ขยายโอกาสแก่ธุรกิจส่งออกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในหลากหลายอุตสาหกรรม
เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (FedEx Express) บริษัท ในเครือเฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (FedEx Corp.) (NYSE: FDX) หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการขนส่งสินค้าด่วนที่ใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศเปิดเที่ยวบินใหม่สำหรับการจัดส่งสินค้าและพัสดุซึ่งสามารถย่นระยะเวลาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับบริการระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม รวมไปถึงภาคพื้นอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป
เที่ยวบินจัดส่งสินค้าเส้นทางใหม่นี้ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2566 ด้วยเครื่องบินบรรทุกสินค้ารุ่น B767 ซึ่งมีกำหนดการบิน 4 วันต่อสัปดาห์ ในช่วงเวลาเย็น เพื่อขนส่งสินค้าจากเมืองโฮจิมินห์ไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียและยุโรป โดยจะนำส่งสินค้าไปยังศูนย์กระจายสินค้าของ เฟดเอ็กซ์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน ธุรกิจส่งออกที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนามจะได้รับผลพลอยได้ในการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วขึ้น โดยสินค้าจะถูกจัดส่งมายังประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียภายใน 1 วันทำการ และไปยังทวีปยุโรปภายใน 2 วันทำการ*
เที่ยวบินที่เพิ่มมาใหม่นี้เป็นการขยายขีดความสามารถจากปัจจุบันที่มีเที่ยวบินสำหรับการจัดส่งสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และอเมริกาอยู่แล้ว 5 เที่ยวบิน โดย 4 เที่ยวบิน จะนำส่งสินค้าในช่วงเช้า ผ่านศูนย์กระจายสินค้าของ เฟดเอ็กซ์ ประจำภูมิภาคแปซิฟิกใต้ที่ประเทศสิงคโปร์ และอีกหนึ่งเที่ยวบินจะส่งสินค้าในช่วงเย็น ผ่านศูนย์กระจายสินค้าของ เฟดเอ็กซ์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยจะมีเที่ยวบินขนส่งสินค้าออกจากเมืองโฮจิมินห์ทั้งสิ้น 9 เที่ยวบิน ต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ เฟดเอ็กซ์ จะยังคงเดินหน้าสนับสนุนและผลักดันธุรกิจต่าง ๆ ในภูมิภาค ให้สามารถเติบโตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพต่อไป
ศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีความหลากหลายมากขึ้น ข้อตกลงทางการค้าเสรีพหุภาคี เช่น CPTPP และ RCEP มีส่วนช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้แนบแน่น ส่งเสริมให้ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้กลายเป็นคู่ค้าที่สําคัญมากยิ่งขึ้น
“เรายังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเครือข่าย รวมไปถึงการเพิ่มขีดความสามารถและพัฒนาการเชื่อมต่อของระบบการจัดส่งให้เร็วขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและส่งมอบบริการที่ดีที่สุดสู่มือลูกค้าของเรา” นางสาวคาวอล พรีท ประธานบริษัท เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เผย “ประเทศในกลุ่มเสือเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดการณ์ได้ว่าในปี 2567 จะมีอัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 4.9 เรามองว่าเวียดนามเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการบ่งชี้ถึงเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ บริการที่เราได้พัฒนาต่อยอดในประเทศเวียดนาม เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานเพื่อสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งความชำนาญในธุรกิจขนส่งและการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า”
“ประเทศไทยเป็นคู่ค้าและตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามในตลาดอาเซียน ทั้งสองประเทศมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีพลวัต มีการพัฒนาและการดำเนินงานที่เชื่อมโยง อีกทั้งเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ซึ่งช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถฟื้นตัวและสร้างเครือข่ายทางการค้าและระบบห่วงโซ่อุปทานในระดับภูมิภาคได้อย่างยั่งยืน” นายเทียน หลง วูน กรรมการผู้จัดการเฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ประเทศไทยและมาเลเซีย กล่าว
การยกระดับการบริการในครั้งนี้มีส่วนช่วยผลักดันความพยายามอย่างต่อเนื่องของประเทศไทยและเวียดนามในการส่งเสริมการค้าทวิภาคีที่มีศักยภาพสูงและอาจมีมูลค่าถึง 9 แสนล้านบาท ภายในปี 2568 โดยในปี 2565 พบมูลค่าการค้าระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นจริงสูงถึงกว่า 7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเป็นอัตราร้อยละ 8.7 บ่งชี้ถึงโอกาสทางการค้าระหว่างสองประเทศที่จะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
เฟดเอ็กซ์ ให้การสนับสนุนธุรกิจการค้าระหว่างประเทศในเวียดนามเสมอมาตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2537 ด้วยเที่ยวบินที่เพิ่มเข้ามาใหม่นี้ จะช่วยให้ธุรกิจในเวียดนามสามารถให้บริการแก่ลูกค้าในต่างประเทศได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการตอกย้ำถึงความทุ่มเทของ เฟดเอ็กซ์ ในการพัฒนาเพื่อยกระดับการบริการในเวียดนามและเสริมแกร่งระบบการดำเนินงานของธุรกิจทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ของ เฟดเอ็กซ์