พาณิชย์–DITP ผนึกกำลังภาคเอกชน เปิดประตูสู่แดนมังกร ติดอาวุธผู้ประกอบการไทยลุยขยายฐานตลาดจีน

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ จับมือคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จัดเสวนาออนไลน์ “เปิดประตูแดนมังกร : โอกาสสินค้าและบริการไทย” เร่งเครื่องบุกตลาดจีน คู่ค้าอันดับ 1 ของไทย ยกทัพกูรูถ่ายทอดองค์ความรู้ ข้อมูลเชิงลึกด้านการตลาดและกลยุทธ์ พร้อมประสบการณ์ตรงจากผู้ส่งออกมืออาชีพ หนุนผู้ประกอบการไทยต่อยอดขยายโอกาสสินค้าและบริการไทยให้ปัง! ในตลาดจีน

สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ สถาบัน NEA กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จัดงานเสวนา “เปิดประตูแดนมังกร : โอกาสสินค้าและบริการไทย” โดยได้รับเกียรติจาก นางอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยถ่ายทอดออนไลน์ผ่านระบบ Zoom และ Facebook live สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่

นางอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เพื่อขับเคลื่อนการส่งออกไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน กระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนดยุทธศาสตร์รุกตลาดเดิม เปิดเพิ่มตลาดใหม่ และขยายการส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดโลก การสร้างจุดแข็งให้สินค้าและบริการไทยด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยี และการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในบริบทด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งเป็นความท้าทายที่ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์การค้าในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 และเป็นตลาดส่งออกหลักของไทยที่ยังมีช่องทางขยายโอกาสทางการค้าได้อีกมาก

สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ สถาบัน NEA กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จัดงานเสวนา “เปิดประตูแดนมังกร : โอกาสสินค้าและบริการไทย” เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ภาพรวมเศรษฐกิจจีน โอกาสและความท้าทายของตลาดจีนผ่านมณฑลยูนนาน ในฐานะประตูสู่แดนมังกร การส่งออกในรูปแบบการค้าปกติและการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนในตลาดโลก (Cross-border e-Commerce) เส้นทางการขนส่งและโลจิสติกส์ รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางธุรกิจและข้อแนะนำจากภาคเอกชน ตลอดจนการเผยแพร่บทบาท ยุทธศาสตร์ และกิจกรรมของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ที่เป็นประโยชน์ด้านการส่งออกให้กับผู้ประกอบการไทย

นางอารดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2565 จีนยังคงเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง และเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 2 ของไทย การค้ารวมระหว่างไทย-จีน มีมูลค่า 105,211.93 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 1.34 โดยเป็นการส่งออก 34,400.77 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้า 70,811.16 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าหลักที่ไทยส่งออกไปยังจีน 5 อันดับแรก ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและอบแห้ง ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ โดยปัจจุบันผู้บริโภคจีนให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีคุณภาพ นวัตกรรม และรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของผู้ประกอบการไทยที่จะต้องปรับตัวเพื่อรักษาตลาดและขยายธุรกิจเพิ่มเติมในจีน

สำหรับงานเสวนา “เปิดประตูแดนมังกร : โอกาสสินค้าและบริการไทย” ที่จัดขึ้นในวันนี้ (28 สิงหาคม 2566) เป็นการวิเคราะห์เจาะลึก อัปเดตสถานการณ์เทรนด์การค้า ตลอดจนโอกาสและความท้าทายของสินค้าและบริการไทยในตลาดจีน ในประเด็นที่เกี่ยวกับบทบาทของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ในการผลักดันการส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดโลก และเปิดประตูแดนมังกร: โอกาสสินค้าและบริการไทย โดยวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน จากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน มาร่วมวิเคราะห์เจาะลึก พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้และเคล็ดลับให้ผู้ประกอบการไทยในการเจาะตลาดจีน

“จีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและแข่งขันสูง ผู้ส่งออกจำเป็นต้องรู้ข้อมูลเชิงลึก เพื่อปรับตัวให้ทันกับการค้ายุคใหม่ ซึ่งงานเสวนาเปิดประตูแดนมังกร : โอกาสสินค้าและบริการ นับเป็นก้าวสำคัญที่จะพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทย ด้วยการเสริมสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับโอกาสทางการค้าและการลงทุน เช่น กฎระเบียบทางการค้าของจีนที่ผู้ส่งออกต้องรู้ ทิศทางตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคชาวจีนในปัจจุบัน โอกาสของสินค้าไทยและประเภทสินค้าที่ตลาดจีนต้องการ รวมถึงกรณีศึกษาและประสบการณ์ตรงจากผู้ส่งออกมืออาชีพ ที่จะช่วยสนับสนุนและเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยประสบความสำเร็จในตลาดจีน ต่อไป” รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว

สำหรับผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจขยายโอกาสทางการค้าในต่างประเทศ สามารถอัปเดตข้อมูลข่าวสารได้ที่ Facebook: สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 084-215-1934