กรมการปกครองเดินหน้าโครงการ NTS-Mekong Watch เต็มรูปแบบ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมแจ้งเหตุภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่ทั้งออฟไลน์/ออนไลน์ ปูพรมตั้งศูนย์ประสานงาน 44 อำเภอชายแดนไทย-ลาว ไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดตัวเว็บไซต์แจ้งเบาะแสทำผิดกฎหมาย
กรมการปกครอง เดินหน้าโครงการ NTS-Mekong Watch เต็มรูปแบบ เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยเน้นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน (Civic Engagement) ผ่านการจัดตั้งศูนย์ประสานงานกลไกการเฝ้าระวังลุ่มน้ำโขงอย่างมีส่วนร่วม (NTS-Mekong Watch Coordination Center- NTS-MWCC) ในพื้นที่เป้าหมาย 44 อำเภอ ใน 17 จังหวัด และจัดทำกลไกการแจ้งเหตุออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.NTS-Mekong.com เพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดนได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
โครงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Enhancing People -to- People Connectivity to Address Non-Traditional Security Challenges in the Mekong Region- NTS-Mekong Watch) เป็นโครงการที่กรมการปกครองได้รับการสนับสนุนจากกองทุนความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี (Mekong -ROK Cooperation Fund: MKCF) ภายใต้การจัดการโครงการโดยสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง (MI) มีเป้าหมายเพื่อบูรณาการความร่วมมือในระดับ อนุภูมิภาคในการรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณชายแดนไทย-ลาว และ ไทย-กัมพูชา ได้แก่ ปัญหาการค้ามนุษย์ การค้ายาเสพติด การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดเป็นปัญหาที่กระทบความเป็นอยู่ของประชาชนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายต้องการแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า “การพัฒนาพื้นที่ชายแดนทั้งด้านความมั่นคง สังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม เป็นภารกิจสำคัญของกรมการปกครองที่จะช่วยให้พื้นที่ชายแดนเข้มแข็ง ประชาชนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นไปพันธกิจและวิสัยทัศน์ของกระทรวงมหาดไทย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย และความมั่นคงภายใน เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีชุมชนเข้มแข็ง และมีเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน กรมการปกครองได้มุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ โดยใช้แนวทางการบริหารจัดการชายแดนแบบมีส่วนร่วมและครอบคลุม (Comprehensive Security Border Management) ผ่านโครงการ NTS-Mekong Watch ที่เน้นให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน (Civic Engagement) โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ชายแดน ซึ่งถือเป็นพื้นที่หน้าด่านของปัญหาที่ได้รับผลกระทบทั้งตรงและทางอ้อม ให้ประชาชนเกิดความตระหนักและรู้เท่าทันปัญหาเหล่านี้ เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ในลุ่มน้ำโขง ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำงานช่วยแก้ปัญหาในพื้นที่แล้ว ยังเป็นการช่วยประเทศชาติให้รอดพ้นจากภัยอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ด้วย”
ภายใต้โครงการ NTS-Mekong Watch ทางกรมการปกครองได้ลงมือดำเนินการ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแจ้งเหตุภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่ทั้งออฟไลน์/ออนไลน์
- แบบออฟไลน์ – จัดตั้งศูนย์ประสานงานกลไกในการเฝ้าระวังลุ่มน้ำโขงอย่างมีส่วนร่วม (NTS- Mekong Watch Coordination Center- NTS-MWCC) ในพื้นที่เป้าหมาย 44 อำเภอ ใน 17 จังหวัด ซึ่งเป็นอำเภอที่มีชายแดนติดกับไทย-ลาว และไทย-กัมพูชา ซึ่งจะเป็นศูนย์ประสานงานที่ประชาชนสามารถให้เบาะแสเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างมีรูปธรรมต่อไป
- แบบออนไลน์ – จัดทำกลไกการแจ้งเหตุออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ NTS-Mekong.com ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการต่อต้านภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่ด้วยตัวเอง โดยทั้ง 44 อำเภอ จะสามารถเข้าถึงข้อมูลการแจ้งเหตุออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับเขตรับผิดชอบของแต่ละอำเภอ เพื่อประมวลข้อมูลสำหรับการดำเนินการตรวจสอบ และประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกเหนือจากการเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมแจ้งเหตุภัยมั่นคง โครงการ NTS-Mekong Watch ยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชน (People – to – People Connectivity) ในพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว และไทย – กัมพูชา ผ่านการประชุมเชิงปฏิบัติการสานสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขงฯ เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่คู่ขนานได้พบปะและปรึกษาหารือร่วมกันผ่านการทำ SWOT Analysis วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อนและโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน รวมถึงการผลักดันแนวทาง “การสร้างชุมชนเข้มแข็งระหว่างประเทศ” (Building Strong Cross – Border Communities) ที่เน้นให้ประชาชนในพื้นที่คู่ขนานทำความเข้าใจกฎหมาย/กฎระเบียบในพื้นที่ซึ่งกันและกัน การใช้คุณธรรม/มนุษยธรรมนำการตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็งในเรื่องที่ผิดกฎหมายโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติเพื่อสร้างไว้วางใจให้เป็นเนื้อเดียวกันในพื้นที่คู่ขนาน ซึ่งจะเป็นเกราะกำบังภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่อย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับในปี 2567 กรมการปกครองเตรียมดำเนินการโครงการ NTS-Mekong Watch อย่างเต็มรูปแบบ โดยมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้เท่าทันภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่ (NTS-Literacy) ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนในพื้นที่ชายแดนเป็นผู้นำประชาชนแถวหน้า (Change Agent/Hero) ในการรับมือภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่อย่างเข้มแข็ง การสร้างพื้นที่ต้นแบบ (Best practice) “ชุมชนเข้มแข็งระหว่างประเทศ” ในพื้นที่คู่ขนานต่างๆ การเชิญคณะผู้นำและประชาชนจาก สปป.ลาว และกัมพูชา มาเยือนอำเภอคู่ขนานฝั่งประเทศไทยเพื่อกระชับความร่วมมือและดำเนินกิจกรรมด้านสังคม วัฒนธรรม รวมถึงการปรึกษาหารือกันเรื่องความมั่นคง เพื่อที่จะทำงานร่วมกันและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขที่สุด