อโศก กรุงเทพฯ ที่มาพร้อมกับพื้นที่นั่งที่ปูด้วยเสื่อทาทามิ เหมาะสำหรับการนั่งพักจิบชา ละเลียดซูชิ สังสรรค์กับเพื่อน และนอนพักยามบ่ายในบรรยากาศแบบญี้ปุ้นญี่ปุ่น

3. แช่ออนเซ็นคลายเครียดให้ตัวเบาสบาย
เป็นที่ทราบกันดีกว่าการแช่น้ำร้อนหรือ ‘ออนเซ็น’ นั้นก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขับสารพิษ ของเสียต่างๆ ออกจากร่างกาย ทำให้ผิวสดใส อ่อนเยาว์ รวมถึงช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้ความเมื่อยล้าละลายหายไป ถ้าจะพูดถึงออนเซ็นแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับออนเซ็นที่อยู่ญี่ปุ่นก็คงจะหนีไม่พ้น ยูโนะโมริ ออนเซน แอนด์ สปา บนถนนสุขุมวิท 26 มาพร้อมกับออนเซ็นในร่มและออนเซ็นกลางแจ้ง ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นของสวนสไตล์ญี่ปุ่น ถ้ารู้สึกเขินเกินกว่าจะแช่ออนเซ็นร่วมกันกับผู้อื่น ลองแวะไปแช่ออนเซ็นในอ่างไม้ส่วนตัวที่ คาชิคิริ ออนเซน แอนด์ สปา บนถนนสุขุมวิท 49 ซึ่งลูกค้าสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์อาบน้ำส่วนตัวได้ผ่านการผสมแร่ธาตุลงไปในน้ำแร่เพื่อให้มีประโยชน์ในแบบที่ลูกค้าต้องการ

4. ช้อปปิ้งของมือสองคุณภาพสไตล์คนญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องชอบซื้อของมือสองคุณภาพดีเป็นชีวิตจิตใจ ในกรุงเทพฯ ร้านของมือสองที่คนญี่ปุ่นชอบไปเดินซื้อของก็คงจะหนีไม่พ้นเหล่าร้านเล็กๆ น่ารักในย่านพร้อมพงษ์และเอกมัย เริ่มจากร้าน โตเกียว โจ บนถนนสุขุมวิท 39 ที่มีสินค้ามือสองนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นอยู่เต็มร้าน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ หนอนหนังสือต้องแวะไป ดาสะ บุ๊ค คาเฟ่ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยหนังสือมือสองที่มีการรักษาคุณภาพไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ใครชอบเสื้อผ้าเก๋ๆ มีดีไซน์ไม่เหมือนใคร น่าจะชอบ (อัน) แฟชั่น คาเฟ่ บนถนนสุขุวิท 63 ซึ่งมีการแบ่งโซนเสื้อผ้าผู้หญิงและผู้ชายอย่างชัดเจน ของมือสองคุณภาพเยี่ยม ราคาดีแบบนี้ รับรองว่าช๊อปปิงเพลิน เดินได้ไม่มีเบื่อทั้งวัน!

5.เรียนรู้ศิลปะและงานฝีมือสไตล์ญี่ปุ่น
ระหว่างที่กำลังรอให้สถานการณ์โรคระบาดดีขึ้นและประเทศต่างๆ เปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง เจแปนเลิฟเวอร์อาจใช้ช่วงเวลานี้ในการฝึกปรือทักษะและงานฝีมือสไตล์ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น “ชิโบริ” เทคนิคการย้อมผ้าสีครามสไตล์ญี่ปุ่น หรือ “อิเคบานะ” ศิลปะการจัดดอกไม้ในแจกัน ถ้านึกไม่ออกว่าจะเริ่มจากอะไรดี ขอแนะนำให้แวะไปที่ เจแปนฟาวน์เดชั่น บนถนนสุขุมวิท 21 เพื่อลองดูว่ามีกิจกรรมอะไรน่าสนใจให้ทำบ้าง รับรองว่าสนุกแน่นอน!

พักผ่อนบรรยากาศแบบญี่ปุ่นในห้องรับแขกที่ตกแต่งด้วยเสื่อทาทามิในห้องพักแบบหนึ่งห้องนอน เลควิว
โรงแรมชามา เลควิว อโศก กรุงเทพฯ

โรงแรมชามา เลควิว อโศก กรุงเทพฯ และโรงแรมชามา สุขุมวิท กรุงเทพฯและตั้งอยูู่ในทำเลที่ใกล้ย่านพร้อมพงษ์ และสุขุมวิท ซึ่งเป็นย่านธุรกิจและที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ เที่ยวญี่ปุ่นช่วงวันหยุดได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องบินไปญี่ปุ่น ด้วยโปรโมชั่น “ซัมเมอร์ สตอรี่” เพียงจองผ่าน https://th.shama.com/hotel-deals  เพลิดเพลินบรรยากาศแบบญี่ปุ่นที่โรงแรมชามา เลควิว อโศก กรุงเทพฯ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,350 บาท++ ต่อคืน หรือโรงแรมใกล้ชุมชนชาวญี่ปุ่นที่โรงแรมชามา สุขุมวิท กรุงเทพฯในราคาเริ่มต้นเพียง 1,500 บาท++ ต่อคืน สำรองห้องพักได้ตั้งแต่ 1 เมษายน – 17 พฤษภาคม 2564 และเข้าพักได้จนถึง 31 ตุลาคม 2564 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.shama.com

สำหรับผู้ที่สนใจรับสิทธิพิเศษมากยิ่งขึ้น สามารถสมัครเป็นสมาชิกออนิกซ์ รีวอร์ดผ่านทาง www.onyx-rewards.com