จากการจัดการ มหกรรมมวย “รวมพลคนจะนะ” ระหว่างวันที่ 8-9 เมษายน 2564 ณ สนามมวยชั่วคราว (สนามแข่งขันนกเขาชวาหวังดี) ตำบลตลิ่งชัน อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา มีการเชื่อมโยงการจัดมหกรรมมวยฯ ไปยังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสงขลาและประเทศไทย ศอ.บต.หนุนการจัดครั้งนี้ออกโรงชี้แจงไม่พบ “ผู้มีสารพันธุกรรมของไวรัส” ในกลุ่มเสี่ยงที่เข้าร่วมมหกรรมมวยฯ ทั้ง 258 ราย ยืนยันว่าไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากกรณีมหกรรมมวยจะนะ
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) องค์กรหลักจัดมหกรรมมวย “รวมพลคนจะนะ” ระหว่างวันที่ 8-9 เมษายน 2564 ณ สนามมวยชั่วคราว (สนามแข่งขันนกเขาชวาหวังดี) ตำบลตลิ่งชัน อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ชี้แจงรายละเอียดการจัดงานและผลการตรวจโควิดของผู้เกี่ยวข้องในงานดังกล่าว
ตามที่ มูลนิธิธงฟ้าช่วยคนยาก ร่วมกับศอ.บต. จังหวัดสงขลา, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ภาคเอกชนและภาคประชาชน จัดศึกมหกรรมมวย “รวมพลคนจะนะ” เพื่อส่งเสริมการจัดมวยไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอำเภอจะนะ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจและเป็นพื้นที่ที่สร้างนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงตลอดมา เพื่อส่งเสริมการใช้กีฬามวยไทยสร้างความรัก ความสามัคคีให้กับประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลา ที่มีภาวะตกต่ำและซบเซามาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โดยมหกรรมฯ ดังกล่าว เปิดให้ชมฟรีตลอดรายการ รายได้จากการรับบริจาค จัดสรรเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษา ในโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์สาธารณะของชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาและสวัสดิการ ศอ.บต. โดยมีการถ่ายทอดสด ทั้งรายการมวยทางช่อง TRUE 4U และททบ.5 และการไลฟ์สดผ่านสื่อออนไลน์จำนวนมาก การจัดการแข่งขันดังกล่าวได้เสร็จสิ้นเรียบร้อย และบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ทุกประการ
ภายหลังเสร็จสิ้นการจัดกิจกรรม ได้ปรากฎข้อมูลในสื่อมวลชนหลายแขนงเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมดังกล่าว สร้างความตระหนกและแตกตื่นแก่สาธารณชนและประเทศไทยเป็นอย่างมาก กล่าวคือมีความพยายามเชื่อมโยงการจัดมหกรรมมวยฯ ไปยังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสงขลาและประเทศไทย ซึ่งชุดข้อมูลที่สื่อสารไปยังประชาชนอย่างกว้างขวาง ทั้งสื่อกระแสหลัก/สื่อท้องถิ่น/สื่อบุคคลนั้น เป็นข้อมูลที่กล่าวได้ว่า ยังไม่มีการตรวจสอบอย่างรอบคอบชัดเจนว่า มีความถูกต้องและเป็นความจริงหรือไม่ ดังนั้น เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง สอดคล้องกับความเป็นจริงตามสถานการณ์ ของพื้นที่
ศอ.บต.ในฐานะหน่วยงานอำนวยการจัดหนึ่งองค์กร จึงให้ข้อมูลและชี้แจงกระบวนการจัดมหกรรมมวยฯ ให้ประชาชนและสื่อมวลชนได้รับทราบ ดังนี้
ประเด็นแรก การจัดมหกรรมมวยที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ใช้ระยะเวลาเตรียมการไม่น้อยกว่า 6 เดือน ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนที่สนับสนุนงบประมาณการจัดงานทั้งหมดอย่างเต็มที่เพื่อให้งานนี้เกิดขึ้นได้จริงตามการเรียกร้องของประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการให้เกิดการแข่งขันกีฬามวยที่ดีครั้งหนึ่งให้ได้ หากวัตถุประสงค์ที่แท้จริงอีกประการที่คณะผู้จัดฯ พยายามทำให้เกิดขึ้นให้ได้คือ การระดมทุนเพื่อการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาที่กำลังจะเปิดภาคเรียนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ให้น้อง ๆ เหล่านั้นได้มีค่าหนังสือ ค่าอุปกรณ์การเรียนการศึกษาและค่าใช้จ่ายทางการศึกษา ซึ่งมีการเตรียมการระดมคนให้เข้ามาร่วมชมให้ได้จำนวนมากถึง 2 หมื่นคนต่อวัน (ไม่เก็บค่าใช้จ่าย) มุ่งหวังที่จะให้ประชาชนทุกคนที่เข้าร่วมงานได้มีส่วนร่วมในการสร้างโอกาสแก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่ไปพร้อมกันด้วยการร่วมกันบริจาคเงินตามวัตถุประสงค์โดยพร้อมกัน
เนื่องจากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดอย่างมากในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 ทำให้การดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนดไม่เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ทุกประการ กลายไปเป็นการจัดมวยตู้และให้ผู้รับชมร่วมส่งแรงใจและแรงเชียร์ ผ่านหน้าจอโทรทัศน์ ณ บ้านตนเอง หากผู้จัดสามารถระดมเงินบริจาคจากภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุน ผ่านมูลนิธิธงฟ้าช่วยคนยาก เป็นจำนวนถึง 1.54 ล้านบาท ผ่านนายวิชัย โภชนกิจ ประธานมูลนิธิธงฟ้าช่วยคนยากเป็นผู้รับมอบเงินบริจาคด้วยตนเอง และจะได้ดำเนินการส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้ ศอ.บต. เพื่อนำไปมอบให้เป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา กว่า 40 คน ใน 42 โรงเรียน คาดว่าจะมีการจัดงานมอบทุนการศึกษาในโอกาสที่โรงเรียนเปิดเทอมเพื่อนำความปรารถนาดีส่งมอบต่อให้กับบุตรหลานของพี่น้องประชาชนในอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
ประเด็นที่ 2 ผู้จัดและหน่วยงานเกี่ยวข้อง เน้นย้ำข้อมูลการบริหารจัดการการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ไว้อย่างรัดกุม เข้มงวดและเคร่งครัดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ในพื้นที่เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในการแข่งขันมหกรรมมวย “รวมพลคนจะนะ” ดังนี้
ก่อนการแข่งขัน 1) กำหนดจัดการแข่งขันแบบไม่มีผู้ชมในสถานที่แข่งขัน โดยให้ชมผ่านการถ่ายทอดสด (2) สถานที่จัดการแข่งขัน เป็นสถานที่กว้างขวาง โล่งแจ้ง อากาศถ่ายเทได้ดี (3) อนุญาตให้ผู้เข้าไปในสถานที่จัดงาน เฉพาะเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยจัดวงรอบเป็น 3 วง วงในสุด เฉพาะเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงและมีผลการตรวจเชื้อ โควิด-19 วงถัดมาเป็นเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ วงสุดท้ายเป็นเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องจากพื้นที่อื่น (4) เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องทุกคน ต้องปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด (5) มีการซักซ้อมมาตรการก่อนจัดการแข่งขัน เพื่อค้นหาจุดเสี่ยง และดำเนินการแก้ไข
ขณะแข่งข้น (1) ดำเนินตามมาตรการที่กำหนดอย่างเข้มงวด (2) จัดเก็บข้อมูล ชื่อ สกุล ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ ผู้เกี่ยวข้องทุกคนในสถานที่แข่งขันฯ (3) จัดการแข่งขันชกมวยแบบไม่มีผู้ชมในสถานที่แข่งขัน โดยให้ชมผ่านการถ่ายทอดสด
หลังการแข่งขัน (1) จัดระบบการเฝ้าระวัง เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องในการแข่งขันทั้งหมดอย่างน้อย 14 วัน (2) วันที่ 12 เมษายน 2564 ( 5 วันหลังการแข่งขัน ได้รับรายงานจากจังหวัดกระบี่ พบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 จำนวน 2 ราย มีไทม์ไลน์เข้าร่วมการแข่งขันชกมวยในสนามมวยจะนะ ในวันที่ 8 เมษายน 2564 โดยเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 และเดินทางเข้าจังหวัดกระบี่ วันที่ 9 เมษายน 2564 (3) ผู้จัดการแข่งขันได้จัดส่งรายชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ให้ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสงขลา เพื่อจัดกลุ่มควบคุมการแพร่ระบาดของผู้ป่วย และสื่อสารข้อมูลแก่จังหวัดอื่นตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังการแข่งขันตามข้อ (2) คณะผู้จัดงานร่วมกับ ศอ.บต. ได้ประสานตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว พบว่า มีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลไทม์ไลน์ของผู้ได้รับเชื้อโควิด-19 รายที่ 36 และ 38 ตามข้อมูลระบุในวันที่ 8 เมษายน 2564 เวลา 17.00 น. ว่าได้เดินทางไปงานมหกรรมมวยฯระหว่างเวลา 17.00-21.00 น. โดยบุคคลแวดล้อม ในพื้นที่จัดงานมากกว่า 10 คน, บุคคลใกล้ชิดในกลุ่มที่เดินทางไปด้วยกันรวมทั้งเจ้าตัวทั้ง 2 ราย ให้การยืนยันตรงกันว่า “ไม่ได้ไปร่วมมหกรรมมวยฯ” และมีไทม์ไลน์เช่นเดียวกับผู้ได้รับเชื้อโควิด-19 รายที่ 37 ซึ่งเดินทางมาด้วยกันและทำกิจกรรมร่วมกันตลอด ต่อมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ จึงมีการแก้ไขปรับปรุงไทม์ไลน์ของผู้ได้รับเชื้อโควิด-19 รายที่ 36 และ 38 ให้ถูกต้อง เป็นจริง
ศอ.บต.ขอยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงให้มีการแก้ไขข้อมูลข้างต้น เนื่องจากคณะผู้จัดฯ ตระหนักดีว่าเรื่องโรคการแพร่ระบาดเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดกว่าสิ่งใด เพราะเกี่ยวพันกับสุขภาพและชีวิตของประชาชน ดังนั้น ต้องไม่มีการกระทำใดใดที่นำไปสู่การให้ข้อมูลเท็จ หรือบิดเบือนข้อมูล เพราะจะเกิดกระทบเชิงลบในเชิงกว้างจากข้อมูลที่ผิดพลาดไป ส่งผลให้เป้าหมายการรักษาไม่เป็นความจริงและจะกลายเป็นปัญหาลุกลามต่อไป
ประเด็นที่ 3 เพื่อเป็นการยืนยันว่ามหกรรมมวยจะนะ มิใช่คลัสเตอร์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามที่หลายฝ่ายพยายามให้เป็น เพื่อประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใดนั้น เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 ได้มีการขี้แจงผลการตรวจกลุ่มเสี่ยงที่เข้าร่วมมหกรรมมวยฯ จำนวนทั้งสิ้น 258 ราย และส่งไปตรวจพิสูจน์ทางห้องปฏิบัติการ (Lab) ของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ปรากฎผลอย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 21.00น. ของวันเดียวกัน ว่า “Undetectable” หรือ “ไม่พบผู้มีสารพันธุกรรมของไวรัส” ในกลุ่มเสี่ยงที่เข้าร่วมมหกรรมมวยฯ ทั้ง 258 ราย จึงเป็นการยืนยันว่าไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากกรณีมหกรรมมวยจะนะ
ประเด็นที่ 4 แม้ว่าจะเกิดปรากฏการณ์ข่าวเป็นจำนวนมากทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุและสื่อออนไลน์ถามหาความรับผิดชอบจาก ศอ.บต. ในฐานะหน่วยงานร่วมจัด ศอ.บต. ขอเรียนว่า ก่อนและหลังการจัดงานเป็นต้นมา ศอ.บต. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้นิ่งนอนใจแม้สักวินาทีเดียวแต่ทำงานในหลาย ๆ เรื่องเพื่อสนับสนุน ส่งเสริมและร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งเฉพาะหน้าและต่อเนื่องตามที่นำเรียนไปเป็นข้อมูลข้างต้นว่า “สุขภาพและชีวิตของประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”
“ศอ.บต.ได้ทำหน้าที่ประสานและทำงานร่วมกับทีมงานสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ผ่าน “ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โควิด-19 กรณีมหกรรมมวย “รวมพลคนจะนะ ” ภายใน ศอ.บต. เพื่อเป็นศูนย์กลางการประสานและดำเนินการร่วมกันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการรายงานข้อมูลข่าวสารจากทีมงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำหนดทีมงานรับผิดชอบเป็นการเฉพาะตามที่จะมีการประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยมีการทำงานที่สำคัญ อาทิ การจัดทีมประสานงานการนำประชาชน และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับมหกรรมมวยจะนะ ไปเข้ารรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 การร่วมประสานบุคคลแวดล้อมในพื้นที่จัดงานและบุคคลใกล้ชิดในกลุ่มที่เดินทางไปด้วยกัน เพื่อยืนยันการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เป็นแผนในการทำงานที่ถูกต้องในระยะต่อไป รวมทั้ง ยังประสานให้การสนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้รับการสนับสนุนและทำให้จังหวัดสงขลามีความพร้อมของสถานที่โรงพยาบาลสนามรองรับได้ตามเป้าหมายของจังหวัดแล้ว”
เนื่องจากการทำงานบนข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและข้อมูลที่ยังไม่มีการตรวจสอบยืนยันว่าถูกต้อหรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องที่ ศอ.บต. ให้ความตระหนักเป็นลำดับแรกในฐานะหน่วยงานของรัฐที่ต้องทำงานอย่างมืออาชีพ ด้วยกระบวนการจัดการบนฐานข้อมูลที่ดี ถูกต้องและตกผลึกจากทุกฝ่ายแล้ว เชื่อมั่นว่าจะนำไปสู่กระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างประเด็นการสื่อสารสาธารณะ ที่ตรงไปตรงมาบนฐานความถูกต้องและน่าเชื่อถือ ทำให้กระบวนการแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ไม่เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะการไม่สร้างความตระหนกและตื่นกลัวให้กับประชาชนในสภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 เช่นนี้ เพราะความตระหนกตกใจจะสร้างผลเสียในเชิงกว้างอย่างที่ประมาณค่ามิได้ ซึ่งทุกฝ่ายควรจะร่วมมือกันไม่สร้างปรากฎการณ์ข่าวเท็จ-ข่าวปลอม ที่ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดหวั่นและหวาดกลัว และร่วมตรวจสอบยืนยันข้อมูลการทำงานร่วมกันตลอดเวลาเพื่อให้หน่วยงานและประชาชนทุกคนสามารถปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมท่ามกลางวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 เช่นในปัจจุบัน
ประเด็นสุดท้าย การทำงานทั้งหมดที่เกิดขึ้น ล้วนเกิดขึ้นจากความเหน็ดเหนื่อยและความเพียรพยายามร่วมมือ-ร่วมใจของทุกฝ่ายที่ลงมือปฏิบัติทำงานและร่วมกันแก้ไขปัญหาเพื่อนำไปสู่การวางแนวทางการปฏิบัติที่ดีในการทำงานครั้งต่อไป ศอ.บต. รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจและความทุ่มเทอย่างเต็มที

กองบรรณาธิการ, โต๊ะข่าวชายแดนใต้