เกิดเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่จากวิทยุติดตามตัวหรือ “เพจเจอร์” กว่า 3,000 เครื่อง ในเลบานอนและซีเรีย เมื่อบ่ายวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 2,750 ราย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่ที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์มีอิทธิพลสูง ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่าเป็นการโจมตีที่ประสานงานกันอย่างชัดเจน
เหตุการณ์ระเบิดเริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15:30 น. ของวันที่ 17 ก.ย. 67 ตามเวลาท้องถิ่น วิทยุติดตามตัวหรือเพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันในหลายพื้นที่ของเลบานอน รวมถึงกรุงเบรุตตอนใต้ ขณะที่ในซีเรีย มีรายงานการระเบิดใกล้กรุงดามัสกัส วิทยุติดตามตัวจำนวนมากเป็นของสมาชิกฮิซบอลเลาะห์ อัลจาซีรารายงานว่าการระเบิดดำเนินไปนานถึง 1 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดความโกลาหลในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขเลบานอน มีผู้บาดเจ็บรวมกว่า 2,750 ราย โดยอาการสาหัสกว่า 200 ราย ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า มือ และท้อง นอกจากนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย ซึ่งรวมถึงเด็กหญิงวัย 8 ขวบ และบุตรชายของ ส.ส. อาลี อัมมาร์ จากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ทั้งนี้ โรงพยาบาลกว่า 150 แห่งทั่วประเทศได้ให้การรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ชัดเจนว่ามีเพียงสมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เท่านั้นที่ถือเครื่องเพจเจอร์
สำนักข่าวฟาร์สของอิหร่านรายงานว่า มุจตาบา อามานี (Mojtaba Amani) เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำเลบานอน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการระเบิดของเพจเจอร์ และกำลังได้รับการเฝ้าติดตามอาการในโรงพยาบาล สำนักข่าวเมะห์ของอิหร่านยังยืนยันด้วยว่า อามานีได้รับบาดเจ็บจากการระเบิด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานทูตอีก 2 คน
กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็นการโจมตีที่มีอิสราเอลอยู่เบื้องหลัง โดยกลุ่มประกาศว่าจะมีการตอบโต้ “การรุกรานที่เป็นอาชญากรรม” นี้ ขณะที่ฮามาสและอิหร่านต่างประณามการกระทำดังกล่าว โดยยืนยันว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและเรียกร้องให้ประชาคมโลกประณามอิสราเอล
นักวิเคราะห์ชี้ถึงทฤษฎี 2 ประการในการเกิดระเบิด ได้แก่ การแฮกเพจเจอร์จนแบตเตอรี่ร้อนเกินไป และการฝังวัตถุระเบิดไว้ในเพจเจอร์ที่ได้รับการดัดแปลงล่วงหน้า นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า อุปกรณ์เหล่านี้เป็นรุ่น Gold Apollo AR-924 ผลิตในไต้หวัน และอาจถูกดัดแปลงให้ติดตั้งวัตถุระเบิดจากต้นทางก่อนถูกนำเข้ามายังเลบานอน
รัฐบาลเลบานอนเรียกร้องให้ประชาคมโลกประณามการโจมตีครั้งนี้ และได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสหประชาชาติ สหรัฐฯ ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตี ขณะที่แอร์ฟรานซ์และลุฟท์ฮันซาได้ระงับเที่ยวบินไปยังอิสราเอล เนื่องจากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยในภูมิภาค
ทำไมฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์
สมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์บางคนเริ่มใช้เพจเจอร์มาหลายปีก่อนเหตุการณ์โจมตีในวันที่ 7 ตุลาคม แต่ภายหลังการโจมตี ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ เลขาธิการฮิซบอลเลาะห์ได้แจ้งเตือนว่ากลุ่มอิสราเอลได้แทรกซึมเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของพวกเขา ส่งผลให้สมาชิกเริ่มใช้เพจเจอร์มากขึ้น ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 นัสรัลเลาะห์เรียกร้องให้สมาชิกเลิกใช้สมาร์ทโฟน หลังจากแถลงการณ์นี้ ฮิซบอลเลาะห์ได้ซื้อเพจเจอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่และเพิ่งนำเข้ามายังเลบานอน เพจเจอร์ดังกล่าวเป็นรุ่น Gold Apollo AR-924 ที่ผลิตในไต้หวัน มีรายงานว่าอุปกรณ์เหล่านี้ถูกแฮกในอิหร่านก่อนจะถูกส่งมายังเลบานอน
เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเพจเจอร์นี้และการระเบิดได้อย่างไร
เหตุการณ์ระเบิดเพจเจอร์ในเลบานอนและซีเรีย เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2024 ทำให้เกิดความตื่นตัวในหลายภาคส่วน เนื่องจากเพจเจอร์กว่า 3,000 เครื่องเกิดการระเบิดพร้อมกัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเพจเจอร์นี้และสาเหตุที่อาจทำให้เกิดการระเบิดถูกนักวิเคราะห์และหน่วยงานข่าวกรองตรวจสอบอย่างละเอียด ต่อไปนี้คือสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับเพจเจอร์เหล่านี้และวิธีที่มันอาจถูกดัดแปลงให้ระเบิด
1. รุ่นของเพจเจอร์
เพจเจอร์ที่เกิดระเบิดในเหตุการณ์นี้ เป็นรุ่น Gold Apollo AR-924 ซึ่งผลิตในไต้หวัน อุปกรณ์เหล่านี้ถูกนำเข้ามาในเลบานอนโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์หลังจากเลขาธิการฮิซบอลเลาะห์ ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ แนะนำให้สมาชิกกลุ่มเลิกใช้สมาร์ทโฟน เนื่องจากกลัวว่าระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือจะถูกอิสราเอลแทรกซึม เพจเจอร์ดังกล่าวถูกใช้เป็นทางเลือกในการสื่อสารที่คาดว่าจะปลอดภัยกว่า
2. ทฤษฎีเกี่ยวกับการระเบิด
นักวิเคราะห์นำเสนอทฤษฎี 2 แนวทางเกี่ยวกับวิธีที่เพจเจอร์เหล่านี้อาจถูกดัดแปลงจนเกิดการระเบิด
- ทฤษฎีที่ 1: การแฮกเพจเจอร์
บางรายคาดว่าอุปกรณ์อาจถูกแฮกผ่านระบบส่งสัญญาณ ซึ่งทำให้แบตเตอรี่ลิเธียมที่อยู่ในเพจเจอร์ร้อนเกินไปจนเกิดระเบิด การระเบิดแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้หากแบตเตอรี่เกิดภาวะ Thermal Runaway คือเมื่อแบตเตอรี่ร้อนขึ้นจากภายในจนเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ส่งผลให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง
- ทฤษฎีที่ 2: การฝังวัตถุระเบิดไว้ในอุปกรณ์
นักวิเคราะห์อีกกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าเพจเจอร์อาจถูกดัดแปลงก่อนส่งมาถึงเลบานอน โดยมีการฝังวัตถุระเบิดขนาดเล็กไว้ข้างใน ซึ่งจะทำงานเมื่อได้รับสัญญาณหรือข้อความที่กำหนด อุปกรณ์เหล่านี้อาจถูกดัดแปลงในช่วงกระบวนการผลิตหรือการขนส่งก่อนจะถูกส่งถึงมือกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ รายงานของ นิวยอร์กไทมส์ ชี้ว่าอิสราเอลอาจมีส่วนร่วมในการดัดแปลงเพจเจอร์เหล่านี้เพื่อติดตั้งวัตถุระเบิด
3. บทบาทของแบตเตอรี่ลิเธียม
เพจเจอร์ที่เกิดการระเบิดใช้แบตเตอรี่ลิเธียมชนิดชาร์จไฟได้ ซึ่งพบได้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป เช่น สมาร์ทโฟนหรือรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ลิเธียมเป็นที่รู้จักว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดความร้อนเกินขีดจำกัด หากมีการควบคุมพลังงานไม่เหมาะสม หรือเกิดข้อผิดพลาดทางวิศวกรรม อุณหภูมิที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดการละลายและระเบิดได้ ซึ่งตรงกับเหตุการณ์ที่เพจเจอร์ระเบิดในครั้งนี้
4. ความเชื่อมโยงกับการแฮกเครือข่ายวิทยุ
แม้เพจเจอร์จะไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่มีการคาดการณ์ว่าเครือข่ายวิทยุที่เพจเจอร์เหล่านี้ใช้สื่อสาร อาจถูกเจาะโดยผู้ไม่ประสงค์ดี เช่น อิสราเอล ซึ่งมีความสามารถในการแฮกระบบสื่อสารของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มาก่อน การเจาะเครือข่ายนี้อาจส่งผลให้เกิดสัญญาณกระตุ้นที่ทำให้เกิดการระเบิดในเพจเจอร์ได้
5. การตั้งข้อสงสัยของหน่วยงานระหว่างประเทศ
รายงานจากสำนักข่าว CNN และนิวยอร์กไทมส์ ยืนยันว่ามีความเป็นไปได้ที่เพจเจอร์เหล่านี้ถูกดัดแปลงตั้งแต่กระบวนการผลิตในไต้หวัน รายงานของสำนักข่าวเอพีระบุว่าอุปกรณ์ดังกล่าวอาจมีการดัดแปลงระเบิดก่อนจะมาถึงเลบานอน ขณะที่นักวิเคราะห์จากสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า การระเบิดนี้อาจไม่ได้เป็นเพียงการแฮกระบบจากระยะไกลเท่านั้น แต่อาจเกี่ยวข้องกับการติดตั้งวัตถุระเบิดล่วงหน้าซึ่งสามารถจุดชนวนได้จากระยะไกล
อ้างอิง