จากคำประกาศลั่นกลองจัดระเบียบราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล หวังคืนความสุขให้นักเสี่ยงโชคจากตัวเลยในสนนราคา 80บาท
หากแต่ดูแล้วคำสั่งนี้ เหมือนจะไม่ค่อยได้รับการตอบรับจากกองสลากเสียเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่มหาศาลซึ่งคงไม่ได้จำกัดอยู่แค่วงใน ของกองสลากเอง หากแต่เค้กก้อนนี้ถูกแจกจ่ายอย่างทั่วถึงทั้งบรรดายี่ปั๊ว กลุ่มก้อนที่คอยเกื่อหนุนกันมาแต่โบร่ำโบราณ
และด้วยประเพณีการ อุปถัมภ์ค้ำชูกันอย่างเป็นระบบนี้เอง ทำให้ผลตอบรับของนโยบายลดราคาหวยของคสช.ต้องสะดุกกึกกั๊ก ทั้งที่หากจะแก้ไขกันจริงๆแล้วก็ไม่น่าจะยากเย็นอะไรนัก และที่สำคัญหากแก้ไขได้จริงดั่งใจหวังเชื่อว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์กับบรรดา ผู้ประกอบอาชีพขายสลากกินแบ่งกันอย่างทั่วหน้า
แต่ก็นั่นแหละ..เมื่อ ผลประโยชน์มันค้ำคอกันถึงขนาดนี้จะทำอะไรก็ “ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก” เป็นธรรมดา เพราะห่วงโซ่อาหารเส้นนี้มันทั้งยาวและแข็งกว่าที่คนภายนอกจะคาดคิดได้ถึง ฉะนั้นจึงไม่ต้องมาถามหาความจริงใจเอาจากใครแล้ว ซึ่งจะว่าไปปัญหาส่วยนี่ก็ถึอเป็นปัญหาสุดคลาสสิคของสยามประเทศอยู่แล้ว จะแปลกใจบ้างก็ตรงที่เดือนกว่าๆที่ผ่านมาเราเห็นการเชือดไก่กันไปหลายตัว แต่เรื่องนี้กลับยังดูแบะๆอย่างไรก็มิทราบได้
เรื่องนี้ แค่จัดระเบียบผู้ค้า หรือ ผู้ขายหวย หรือผู้ต้องการยึดอาชีพขายหวย ให้มาขึ้นทะเบียนประกอบอาชีพทั่วประเทศ จะมีกี่แสนรายก็ให้มาขึ้นทะเบียนให้หมด แล้วเฉลี่ยโควตาให้ผู้ประกอบอาชีพหลายแสนคนเท่าๆ กัน มารับซื้อจากกองสลากฯ ในราคาส่ง 65 หรือ 70 บาท โดยเลิกยี่ปั๊ว ซาปั๊ว เรื่องก็จบ และเป็นการกำจัดมาเฟียกองสลากฯ ให้หมดสิ้นไปด้วย เพราะมาเฟียกองสลากฯ จะโยงใยกับแก๊งยาเสพติด
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าประชาชนส่วนมากก็ยังคงให้กำลังใจ ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และเชื่อว่าการ เดินหน้าปราบปรามมาเฟียกองสลากฯ จะไม่ใช่เรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรงอะไรนักกลับมาขึ้นทะเบียนประชาชนที่จะยึด อาชีพขายหวย ให้เขามีงานทำ มีรายได้ ประชาชนทั่วไปที่ซื้อหวยก็ซื้อได้ในราคา 80 บาททั่วประเทศ อย่างนี้สุขกันถ้วนหน้าคนดีมีอาชีพ ส่วนอะไรไม่ดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกรรมไป… “ช่างหัวมัน”