อัลจาซีรา – กลุ่มกบฏฮูซีของเยเมนอ้างว่า พวกเขาได้โจมตีโรงงานผลิตน้ำมันอารามโก (Aramco) และระบบต่อต้านขีปนาวุธแพทริออต (Patriot) แต่ไม่มีการยืนยันจากริยาด
ฮูซีอ้างว่าพวกเขาใช้โดรนและขีปนาวุธโจมตีโรงงานน้ำมันและเป้าหมายทางทหารในเมืองจาซาน (Jazan) ทางตอนใต้ของซาอุดีอาระเบีย โดยโรงงานของอารมโก บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันของซาอุฯ ถูกไฟไหม้ในการโจมตีเมื่อวันพฤหัสบดี (15 เม.ย.)
โฆษกของฮูซี แถลงในกรุงซานาเมืองหลวงกล่าวว่า ขีปนาวุธและโดรน 11 ลูกมีเป้าหมายที่โรงงานของอาราม
ระบบต่อต้านขีปนาวุธแพทริออตและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ละเอียดอ่อนอื่น ๆ ในเมืองจาซานยังตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของฮูซี โฆษกทหารของฝ่ายกบฏกล่าวตามที่สถานีโทรทัศน์อัลมาซีราของฮูซีรายงาน
ไม่มีการยืนยันจากซาอุดีอาระเบียถึงเหตุเพลิงไหม้หรือผลกระทบใดๆ ต่อระบบต่อต้านขีปนาวุธแพทริออต
อย่างไรก็ตาม กลุ่มพันธมิตรทางทหารที่นำโดยซาอุดีอาระเบียในการรต่อสู้กับฮูซีในเยเมนได้ออกมากล่าวว่า เศษซากบางส่วนจากการสกัดกั้นโดรนสี่ตัวและขีปนาวุธห้าลูกที่ยิงในตลอดคืนและในช่วงเช้าตรู่ได้ตกลงภายในบริเวณมหาวิทยาลัยจาซาน
พันธมิตรฯ กล่าวในแถลงการณ์ว่า ไม่มีใครถูกสังหาร ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บในตอนนี้
ตุรกี อัลมาลิกี โฆษกพันธมิตรฯ ได้กล่าวโทษฮูซีสำหรับการโจมตีนี้ โดยกล่าวว่าขีปนาวุธและโดรนมีเป้าหมายเฉพาะยังพื้นที่พลเรือน และถูกปล่อยออกมาจากฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏในเมืองซะดา (Saada)
กลุ่มกบฏฮูซีที่เป็นแนวร่วมกับอิหร่านได้โจมตีโรงงานของอารมโกหลายครั้งในอดีต เน้นย้ำถึงความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันที่มีราคาแพงและมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของซาอุดีอาระเบีย
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กลุ่มกบฏได้โจมตีโรงงานอารมโกในกรุงเจดดาห์ด้วยขีปนาวุธ Quds-2 ทำให้หลุมในถังน้ำมันแตกและทำให้เกิดการระเบิดและไฟไหม้
การโจมตีเกิดขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ระหว่างกลุ่มกบฏและกองกำลังที่ภักดีต่อรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากริยาดในเยเมน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนักรบที่สนับสนุนรัฐบาลและฮูซีอย่างน้อย 70 คนถูกสังหารในการสู้รบอย่างดุเดือดเพื่อชิงเมืองมาริบ (Marib) ทางตอนเหนือของเยเมน
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ฮูซีพยายามที่จะยึดเมืองมาริบซึ่งเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคที่อุดมด้วยน้ำมันและดินแดนสำคัญแห่งสุดท้ายของรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากซาอุดีอาระเบียทางตอนเหนือ
สงครามหกปี
ความขัดแย้งที่ยาวนานหกปีในเยเมนเกิดขึ้นจากการยึดครองเมืองหลวงของฮุซีในปี 2014 ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องหนีออกจากเมือง
พันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียเข้าแทรกแซงทางทหารเพื่อสนับสนุนรัฐบาลที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลซึ่งถูกถอดโดยฮูซี
สำนักงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติระบุว่า สงครามนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 233,000 คน ซึ่งรวมถึง 131,000 คนจากสาเหตุทางอ้อม เช่น การขาดอาหาร บริการสุขภาพ และโครงสร้างพื้นฐาน
ริยาดต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อแคมเปญการทิ้งระเบิดทางอากาศที่ก่อให้เกิดในสิ่งที่สหประชาชาติกล่าวว่า “เป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดของโลก”