เวเนซุเอลาได้ปล่อยตัวชาวอเมริกันสองคนที่ถูกคุมขังหลังการเจรจาทางการทูตระหว่างผู้นำประเทศ นิโคลัส มาดูโร กับคณะผู้แทนสหรัฐ
เจ้าหน้าที่อเมริกันกล่าวว่าการปล่อยตัวนักโทษไม่ได้ผูกติดอยู่กับข้อตกลงใดๆ ที่สหรัฐจะเริ่มต้นการซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของรัสเซียในภูมิภาค เดอะนิวยอร์กไทมส์รายงาน
เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ บอกกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทส์ว่า ชาวอเมริกันที่ได้รับการปล่อยตัว ได้แก่ กุสตาโว คาร์ดินาซ ผู้บริหารบริษัทน้ำมันอเมริกาสาขาเวเนซุเอลา และ จอร์จ อัลแบร์โต เฟอร์นันเดซ
นายเฟอร์นันเดซ ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายคิวบา ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายในข้อหานำโดรนเข้ามาในประเทศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021
การเจรจาของสหรัฐฯกับเวเนซุเอลา ซึ่งมีน้ำมันสำรองจำนวนมาก เกิดขึ้นท่ามกลางการคว่ำบาตรของสหรัฐและชาติพันธมิตรต่อรัสเซีย หลังปูตินสั่งโจมตียูเครน
โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศในวันอังคาร (8มี.ค.) ว่า สหรัฐจะคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย
“เราจะห้ามการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย ซึ่งหมายความว่ารัสเซียจะไม่สามารถส่งน้ำมันมายังท่าเรือสหรัฐอีกต่อไป” ปธน.ไบเดนกล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว
ปธน.ไบเดนคาดการณ์ว่า ผลจากมาตรการดังกล่าวจะทำราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นต่อไป แต่เขาให้สัญญาว่าจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อลดผลกระทบต่อชาวอเมริกัน
“นี่เป็นขั้นตอนที่เรากำลังดำเนินการเพื่อสร้างความเจ็บปวดให้ปูตินมากขึ้น แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายเช่นกันสำหรับสหรัฐอเมริกา” นายไบเดนกล่าว
มีชาวอเมริกันอีกอย่างน้อยแปดคนที่ถูกคุมขังในเวเนซุเอลาในข้อหาต่างๆ ตั้งแต่การก่อการร้ายไปจนถึงการยักยอกเงิน ตามรายงานของนิวยอร์กไทส์
ก่อนหน้านี้ เจน ซาซากิ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวถึงจุดประสงค์ของการเจรจาว่าเป็นการหารือเรื่อง “ความมั่นคงด้านพลังงาน” และชาวอเมริกันที่ถูกจำคุก
นายมาดูโรอธิบายว่าการเจรจาดังกล่าว “ให้เกียรติ จริงใจ และเป็นทางการมาก” และกล่าวว่าการเจรจาจะดำเนินต่อไป
“ที่นี่มีน้ำมันของเวเนซุเอลา มีให้สำหรับทุกคนที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนจากเอเชีย ยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา” ประธานาธิบดีของเวเนซุเอลากล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
การส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาถูกบอยคอตโดยรัฐบาลของทรัมป์โดยอ้างการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศนี้
