วันนอร์-ทวีโหมปราศรัยเวทีคู่ขนานอ้อนชาวนราฯ เลือกพรรคประชาชาติ ชูสร้าง พรบ.สันติภาพ ผู้ฟังเหนียวแน่นแม้มีฝนตก

วันมูหะมัดนอร์ มะทา หน.พรรคประชาชาติ จับมือพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค โหมปราศรัยเวทีคู่ขนานปิดจ๊อบอ้อนชาวนราฯ ชูสร้าง พรบ.สันติภาพ ผู้ฟังเหนียวแน่นแม้มีฝนตก

เมื่อเวลา 20.00 น. ของคืนวันที่ 9 พ.ค.66 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หน.พรรคประชาชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นำคณะพรรคประชาชาติ ขึ้น 2 เวทีคู่ขนานปราศรัยใหญ่

เวทีแรกบริเวณสนามฟุตบอลบ้านจำปากอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เพื่อหาเสียงให้กับนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 5 เบอร์ 4 และเวทีปราศรัย บริเวณลานเอนกประสงค์ อบต.ดุซงญอ อ.จะแนะ เพื่อหาเสียงให้กับนายกูเฮง ยาวอหะซัน ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 4 เบอร์ 3

ทั้ง 2 เวทีมีประชาชนมาร่วมรับฟังเวทีละ ประมาณ 6,000 คน ท่ามกลางฝนตกลงมาแต่ก็ยังเหนียวแน่นในการฟังนโยบาย ต่างพากันปรบมือเป็นระยะๆ แสดงความชื่นชมนโยบายพรรคประชาชาติ ที่มีความตั้งใจจะแก้ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชน ที่ตกทอดมาช่วงลูกช่วงหลานออกจากป่า ที่ทับซ้อนกับเขตอุทยานแห่งชาติ ครูโรงเรียนตาดีกาหรือโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา หรือ อุสตาซ จะมีเงินเดือนๆละ 15,000 บาท และเพิ่มภาษามลายูเป็นภาษาราชการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประเทศในกลุ่มมุสลิมเขายังใช้ภาษามลายูเป็นภาษาราชการ ประการสำคัญจะยุบกฎอัยการศึกและพรก.ฉุกเฉิน โดยใช้ พรบ.สันติภาพแทน

โดยทั้ง 2 เวทีคู่ขนานทางพรรคได้ปิดการปราศรัยในเวลา 02.00 น.หรือใช้เวลานานประมาณ 7 ชั่วโมง

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า “การหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย เราต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ผมเชื่อประชาชน 80% ตัดสินใจไปแล้ว แต่ว่าอีก 20% ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะถูกพรรคคู่แข่งใส่ร้ายป้ายสี ต้องเร่งไปทำความเข้าใจ”

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า “ภาคใต้จะมีปัญหาที่มีคำถามแต่ไม่มีคำตอบสักทีว่าเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อไหร่จะจบลง ที่พี่น้องทั้งไทยพุทธและมุสลิมจะอยู่กันอย่างในอดีต”

“พรรคประชาชาติเรามีนโยบายมีความมุ่งมั่น จะเป็นพรรคที่แก้ปัญหาความไม่สงบให้ยั่งยืน แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับว่าเราจะต้องมีขบวนการสันติภาพ ซึ่งขบวนการสันติภาพที่ผ่านมาอาจจะเพียงแค่การพูดกันแล้วไม่มีการปฏิบัติ แล้วหลายคนก็อาจจะรู้อยู่แล้วว่ามีประเด็นแต่ไม่ยอมเอาประเด็นมาศึกษา ซึ่งพรรคประชาชาติก็จะผลักดันในเรื่องขบวนการปรึกษาหารือกับประชาชน ในขบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ”

“โดยสิ่งหนึ่งที่หนีไม่พ้นเราอาจจะต้องทำกฎหมายกลางขึ้นมาที่เรียกว่า พระบัญญัติขบวนการสันติภาพ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ก็จะเป็นคณะพูดคุย ซึ่งจะเป็นนายทหารคนนั้นคนนี้แอบไปคุยกันโดยที่ประชาชนไม่รู้ ถ้าขบวนการสันติภาพที่มีโครงสร้างบุคคลทุกศาสนิกเข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ปัญหาโดยใช้ความมั่นคงของรัฐนำหน้าโดยไม่เห็นความมั่นคงของประชาชน เลยทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจังหวัดที่มีความเหลื่อมล้ำมีความยากจนที่สุด ดังนั้นสิ่งที่จะต้องแก้ปัญหาระยะสั้นที่จะตามมาก็คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง คนในพื้นที่ อาจจะต้องผลักดันพระบัญญัติประชามติจังหวัดจัดการตัวเอง รวมไปถึงอาจจะต้องทำประชามติกฎหมายสำคัญๆ หรือเหตุการณ์สำคัญๆ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยโดยตรงเกิดการยอมรับ และนี่คือการสร้างสันติภาพ” พ.ต.อ.ทวี กล่าว