อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง เผยกลยุทธ์สำหรับปี 2566 เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของธุรกิจไทยผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ในงาน ‘Amazon Global Selling Thailand Business Accelerator 2022’ ที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่
- แหล่งข้อมูลใหม่ ๆ ช่วยให้ธุรกิจไทยสร้างแบรนด์ในตลาดอื่น ๆ ทั่วโลกได้มากขึ้น ด้วยการสนับสนุนของ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง เข้าถึงแหล่งข้อมูลและเครื่องมือสนับสนุนในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ
- ครั้งแรกในการจัดงาน Business Accelerator ที่จังหวัดเชียงใหม่ เสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นใช้ประโยชน์จากอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนและเข้าถึงลูกค้าตลาดโลก
ทีมอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ในประเทศไทย ยังคงนำเสนอเครื่องมือและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อช่วยให้ธุรกิจในประเทศไทยสร้างแบรนด์ให้เติบโตในระดับสากล งาน ‘Amazon Global Selling Thailand Business Accelerator 2022’ เริ่มขึ้นที่กรุงเทพฯ ในวันนี้ และจะจัดขึ้นที่เชียงใหม่เป็นครั้งแรกในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ โดยงานนี้ให้ความสำคัญกับผู้สร้างแบรนด์ ผู้ผลิต และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มีเป้าหมายเพื่อนำเสนอโอกาสให้แก่ธุรกิจไทยในการรวบรวมข้อมูลทั่วไป ขัอมูลเชิงลึก ทักษะ และเครื่องมือที่จะสามารถนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อยกระดับการเติบโตในด้านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
โดยได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย คุณโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค กล่าวเปิดงาน และแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับศักยภาพด้านเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อเมซอน จะเดินหน้าส่งเสริมศักยภาพให้ธุรกิจในประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยให้บริการแบรนด์ในทุกระดับทั้งผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเสริม ไปจนถึงธุรกิจที่ต้องการเร่งการเติบโตผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SME เกือบ 2 ล้านรายบนอเมซอน ที่เป็นผู้ประกอบการอิสระซึ่งคิดเป็นจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ขายบนร้านค้าของอเมซอน
จากการสำรวจโดย AlphaBeta ในต้นปี 2565 พบว่ามูลค่าของยอดขายอีคอมเมิร์ซในรูปแบบธุรกิจสู่ผู้บริโภค (B2C) ที่บริษัทในประเทศไทยได้รับจากการขายสินค้าในต่างประเทศมีศักยภาพเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2570 หากธุรกิจเหล่านี้ยังมุ่งสร้างตลาดในอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ส่วนแบ่งของยอดขายอีคอมเมิร์ซสําหรับ Micro-SMEs คาดว่าจะอยู่ที่ 31% ในปี 2565 และมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 79% ภายในปี 2570
ในปีนี้จนถึงเดือนตุลาคม ผู้ขายชาวไทยสร้างยอดขายด้วยจำนวนผลิตภัณฑ์มากกว่า 5 ล้านชิ้นให้แก่ลูกค้าทั่วโลกผ่านร้านค้าบนอเมซอน
“กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ร่วมมือกับ Amazon Global Selling Thailand อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยสนับสนุน SME ไทย สู่ตลาดการค้าออนไลน์อย่างครบวงจร ในปี 2566 กรมมีแผนงานร่วมกับ Amazon Global Selling Thailand ในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยโดยการจัด Roadshow และ Workshop ด้านการค้าออนไลน์ในทุกภูมิภาค เพื่อส่งเสริมสินค้าศักยภาพของไทยขึ้นขายบนช่องทาง Amazon และขยายสู่ตลาดอื่นๆ ต่อไป อันจะเป็นการประกาศศักยภาพสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ” นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าว
อนันต์ ปาลิต หัวหน้า อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า SME หลายรายที่กำลังขายสินค้าออนไลน์กําลังเตรียมพร้อมสําหรับโอกาสและการมีส่วนแบ่งตลาดจากการขายสินค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่กำลังเติบโตอย่างเต็มที่ ดังนั้นธุรกิจไทยควรที่จะคว้าโอกาสเพื่อใช้ประโยชน์ในตอนนี้
“มีโอกาสมากมายในตลาดทั่วโลก และอเมซอนนําเสนอเครื่องมือและบริการที่สามารถช่วยให้ธุรกิจไทยสร้างรากฐานเพื่อเร่งยอดขายไปทั่วโลก”
“กลยุทธ์ของเราที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยประสบความสําเร็จในปีหน้า คือการแนะนำเครื่องมือ ทรัพยากร และเพิ่มการสนับสนุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการอิสระในการวางเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ และทําให้ให้อเมซอนเป็นหนึ่งในที่ ๆ ดีที่สุดในการสร้างแบรนด์ให้เติบโต เป้าหมายของเรายังรวมถึงความร่วมมือที่มากยิ่งขึ้นกับทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมความสําเร็จให้แก่ธุรกิจไทยในอนาคต”
โครงการริเริ่มหลัก 4 ประการ ได้แก่ 1) สนับสนุนธุรกิจไทยในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลข้ามพรมแดนผ่านขนาดและทรัพยากรระดับโลกของอเมซอน ในปัจจุบันอเมซอนครอบคลุมร้านค้า 22 แห่ง จัดส่งผลิตภัณฑ์ไปยังกว่า 200 ประเทศ และมีศูนย์จัดการคลังสินค้ามากกว่า 400 แห่งทั่วโลก สิ่งเหล่านี้คือโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดที่ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์ได้ 2) บ่มเพาะผู้ประกอบการและสนับสนุนความสําเร็จของผู้สร้างแบรนด์ การขายทั่วโลกจะช่วยยกระดับโปรแกรมผู้ขาย และจะขยายโอกาสสําหรับผู้ขายในการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนทั้งออนไลน์และออฟไลน์ 3) เปิดตัวเครื่องมือและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจไทย เช่น เครื่องมือเพื่อการสร้างแบรนด์ เช่น Brand Registry และ Brand Stores, Premium A+ Content, เครื่องมือการเลือกสินค้า Product Opportunity Explorer และ 4) การมอบสิ่งจูงใจจากอเมซอน เพื่อให้ธุรกิจไทยเริ่มต้นบนเส้นทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เช่น การมอบสิทธิประโยชน์ด้วยมูลค่าสูงสุดถึง 50,000 เหรียญสหรัฐในการสนับสนุนผู้ขายรายใหม่ ซึ่งประกอบด้วย Fulfillment by Amazon และเครดิตสำหรับการโฆษณาสินค้าบน Amazon เพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถเริ่มต้นเส้นทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้ง่ายขึ้น
เจมี่ เบรนแนน หัวหน้า อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “อเมซอนมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อประโยชน์ของผู้ขายสินค้า โดยมุ่งเน้นที่การสร้างการเติบโตและโอกาสสําหรับธุรกิจในประเทศไทย ผ่านการสร้างความรู้ความเข้าใจและความร่วมมือต่าง ๆ เราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น DITP เพื่อร่วมกันสร้างการเปลี่ยนผ่านสู่อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนและจะผลักดันความพยายามเหล่านี้ต่อไปในปี 2566 นอกจากนี้ เรายังสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศไทยให้เข้าร่วมในโครงการ Climate Pledge Friendly ของ Amazon เพื่อร่วมกันส่งเสริมรูปแบบการพัฒนาที่ยั่งยืน”
มีผู้คนมากกว่า 28,000 คนที่ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนคู่ค้าด้านการขายในการสร้างธุรกิจในร้านค้าของอเมซอน และอเมซอนยังคงขยายและอัปเดตเนื้อหาความรู้ต่าง ๆ ใน Amazon Seller University อย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนอแหล่งข้อมูลด้านการศึกษาแบบดิจิทัลและแบบตัวต่อตัวแก่ผู้ประกอบการและผู้ขายในระยะเริ่มต้น ทีมอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ในประเทศไทย ได้นำประโยชน์จากทรัพยากรในระดับโลกเหล่านี้เพื่อมอบบริการเฉพาะแก่ SME ในประเทศไทย เช่น Seller Support และเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยใน Seller University ทีมงานมุ่งมั่นในการช่วยธุรกิจไทยให้เข้าถึงและขยายตลาดในระดับสากลด้วยการนำเสนอสินค้าไปทั่วโลกผ่านเว็บไซต์อเมซอน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง สามารถดูได้ที่ https://sell.amazon.co.th/