วันอาทิตย์ 25 ส.ค. ประมาณ 23.00น. ตามเวลาไทย ซัยยิดฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ เลขาธิการขบวนการฮิซบุลเลาะห์แห่งเลบานอน ได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านโทรทัศน์ ภายหลังที่อิสราเอลโจมตีเลบานอน และต่อมาฮิซบุลเลาะห์ก็ได้เปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ในเช้าวันอาทิตย์
ซัยยิดฮัสซัน ยืนยันว่าการโจมตีอิสราเอลครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อตอบโต้การลอบสังหาร “ฟูอัด ชุกร์” ผู้บัญชาการทหารของกลุ่ม เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม
และนี่คือไฮไลท์จากสุนทรพจน์ของเขา:
การปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ได้รับการตั้งชื่อว่า “ปฏิบัติการวันอาร์บาอีน” เพื่อระลึกถึงวันสำคัญที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง
การล่าช้าในการปฏิบัติการเกิดจากการเคลื่อนไหวระดมกำลังทหารของอเมริกาและอิสราเอล ซึ่งการล่าช้านี้เป็นการลงโทษศัตรูในรูปแบบหนึ่งด้วยดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันฝ่ายต่อต้านชะลอการตอบโต้เพื่อให้เวลาเพียงพอสำหรับการเจรจาที่กำลังดำเนินการเกี่ยวกับกาซา โดยซัยยิดฮัสซันกล่าวว่า “เราต้องการเวลาในการพิจารณาว่าฝ่ายพันธมิตรจะตอบโต้ด้วยกันหรือแยกตอบโต้ในแต่ละแนวรบ และเราได้หยุดพักเพื่อให้โอกาสแก่การเจรจา เพราะเป้าหมายของเราคือการยุติการรุกรานในฉนวนกาซา แต่เห็นได้ชัดว่าการเจรจายืดเยื้อ และเนทันยาฮูได้เริ่มตั้งเงื่อนไขใหม่ให้แก่การต่อต้านในกาซา“
กำหนดแนวทางในการตอบโต้ เพื่อไม่ให้เป้าหมายเป็นพลเรือนหรือโครงสร้างพื้นฐานของศัตรู แต่เป็นเป้าหมายทางทหารที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับปฏิบัติการลอบสังหาร โดยซัยยิดฮัสซันได้อธิบายว่า เราได้กำหนดข้อจำกัดสำหรับการตอบโต้ ซึ่งจะไม่เป็นการโจมตีพลเรือน แม้ว่าเราจะมีสิทธิ์โจมตีพลเรือนก็ตาม และจะไม่โจมตีโครงสร้างพื้นฐาน แต่เป้าหมายจะต้องเป็นทางทหารที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร เช่น ฐานข่าวกรองและกองทัพอากาศ และเป้าหมายต้องอยู่ใกล้กับ “เทลอาวีฟ”
เราได้พบกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับข้อกำหนดของเราใกล้กับ “เทลอาวีฟ” และได้กำหนดฐาน “กลิลอต” (Galilot) ซึ่งเป็นฐานกลางของข่าวกรอง “อิสราเอล” ที่มีหน่วย 8200 อยู่ด้วย ซึ่งมีหน้าที่รวบรวมข้อมูลข่าวกรอง การดักฟัง และการสอดแนม
ซัยยิดฮัสซันยังระบุว่า ฐาน “กลิลอต” ห่างจากพรมแดนเลบานอนเพียง 110 กิโลเมตร และห่างจาก “เทลอาวีฟ” เพียง 1500 เมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในชานเมือง “เทลอาวีฟ” และเราได้รวมฐาน “อายน์ชีมา” ไว้ในวงการโจมตีซึ่งห่างจากเลบานอน 75 กิโลเมตร และห่างจาก “เทลอาวีฟ” 40 กิโลเมตร เช่นเดียวกับที่เราได้โจมตีเป้าหมายและค่ายทหารเพื่อทำให้ระบบป้องกันทางอากาศอ่อนแอลง ซึ่งจะเปิดโอกาสให้โดรนของเราผ่านไปยังเป้าหมายได้ และได้ตัดสินใจที่จะยิงจรวดคาติอูชาจำนวน 300 ลูก เพื่อโจมตีเป้าหมายในสถานที่ต่าง ๆ และยังได้โจมตีด้วยโดรนหลากหลายประเภทและขนาด
เกี่ยวกับเวลา ซัยยิดฮัสซันกล่าวว่า เราได้เลือกวันที่สี่สิบของอิมามฮุสเซน (อ.) เพื่อดำเนินการในเช้าวันอาทิตย์ หลังจากการละหมาดยามเช้า เวลา 5:15 น. ปฏิบัติการได้เริ่มขึ้น ในปฏิบัติการครั้งนี้ เราได้ส่งโดรนออกจากพื้นที่เบกา และแม้ว่าระยะทางจะไกล แต่ก็สามารถข้ามพรมแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองไปได้
ซัยยิดฮัสซันยืนยันในคำปราศรัยว่า ไม่มีฐานปล่อยจรวดใดถูกโจมตีก่อนปฏิบัติการ และฐานของโดรนก็ไม่ถูกทำลายทั้งก่อนและหลังปฏิบัติการ
ซัยยิดฮัสซันกล่าวว่า เป้าหมายทางทหารที่สำคัญคือฐานข่าวกรองทางทหาร “อามาน” และหน่วย 8200 ใน “กลิลอต” และเป้าหมายอีกอย่างหนึ่งคือฐานป้องกันทางอากาศใน “อายน์ชีมา” โดยย้ำว่าข้อมูลของเรายืนยันว่า โดรนจำนวนมากได้เข้าถึงเป้าหมายทั้งสองแห่งแล้ว แม้ว่าศัตรูจะปิดบังข้อมูลไว้ แต่วันเวลาจะเปิดเผยความจริงเอง ในปฏิบัติการนี้ เราได้ยิงจรวดไปทั้งหมด 340 ลูก และศัตรูไม่สามารถหยุดยั้งได้
ซัยยิดฮัสซันกล่าวว่า เรื่องราวของศัตรูเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเต็มไปด้วยการโกหก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของศัตรู และการกล่าวอ้างของศัตรูเกี่ยวกับการโจมตีด้วยจรวดยุทธศาสตร์และจรวดที่มีความแม่นยำซึ่งเตรียมไว้เพื่อโจมตี “เทลอาวีฟ” นั้นเป็นการโกหกทั้งหมด แต่ในการปฏิบัติการครั้งนี้ เราไม่ได้ต้องการใช้จรวดเหล่านั้นเพราะเห็นว่าไม่จำเป็น
ซัยยิดฮัสซันยืนยันว่า จรวดยุทธศาสตร์และจรวดที่มีความแม่นยำไม่ถูกทำลาย เขาอธิบายว่า ศัตรูเชื่อว่าหุบเขาหลายแห่งเป็นที่ตั้งของแท่นยิงจรวดและสิ่งปลูกสร้างที่สามารถถูกทำลายได้ และผู้บัญชาการนายชูกร์ได้ตัดสินใจก่อนหน้านี้ที่จะอพยพหุบเขาและสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นออกไป และสิ่งที่ถูกโจมตีเป็นเพียงหุบเขาที่ว่างเปล่าหรือถูกอพยพออกไปแล้ว
ซัยยิดฮัสซันกล่าวในคำปราศรัยว่า ก่อนเวลาเริ่มปฏิบัติการครึ่งชั่วโมง “อิสราเอล” ได้เริ่มการโจมตีทางอากาศในภาคใต้ แต่ไม่ได้มีข้อมูลข่าวกรองที่แน่นอน เป็นเพราะการเคลื่อนไหวของนักรบที่เตรียมตัวในการปฏิบัติการเท่านั้น
ซัยยิดฮัสซันกล่าวว่า เราได้พบกับความล้มเหลวด้านข่าวกรองของ “อิสราเอล” และความล้มเหลวในการดำเนินงานล่วงหน้า ปฏิบัติการของเราเสร็จสิ้นอย่างแม่นยำตามแผนที่วางไว้ และในวันนี้เราได้เห็นภาพที่แสดงถึงความกล้าหาญของการต่อต้านเมื่อได้ตัดสินใจครั้งนี้ ศัตรูได้ปิด “เทลอาวีฟ” และสนามบิน และเปิดที่หลบภัยเพียงแค่เราใช้จรวดคาติอูชาและโดรน แล้วถ้าเราใช้มากกว่านั้นล่ะ?
ซัยยิดฮัสซันกล่าวว่า นี่เป็นปฏิบัติการใหญ่ครั้งแรกที่การต่อต้านดำเนินการโดยไม่มีผู้บัญชาการใหญ่ อย่างผบ.ฟูอาด และไม่มีความล้มเหลวใด ๆ ศัตรูในเช้าวันนี้ไม่กล้าโจมตีพลเรือน เพราะมีการต่อต้านและสิ่งแวดล้อมที่สนับสนุนการต่อต้าน และนี่คือข้อกำหนดที่เรากลับมายืนยันในวันนี้
ซัยยิดฮัสซันกล่าวเพิ่มเติมว่า ขั้นตอนแรกคือการโจมตีเป้าหมายทางเหนือด้วยจรวด 340 ลูก และขั้นตอนที่สองคือการส่งโดรนหลากหลายประเภทไปยังพื้นที่ลึกของศัตรู เราจะติดตามผลจากการปกปิดของศัตรูเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในฐานทั้งสองแห่งที่ถูกโจมตี และการตอบโต้ในครั้งนี้น่าพอใจ แต่ถ้าเราเห็นว่ายังไม่เพียงพอ เราจะสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้จนกว่าจะถึงเวลาอีกครั้ง และเราจะไม่ละทิ้งกาซา ประชาชนของกาซา และปาเลสไตน์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น